ภาพรวมการลงทุนในกองทุนประเภทกองทุนความยั่งยืน (ESG) ในปี 2022
ก่อนปี 2022 การลงทุนในธีมความยั่งยืนได้รับความนิยมอย่างมีนัยสำคัญ สังเกตจากการไหลเข้าของเม็ดเงินการลงทุนในช่วงปี 2020 และ 2021 อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวนในปี 2022 ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลงในวงกว้างนั้น เงินที่ไหลเข้ากองทุนประเภท ESG ก็เริ่มชะลอตัวลงเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนได้หันกลับไปลงทุนในกลุ่มพลังงานดั้งเดิม ซึ่งได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น
แต่ BBLAM ยังคงมุมมองว่า การลงทุนในกองทุน ESG จะให้ผลตอบแทนได้ดีในระยะยาว เนื่องจากยังมีโอกาสทางธุรกิจอีกมาก และเป็นเทรนด์ในอนาคต
ในระยะ 10 ปีต่อจากนี้ จะเป็นโอกาสของหุ้นกลุ่ม ESG
หลายประเทศให้ความสำคัญของการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน และการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่ส่งเสริมนโยบายการเร่งการใช้พลังงานทดแทนให้มากขึ้น และมีการให้เครดิตเงินคืนสำหรับบริษัทที่ผลิตพลังงานสะอาด อาทิ การส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศ นอกจากนั้น สหรัฐฯ จะเร่งการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทนในประเทศ โดยการให้เครดิตภาษีเงินคืนสำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานลม และแสงอาทิตย์ การผลิตแบตเตอรี่ และสินค้าโภคภัณฑ์ที่จำเป็นต่อการใช้พลังงานสะอาด ซึ่ง BBLAM มองว่านโยบายเหล่านี้น่าจะช่วยให้สหรัฐฯ กลายเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดของโลก
ในยุโรป แม้ว่าในช่วง 10 ปีทีผ่านมา จะพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียเป็นส่วนใหญ่ แต่ BBLAM มองว่าในอนาคตยุโรปจะต้องพึ่งพาพลังงานที่ผลิตด้วยตนเองมากขึ้น จากปัญหาสงครามระหว่างรัสเซีย และยูเครน ซึ่งทำให้กลุ่มประเทศยุโรปและรัสเซียมีข้อพิพาทกัน ด้วยเหตุนี้ กลุ่มประเทศยุโรปจึงต้องเริ่มลงทุนด้านพลังงานอย่างจริงจัง โดยเฉพาะพลังงานทดแทน อาทิ เยอรมนีได้เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนถึง 15% ซึ่งจะเป็นโอกาสของหุ้นกลุ่มพลังงานทดแทนในยุโรปเช่นกัน
การควบคุมราคาพลังงานในยุโรปจะส่งผลกระทบต่อหุ้นธีม ESG หรือไม่
เนื่องจากราคาพลังงานในยุโรปเริ่มปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และหลายประเทศมีแนวคิดที่จะควบคุมราคาพลังงานที่ประชาชนต้องรับภาระ ซึ่ง BBLAM มองว่าผู้ผลิตพลังงานสะอาดจะได้เปรียบจากนโยบายการควบคุมราคาพลังงานในยุโรปมากที่สุด เนื่องจากมีต้นทุนต่ำที่สุด และราคาพลังงานที่ผู้บริโภคซื้อจะเป็นราคาที่ถูกกำหนดตามนโยบายของภาครัฐ ทำให้บริษัทพลังงานสะอาดเหล่านี้จะสามารถรักษาอัตราการทำกำไรได้ (margin)
อย่างไรก็ดี ยังมีความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องจับตาดูอยู่บ้าง เช่น แนวคิดที่จะจำกัดการห้ามไม่ให้นำเข้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการผลิตพลังงานทดแทนจากสถานที่ที่ใช้แรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งหลายฝ่ายได้พุ่งเป้าไปที่การใช้แรงงานของจีน ซึ่งอาจทำให้หุ้นธีม ESG ในจีนได้รับผลกระทบบ้าง
ทำไมต้องกองทุน B-SIP
กองทุน B-SIP ให้ความสำคัญกับการลงทุนในหุ้นธีม ESG โดยเฉพาะพลังงานสะอาด ซึ่ง BBLAM มองว่าน่าจะเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนได้ดีในระยะยาว และหากตลาดหุ้นอยู่ในช่วงที่หุ้นปรับฐานจะทำให้กองทุน B-SIP น่าสนใจมากขึ้นอีก เนื่องจากจะมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนมากขึ้น โดยกองทุน B-SIP จะลงทุนใน 2 กองทุน คือ (1) กองทุน Pictet – Global Environmental Opportunities (GEO) (ประมาณ 75-80% ของพอร์ต) และ (2) กองทุน Pictet – Clean Energy (ประมาณ 20-25% ของพอร์ต)
