ONE-UGG-RA
ONE Ultimate Global Growth Fund Class RA
มีกองทุนหุ้นเติบโตเพียงไม่กี่กองที่มีการเติบโตรวดเร็วสมชื่อ
กองทุน ONE-UGG-RA เป็นหนึ่งในกองทุน ที่สามารถรักษาการเติบโตที่ต่อเนื่องไว้ได้ในระยะยาว
มีนโยบายลงทุนในกองทุน Baillie Gifford LTGG
ลงทุนในหุ้นทั่วโลกโดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างผลตอบแทนอย่างแท้จริงในระยะเวลา 5-10 ปี
ผลการดำเนินงานโดดเด่น
เติบโตได้รวดเร็วสมชื่อ
ลงทุนในหุ้นเติบโตทั่วโลก
ได้อย่างไร้ข้อจำกัด
เกาะกระแสระยะยาว
อย่างเทคโนโลยี
จุดเด่นกองทุน
เน้นลงทุนในหุ้นเติบโตทั่วโลกแบบไร้ขีดจำกัด เชื่อมั่นในการลงทุนกับบริษัท ที่พร้อมเติบโตหลายเท่า และมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนในระยะยาว
ความเคลื่อนไหวของ NAV ONE-UGG-RA
ที่มา : https://www.finnomena.com/fund/ONE-UGG-RA/
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน
มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
สูตรลับของ Baillie Gifford ที่ก่อให้เกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“ที่ Baillie Gifford เราถามคำถามตัวเราเองเสมอว่า
โอกาสการลงทุนที่เร้าใจที่สุดในระยะยาวอยู่ที่ไหน”
ขอต้อนรับเข้าสู่โลกของการลงทุนที่ผู้จัดการการลงทุนไม่ได้เก่งแต่เรื่องลงทุน
แต่ยังรู้เรื่องเทคโนโลยี ศิลปะ ประวัติศาสตร์ จนไปถึงเรื่องการเต้นบัลเลต์
ที่ Baillie Gifford การศึกษาหุ้นที่จะเลือกเข้ากองทุนไม่ได้ใช้เพียงความรู้
ด้านการเงินของทีมผู้จัดการกองทุน แต่ยังใช้ความรู้เฉพาะทางในแต่ละสายงานด้วย
ดังนั้นการเลือกหุ้นของ Baillie Gifford จะเป็นการเลือกแบบ “คนวงใน” คือคนที่มีความรู้ลึก
อยู่ในอุตสาหกรรม และมีความชอบจริง ๆ ในสายงานนั้น ๆ ทำให้การประเมินอนาคต
ก่อนทำการลงทุนมีประสิทธิภาพมากกว่าทีมที่เป็นสายการเงินเพียว ๆ
“นักลงทุนตัวจริงมองไปในอนาคต ไม่ใช่อดีต”
ปัจจุบันเจ้าของ Baillie Gifford คือพาร์ทเนอร์ที่ทำงานอยู่กับบริษัททั้ง 43 คน
บริษัทก่อตั้งขึ้นที่เมือง Edinburgh ประเทศ Scotland ในปี 1907
บริษัทเริ่มต้นด้วยการเป็นบริษัทกฎหมายก่อนจะผันตัวมาทำเรื่องการลงทุนในปี 1908
ด้วยระยะเวลาที่ยาวนานรวมถึงประสบการณ์ทีมงานที่หลากหลายแต่รู้ลึก
ทำให้ Baillie Gifford เป็นหนึ่งในบริษัท Investment Management ที่โดดเด่นที่สุด ณ ปัจจุบัน
“เราถามตัวเองอยู่เสมอว่าหุ้นที่ถืออยู่นั้น
มีศักยภาพในการเติบโต 5 เท่า ภายใน 5 ปีหรือไม่?”
หลักการลงทุนของทางกองทุนนั้นค่อนข้าง Aggressive พอสมควร
กองทุนไม่ได้มองว่าหุ้นแต่ละตัวจะให้ผลตอบแทนเท่าไหร่ในอีก 1 ปีข้างหน้า
แต่ใช้วิธีดูว่าภายใน 5 ปีข้างหน้าหุ้นตัวนี้จะสามารถเติบโต 5 เท่าได้หรือไม่?
