ในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา สภาวะตลาด และการลงทุนโดยรวม เต็มไปด้วยปัจจัยเสี่ยง ซึ่งความเสี่ยงที่ว่า ก็คือ ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical Risk) จากประเด็นการโจมตีฐานทัพซีเรีย ของสหรัฐฯ และความตึงเครียดที่คาบสมุทรเกาหลี รวมถึงโดยเฉพาะในช่วงปลายเดือน คือ การเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของฝรั่งเศส ซึ่งจะมีการเลือกตั้งรอบ 2 ในวันที่ 7 พ.ค. ที่จะถึงนี้ แต่อย่างไร ก็ตาม ตลาดทุนมองความเสี่ยงครั้งนี้สำคัญก็จริง แต่ก็ไม่ได้เกิดความผันผวนมากอย่างช่วงการทำประชามติออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ หรือช่วงการเลือกตั้งสหรัฐฯ เราจึงยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในตลาดทุนต่อไป แต่ด้วยความระมัดระวังที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิม

กระแสประชานิยม เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากนายทรัมป์ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ จนทำให้นักลงทุนมีความกังวลว่า จะมีลัทธิเอาอย่างในประเทศอื่นๆตามไปด้วยหรือไม่ แต่ผลการเลือกตั้งในรอบแรกของฝรั่งเศส ก็ทำให้หลายฝ่ายโล่งใจ เนื่องจากตัวแทนจากพรรค Front National (FN) คือ นางมารีน เลอ แปง ได้คะแนนเสียงเป็นอันดับสอง และคาดการณ์กันว่า เป็นไปได้ยากมากที่นางเลอ แปง จะได้เป็นผู้นำสูงสุดของฝรั่งเศส เนื่องจาก คะแนนเสียงของผู้สมัครรายอื่นๆ น่าจะเทไปที่นายเอ็มมานูเอล มาครอง อย่างค่อนข้างแน่นอน นั่นทำให้ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์โลกลดลงทันที และหากจะมีความกังวลอีกครั้ง ก็น่าจะเป็นการเลือกตั้งใหญ่ที่เยอรมันในช่วงเดือน ก.ย. ปีนี้ ซึ่งเราจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดอย่างที่ทำมาตลอด และอัพเดทให้นักลงทุนทราบนะครับ

ความเสี่ยงอีกเรื่อง ที่ตลาดยังไม่ได้ให้ความสนใจ คือ การลดขนาดงบดุลของธนาคารกลาง เริ่มต้นที่ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลังจากที่เริ่มมีนโยบายการเงินแบบตึงตัว และทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ก็มีการพูดถึงการขายพันธบัตร และ Mortgage Back Securities (MBS) ในพอร์ต สิ่งนี้หากมีการพูดถึงมากขึ้น จะกระทบกับ Sentiment ในการลงทุนระยะสั้นเช่นกัน

ในระบบการจัดพอร์ตโฟลิโอเพื่อการลงทุนของเรา สำหรับ GOAL และ 1stM เรามีการปรับกองทุนในส่วนของหุ้นไทย จากการที่มีการเปลี่ยนตัวผู้จัดการกองทุนในกองทุนที่เราเลือกลงทุน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญอีกหนึ่งปัจจัยในกระบวนการ Best-in-Class ของเรา ขณะที่ฝั่ง GAR เราปรับลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ เพื่อเตรียมดูความเสี่ยงที่อยู่ตรงหน้า แต่เชื่อว่า Bottom Line แล้ว กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนในไทยจะยังขยายตัวต่อเนื่องในระยะยาว โดยเราเพิ่มการลงทุนในกลุ่ม Defensive Stocks เข้ามาแทนที่

สรุปผลการดำเนินงานของ Model

หุ้นโลกวิ่งต่อ หุ้นไทยขนาดเล็กแย่กว่าตลาดเล็กน้อย
กองทุน KF-EM และ B-GLOBAL ปรับขึ้น 3.3% และ 2.3% ตามลำดับ ส่วนฝั่งหุ้นไทย ดัชนี SET ลดลง 0.9% กองทุน UTSME ลดลง 1.4%

กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ KT-WCORP กลับวิ่งแรง 1% ในเดือนที่ผ่านมา จากความกังวลเลือกตั้งฝรั่งเศส ส่งผลให้แผนที่เสี่ยงต่ำ ทำผลตอบแทนได้ดีกว่าปกติ

ตลาดหุ้นไม่ตกใจ แต่ตลาดตราสารหนี้ตอบรับการเลือกตั้งฝรั่งเศส
กองทุนหุ้นอินเดียยังคงขึ้นต่อ แรงถึง 4% ในขณะที่กองทุนหุ้นไทย TISCODS และ TISCOMS ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นไทย

GAR ได้เริ่ม take profit หรือเก็บกำไรบางส่วน จากการขายกองทุนหุ้นอินเดีย กองทุนหุ้นธนาคารไทย เพื่อลดความเสี่ยงรอจังหวะเข้าลงทุนอีกครั้ง

CEO conner

สารจาก CEO FINNOMENA

ในช่วงเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงการลงทุนของพอร์ต FINNOMENA PORT ที่เราแนะนำ เนื่องจากมุมมองการลงทุนที่เปลี่ยนไปบางส่วน โดยทำการสื่อสารผ่านการแจ้งเตือนทาง Application “FINNOMENA The Offical App” ดังนั้น เราแนะนำให้นักลงทุน Download โปรแกรม ซึ่งมีทั้งระบบ IOS และ Andriod เพื่อการติดตามคำแนะนำ และจะไม่พลาดการรับข่าวสารจากเราหลังจากนี้นะครับ โดยขอให้นักลงทุนมั่นใจได้ว่า ทีมงาน FINNOMENA เราทำงานอย่างหนัก เพื่อให้กระบวนการลงทุน และสื่อสารกับลูกค้า มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคำแนะนำจากผู้ใช้งานจริง จากประสบการณ์ใช้งานจริง เราจะนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าวันนี้แน่นอน

สุดท้าย สำหรับในไตรมาส 2/60 นี้ สำหรับนักลงทุนที่สนใจติดอาวุธการลงทุนแบบเข้มข้น ได้ประโยชน์ และปลดล็อคศักยภาพของตัวคุณได้ เตรียมพบกับงานสัมมนาแห่งปี UNLOCK DAY by FINNOMENA II ในวันที่ 28 พ.ค. 2017 รายละเอียดของงาน สามารถดูได้ที่หน้าเว็ปไซส์ของเรา โดยเรามีโปรโมชั่นเดือนพฤษภาคม เพียงแค่ใส่รหัส MAY300 คุณจะได้ราคาพิเศษที่ 3,000 บาท (จากราคาเต็ม 4,000 บาท) **โปรโมชั่นนี้มีถึงแค่วันที่ 7 พ.ค. เท่านั้นนะ