
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงระนาว เมื่อคืนวานนี้ (10 มีนาคม 2025) โดยดัชนี S&P 500 ดิ่งลง 2.7% ขณะที่ Nasdaq ลบไปถึง 3.8% จากความกลัวเรื่องเศรษฐกิจถดถอย (Recession Fear) ที่กลับมาหลอกหลอนนักลงทุนอีกครั้ง ปัจจัยกดดันหลายด้านทำให้ตลาดเริ่มไม่มั่นใจในแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต ทั้งนโยบายภาษีของทรัมป์ GDP มีแนวโน้มชะลอตัว และตลาดแรงงานเริ่มอ่อนแอ
Recession Fear
ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อ Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาโพสต์บน Truth Social ว่าเขาจะผลักดันนโยบาย “America First” ด้วยการเก็บภาษีนำเข้า 25% สำหรับสินค้าทุกประเภทจากแคนาดาและเม็กซิโก ยกเว้นน้ำมันและพลังงานจากแคนาดาที่ถูกเก็บภาษี 10%
ส่วนสินค้าจากจีนถูกปรับขึ้นภาษีอีก 10% จากเดิมที่เคยประกาศไว้ ทำให้รวมแล้วเพิ่มขึ้นเป็น 20%
ด้าน Goldman Sachs คาดว่า หากนโยบายนี้บังคับใช้เต็มรูปแบบ GDP สหรัฐฯ อาจลดลง 0.8% ขณะที่ Morgan Stanley ประเมินว่าอาจลดลงถึง 1.1%
นอกจากนี้ ข้อมูล GDPNow จาก Atlanta Fed บอกว่าไตรมาสแรกของปี 2025 เศรษฐกิจอาจติดลบถึง 2.4% ถ้าตัวเลขนี้เป็นจริง 2 ไตรมาสติดกัน ก็จะเข้าข่าย Recession แบบเต็มตัว
ด้านตลาดแรงงานก็ส่งสัญญาณที่น่ากังวล รายงานจาก Trading Economics ระบุว่า การจ้างงานใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์มีเพียง 151,000 ตำแหน่ง ต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี และการขอสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องเพิ่มขึ้นเป็น 1.897 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้
มาดูข้อเท็จจริงกัน
อย่างไรก็ตาม รายงานจาก Trading Economics ยังระบุอีกว่า อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ อยู่ที่ 4.1% ซึ่งถือว่ายังไม่ถึงจุดอันตราย
Claudia Sahm นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง เคยบอกว่า “ถ้าตัวเลขอัตราการว่างงานพุ่งเกิน 4.5% ในเวลาสั้น ๆ ค่อยเริ่มกังวล” แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงจุดนั้น
ทั้งนี้ การใช้จ่ายของผู้บริโภค ยังคงมีโมเมนตัมที่ดีในช่วงต้นปี 2025 โดยได้แรงหนุนจาก ค่าจ้างหลังหักภาษี ที่เติบโต 3% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY)
ด้าน ค่าจ้างที่แท้จริง (Real Wage Growth) ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดย U.S. Bureau of Labor Statistics รายงานว่า ค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมงที่แท้จริงเพิ่มขึ้น 1.0% จากธันวาคม 2023 ถึงธันวาคม 2024
Federal Reserve Bank of Atlanta ระบุการเติบโตเฉลี่ย 1.8% ในช่วงมกราคม 2024 – 2025 ส่วน Economic Policy Institute คาดการณ์การเติบโต 1 – 2% ในปี 2024 – 2025 โดยเฉพาะในกลุ่มรายได้ต่ำที่เติบโตสะสม 13.2% ตั้งแต่ 2019 – 2023
และ Bank of America Institute ชี้ว่า ค่าจ้างหลังหักภาษีที่แท้จริงเพิ่มขึ้น 3% ในธันวาคม 2024 เทียบกับปีก่อนหน้า แม้ว่าอัตราการเติบโตจะชะลอลงจากช่วงสูงสุดในยุคโควิด แต่แนวโน้มยังคงเป็นบวกจากการที่เงินเฟ้อลดลงเหลือ 3 – 4% ในต้นปี 2025 แปลว่าชาวอเมริกันยังมีเงินในกระเป๋า และหนี้ครัวเรือนก็ยังไม่พุ่งถึงขั้นวิกฤต
ด้าน Jerome Powell ประธาน Fed ระบุว่า เศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง และพร้อมลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการเติบโตหากจำเป็น ซึ่งหมายความว่าหากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ใกล้เข้าสู่ Recession จริง ๆ Fed ก็ยังมีเครื่องมือที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าว
สรุปแล้วเสี่ยงแค่ไหน?
ย้อนกลับไปปี 2023 สมัยที่ทุกคนกลัว Recession เหมือนกัน Goldman Sachs เคยให้โอกาสถึง 30% แต่สุดท้ายเศรษฐกิจสหรัฐฯ กลับเติบโตต่อเนื่องถึง 7 ไตรมาสที่อัตรา 1.5% ขึ้นไป
ทั้งนี้ แม้จะมีความเสี่ยงในการเกิด Recession แต่โอกาสในการเกิดขึ้นยังคงอยู่ในระดับปานกลาง โดย J.P. Morgan ปรับโอกาสเกิด Recession จาก 17% เป็น 31% ในวันที่ 7 มีนาคม ขณะที่ Goldman Sachs ประเมินไว้ที่ 20%
แม้ว่าความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยจะมีอยู่ แต่ข้อมูลหลายอย่างยังบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงมีความแข็งแกร่ง นโยบายภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์อาจสร้างความสั่นสะเทือน แต่ Fed และการใช้จ่ายของผู้บริโภคยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจ
อ้างอิง: Bank of America Institute, Bureau of Labor Statistics, CNN