อะไรบ้างเป็นปัจจัยที่ทำให้สามารถเติบโตได้ และอะไรคือความเสี่ยงที่ต้องจับตามอง
ข้อมูลทั่วไปของ Baillie Gifford LTGG
สไตล์การลงทุน
เน้นเติบโต (Growth)
34
จำนวนหุ้นในพอร์ต
ดัชนีชี้วัด
ดัชนีหุ้นโลก MSCI ACWI Growth NR USD
ผลการดำเนินงานย้อนหลังของ Baillie Gifford LTGG
ที่มา: morningstar.com ข้อมูล ณ วันที่ 18/10/2020
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน
มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ลักษณะสำคัญของ Baillie Gifford LTGG
P/B
Baillie Gifford : 11.17
ดัชนีหุ้นโลก : 2.28
P/E
Baillie Gifford : 60.03
ดัชนีหุ้นโลก : 17.82
กำไรย้อนหลัง
Baillie Gifford : 23.65%
ดัชนีหุ้นโลก : 4.95%
การเติบโตของกำไร
(ระยะยาว)
Baillie Gifford : 18.18%
ดัชนีหุ้นโลก : 8.77%
ความผันผวน
(3 ปีย้อนหลัง)
Baillie Gifford : 23.43%
ดัชนีหุ้นโลก : 16.63%
*ข้อมูลความผันผวน ที่มา: morningstar.com อัพเดทล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2563
**ข้อมูลนอกเหนือจากความผันผวน ที่มา: morningstar.com อัพเดทล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2563
ผู้จัดการกองทุน Baillie Gifford LTGG
Mark Urquhart
เริ่มงานกับ Baillie Gifford มาตั้งแต่ปี 1996
ได้รับเรทติ้ง AAA จากเว็บไซต์ Citywire
ทำผลตอบแทนระยะยาวจากหุ้นโลก 5 ปีได้สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก อยู่ที่ 355.1%*
*จากการจัดอันดับของผู้จัดการกองทุนทั้งสิ้น 375 คน โดย Citywire ณ วันที่ 30/9/2020
Tom Slater
เริ่มงานกับ Baillie Gifford ในปี 2000
ได้รับเรตติ้ง AAA จากเว็บไซต์ Citywire
ทำผลตอบแทนระยะยาวจากหุ้นโลก 3 ปีได้สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก อยู่ที่ 148.2%* เคียงคู่กับ Mark Urquhart
*จากการจัดอันดับของผู้จัดการกองทุนทั้งสิ้น 506 คน โดย Citywire ณ วันที่ 30/9/2020
ที่มา: citywire.co.uk ข้อมูล ณ วันที่ 30/9/2020
ภูมิภาคหลักที่ลงทุน
ที่มา: Baillie Gifford 31/12/2020
Sector หลักที่ลงทุน
ที่มา: Baillie Gifford 31/12/2020
หุ้น 10 อันดับแรกที่ Baillie Gifford LTGG
1. Tesla Inc
สัดส่วน: 9.86%
บริษัทรถยนต์พลังไฟฟ้าแห่งอนาคตที่มีมูลค่าบริษัทแซงหน้ารุ่นพี่อย่าง Ford และ GM ไปแล้วเรียบร้อย Tesla คือหนึ่งในบริษัทที่ Wall Street คาดว่าจะเป็นบริษัทที่มา “ปฏิวัติ” อุตสาหกรรมรถยนต์
2. Pinduoduo
สัดส่วน: 5.91%
หาก E-Commerce อันดับ 1 ของจีน คือ Taobao โดย Alibaba อันดับ 2 ก็คือ Pinduoduo ซึ่งมีจุดเด่นคือการขายของถูกมากให้คนจนมาก นอกจากนี้ยังใช้วิธี “ขายของให้สนุก” เหมือนนำ Disneyland มาผสมเข้าไป ตัวอย่างเช่น การทำ Group Buy ชวนเพื่อนมาซื้อร่วมกัน การทำ Social E-Commerce เพราะได้รับการหนุนจาก Tencent ซึ่งมีแพลตฟอร์มอย่าง WeChat และ QQ อีกที รวมไปถึงการใช้เกมเข้ามาเสริมประสบการณ์
