สถานการณ์ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นมา โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง Dow Jones และ S&P 500 ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ (All Time High) หลังการเข้าพิธีสาบานตนของ ประธานาธิปดีสหรัฐฯคนใหม่ นายโดนัล ทรัมป์ พร้อมกับ การลงนามใน Executive Order 5 ฉบับ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และความตั้งใจในการดำเนินนโยบายแบบ Pro-growth ที่หาเสียงไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้นักลงทุนมีมุมมองเชิงบวก และปรับพอร์ตเข้าลงทุนในตราสารทุนต่อเนื่องนับตั้งแต่ในช่วง 1-2 สัปดาห์สุดท้ายของเดือน ม.ค.
นายโดนัล ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารทั้งหมด 5 ฉบับดังนี้
- ฉบับแรกหลังรับตำแหน่ง เพื่อระงับหรือชะลอการบังคับใช้ข้อกำหนดของกฏหมายโอบามาแคร์ (Obamacare) เพื่อลดภาระทางการเงิน
- ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงการค้า Trans-Pacific Partnership (TPP)
- ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารให้มีการสร้างกำแพงตามแนวชายฝั่งสหรัฐฯ ที่ติดต่อกับประเทศเม็กซิโก
- ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารจัดการกับเมืองที่ให้ที่พักพิงแก่ผู้อพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย เพื่อจำกัดการอพยพและเพิ่มการรักษาความปลอดภัยในประเทศ
- ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารให้อนุมัติการเดินหน้าโครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำมัน 2 โครงการ คือ โครงการ คีย์สโตน เอ็กซ์แอล และโครงการดาโกต้า แอคเซส
จะเห็นว่า การลงนามคำสั่ง Executive Order ของทรัมป์ แต่ละอัน คือประเด็นที่เขาใช้หาเสียงไว้ก่อนการเลือกตั้งทั้งนั้น ถึงแม้จะแค่ 5 ฉบับ แต่ตลาดทุนก็ตอบรับในเชิงบวกกับแผนและนโยบายแบบ pro-growth โดยเฉพาะการอนุมัติโครงการสร้างท่อส่งก๊าซ 2 โครงการใหญ่
ในระบบการจัดพอร์ตโฟลิโอเพื่อการลงทุนของเรา ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนใดๆอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่มุมมองของ FINNOMENA Guru ยังเห็นควร คงสัดส่วนการลงทุน ไว้ที่ระดับเดิม เริ่มเห็นความเสี่ยงจากการดำเนินนโยบายแบบ Aggressive ภายใต้การบริหารของนายทรัมป์ ซึ่งน่าจะทำให้ตลาดทุนมีความผันผวนในช่วงครึ่งปีแรก แต่เชื่อว่า แนวโน้มการแข็งค่าของค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯในระยะกลาง จะเป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ในระยะยาว
สรุปผลการดำเนินงานของ NTER Model
ข้อมูล ณ วันที่ 21/02/60
ผลการดำเนินงาน เดือน ก.พ. ที่ผ่านมา โดยรวมทรงตัว มีแรงขายทำกำไร และมีปัจจัยเสี่ยงจากการขึ้นดอกเบี้ยของ FED อย่างไรก็ตามภาวะเศรษฐกิจโลกและตลาดทุนมีแนวโน้มดูดีขึ้น หลังทรัมป์เลือกตั้งชนะ และได้เริ่มอนุมัติโครงการต่างๆ ตามที่หาเสียง ตลาดย่อยผลกระทบที่เกิดขึ้น และนักลงทุนเริ่ม Selective มากขึ้น กองทุนหุ้นประเทศกลุ่มเกิดใหม่ (KF-EM) ฟื้นตัวต่ออีก 2.3% หลังปรับลดมาแรงในช่วงสิ้นปีที่แล้ว ในขณะที่หุ้นไทยได้รับผลกระทบจาก FED ทำให้กองทุนหุ้นขนาดเล็กถึงกลางอย่าง UTSME ปรับลดเล็กน้อย -2.3%
ข้อมูล ณ วันที่ 21/02/60
ทิศทางการลงทุนตลาดโลกเป็นไปตามคาด ในขณะที่ตลาดไทยมีแรงขายทำกำไร หุ้นยังคงเป็นสินทรัพย์หลักที่รับอานิสงส์จากทรัมป์ได้ดี ในเดือนที่ผ่านมา Health Care และ หุ้นอินเดีย จัดว่าโดดเด่น กองทุน UOBSHC และ MS-INDIA ฟื้นตัวต่อเนื่อง ขึ้นอีก 5.4% และ 3.0% ใน 1 เดือน ตามลำดับ
CEO conner
สารจาก CEO ของ FINNOMENA
ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทาง FINNOMENA เปิดตัวพอร์ตการลงทุนสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างกระแสรายได้ ที่ชื่อ NTER GIF โดยพอร์ตการลงทุนนี้ ตั้งใจออกแบบมาเพื่อให้สามารถจ่ายเป็นกระแสเงินสดผ่านรูปแบบของเงินปันผล หรือ การขายคืนอัตโนมัติ ผ่านกองทุนรวมที่ทาง FINNOMENA คัดสรรมาแล้วว่า สามารถพาทุกท่านไปถึงเป้าหมายระยะยาวได้ ท่านที่สนใจ สามารถเข้าลองใช้งานได้ที่ www.nter.io
และอีกหนึ่งการพัฒนาของ FINNOMENA ในช่วงเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ก็คือ เราได้ปล่อยโปรแกรม FINNOMENA Application ในรูปแบบของ Mobile App Beta Version ทั้งใน IOS และ Android ให้นักลงทุนติดตามอ่านบทความจากเราได้สะดวกยิ่งขึ้น และตรวจสอบสถานะของพอร์ตการลงทุนซึ่งจะอัพเดททุกวันทำการ และที่สำคัญคือ แจ้งเตือนการปรับพอร์ตการลงทุน และการ Rebalancing Portfolio ในอนาคต เมื่อภาวะตลาดเปลี่ยนแปลงไป
ก้าวเดินไปในโลกการลงทุนกับเรานะครับ เราสัญญาว่า สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ ทำให้ท่านไปถึงเป้าหมายการลงทุนได้ เราจะทำ และพัฒนาให้ดียิ่งๆขึ้นไปแน่นอน สวัสดีครับ
ผู้เขียน