3. Amazon.com
สัดส่วน: 5.63%
แม้ Amazon จะเริ่มต้นด้วยการเป็นร้านขายหนังสือออนไลน์ในปี 1996 แต่ปัจจุบัน Amazon มีธุรกิจ E-commerce ที่หลากหลายขายสินค้าหลายอย่างจนถูกขนานนามว่าเป็น Everything Store
4. Meituan Dianping
สัดส่วน: 5.09%
นี่คือบริษัทจีนที่หวังจะเป็น Amazon ด้านการให้บริการต่าง ๆ โดย Meituan Dianping มีแอปฯ ที่จะเชื่อมผู้ใช้งานกับธุรกิจท้องถิ่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร โรงแรม โรงหนัง ฯลฯ ในปี 2018 ยังได้เข้าซื้อ Mobike เพื่อสร้างระบบให้บริการด้านการเดินทางด้วยเช่นกัน
5. Tencent
สัดส่วน: 5.08%
ยักษ์ใหญ่ Social Media เมืองจีน และบริษัทเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจาก Tencent จะเป็นบริษัท Social Media ที่ใหญ่ที่สุดในจีน Tencent ยังเป็นบริษัทเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยเมื่อวัดกันที่รายได้ไตรมาส 4 ปี 2019
6. Alibaba
สัดส่วน: 4.33%
ปัจจุบัน Alibaba คือบริษัท E-commerce ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีมูลค่าสินค้าจัดจำหน่าย) มากกว่า Amazon และ Ebay รวมกัน ธุรกิจของ Alibaba นับว่าหลากหลายมากตั้งแต่ E-Commerce, Mobile Payment, Cloud, E-Logistic เป็นต้น
7. Illumina
สัดส่วน: 4.03%
Illumina เป็นบริษัทไบโอเทค ผู้นำด้านการถอดรหัส DNA และวิเคราะห์มะเร็ง เป็นผู้ผลิตเครื่องถอดรหัส DNA ให้กับโรงพยาบาลทั่วโลก ธุรกิจของ Illumina ไม่เพียงแต่ขายเครื่องแต่ยังขายวัตถุดิบที่ใช้กับเครื่องที่ขายด้วย
8. Kering
สัดส่วน: 3.74%
บริษัทเจ้าของแบรนด์เนมชื่อดังอย่าง Gucci, Bottega Veneta, Balenciaga, Saint Laurent ปี 2019 รายได้โต 16.2% การเติบโตของเศรษฐกิจโลกไม่ค่อยดี ทำไมเจ้าของแบรนด์หรูเหล่านี้ยังเติบโต คำตอบไม่ต้องไปหาไกล อยู่ประเทศใกล้ๆ ไทยคือประเทศจีนนั่นเอง
9. Netflix
สัดส่วน: 3.54%
บริษัทส่ง DVD ตามบ้านที่พลิกผันตัวเองเข้าสู่บริการ Online Streaming ใคร ๆ ก็สามารถดูหนังบุฟเฟต์ผ่านอินเตอร์เน็ตได้เริ่มต้นเพียง 280 บาท/เดือน เทียบเท่าอาหารญี่ปุ่นมื้อเดียวเท่านั้น
10. Peloton
สัดส่วน: 3.50%
บริษัทเจ้าของบริการ Streaming Fitness หรือการให้บริการฟิตเนสทางไกล มีทั้งอุปกรณ์และแพลตฟอร์มที่เชื่อมกัน เช่น จักรยาน ลู่วิ่ง ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่ผู้ใช้จะเข้าถึงคลาสเรียนฟิตเนสต่าง ๆ ได้
ข้อมูลอื่น ๆ ของ ONE-UGG-RA
ลงทุนกองทุน ONE-UGG-RA กับ FINNOMENA
เลือกเมนูข้างล่างนี้ได้เลย!
คําเตือน
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน
มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด
ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”