(1) กองทุน GEO ประกอบด้วย การลงทุนในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ 33% การบำบัดของเสียและรีไซเคิล 21% การควบคุมมลภาวะ 17% และการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ 11% โดยในปีที่ผ่านมา การลงทุนในพลังงานทดแทนสร้างผลตอบแทนได้ดี ในขณะที่การลงทุนในด้านการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพสร้างผลตอบแทนได้ไม่ดีเท่าที่ควร ที่ผ่านมา หมวดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างเช่น บริษัท Johnson control ราคาหุ้นปรับตัวลงมาก ก็กระทบกับพอร์ต
ทั้งนี้ กองทุนได้มีการปรับพอร์ตการลงทุนเป็นระยะ ๆ เช่น การลดสัดส่วนหุ้นกลุ่มการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพลง แต่ไปเพิ่มการลงทุนในบริษัทที่น่าสนใจที่หลายคนคงคิดไม่ถึง แต่ก็เป็นธุรกิจที่ไม่ทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์ เช่น Shimano ซึ่งมียอดขายจักรยานคิดเป็น 70 – 80% ของตลาดจักรยานทั้งโลก
ซึ่งขายจักรยาน และจักรยานไฟฟ้า และกลายเป็นว่าช่วงที่ผ่านมาได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในญี่ปุ่น และที่น่าสนใจคือ จักรยานที่เป็นระดับ Hi-end ได้รับการตอบรับดีมากในอเมริกา และในยุโรปยอดขายก็ทำได้ดี นอกจากนั้นกองทุน GEO ยังเพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงานทดแทน โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ และเพิ่มการลงทุนในกลุ่มการบำบัดของเสียและรีไซเคิล เช่น การลงทุนในบริษัท Waste Management ที่ส่งเสริมการรีไซเคิล และการบำบัดของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างการลงทุนของกองทุน GEO: บริษัท Ansys เป็นบริษัทที่พัฒนาซอฟต์แวร์จำลอง (simulation) ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในการใช้ทรัพยากรที่คุ้มค่า ตัวอย่างเช่น บริษัทรถยนต์อย่าง BMW จะสร้างโรงงานประกอบรถ ก็เอาองค์ประกอบต่าง ๆ มาสร้างใน Simulation และก็ลองทำหลาย ๆ แบบดูว่าทำอย่างไรให้การผลิตมีประสิทธิภาพมากที่สุด หรืออย่าง Dyson เช่นกันก็ใช้แบบจำลองในการทำเครื่องเป่าผมออกมาให้มีประสิทธิภาพดี ความได้เปรียบของ Ansys ก็คือความซับซ้อนของซอฟแวร์สูงและทำให้มี High barrier to entry คู่แข่งขันเข้ามาได้ยาก ทำให้เป็นหุ้นที่สามารถให้ผลตอบแทนดีต่อไปได้ในอนาคต
นอกจากนั้น ยังมีการลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวกับการกำจัดขยะ หรือการรีไซเคิล ซึ่งกองทุนเข้าไปลงทุนมีสัดส่วนอันดับต้น ๆ เช่น บริษัท Republic Services (กองทุน GEO ให้น้ำหนักในการลงทุนมากที่สุด) ซึ่งเป็นบริษัทกำจัดขยะที่ใหญ่ที่สุดอันดับสองของอเมริกา และอีกบริษัทที่ลงทุนคือ Waste connection ซึ่งเป็นบริษัทอเมริกาที่ดำเนินการเรื่องของขยะครบวงจร ได้แก่ การจัดการเรื่องขยะ การเก็บขยะ ส่งต่อ ทำลาย พวกถังใส่ขยะขนาดใหญ่ ตู้คอนเทนเนอร์ใส่ขยะ รถเก็บขยะ
(2) กองทุน Pictet – Clean Energy
โดยแบ่งการลงทุนเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย (1) กลุ่มพลังงานทดแทน (2) โครงสร้างพื้นฐาน เช่น เสาสื่อสาร (3) ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน เช่น การใช้พลังงานภายในอาคาร และการใช้รถยนต์ไฟฟ้า และ (4) เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลัง เช่น semiconductor
กองทุน Pictet – Clean Energy
ก็มีการปรับน้ำหนักการลงทุนคล้ายกับกองทุน GEO เป็นระยะ ๆ เช่นกัน เช่น การลดน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มการใช้พลังงานในอาคาร (green building) เนื่องจากมีบริษัทที่อ่อนไหวต่อการขึ้นดอกเบี้ย โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ อาคารและตึก อย่างไรก็ดี กองทุน Clean Energy ได้เพิ่มน้ำหนักส่วนของหุ้นกลุ่มพลังงานทดแทน และการใช้เทคโนโลยี เช่น การเพิ่มการลงทุนในบริษัท LG Energy Solutions
แต่เป็นที่น่าสังเกตุว่า กองทุนนี้ จะ strict น้อยกว่า กองทุน GEO คือยอมลงทุนในบริษัทที่กำลังเปลี่ยนจากพลังงานฟอสซิลเป็นพลังงานทดแทน ในขณะที่ GEO จะไม่ลงทุนในส่วนนี้
แนวทางการลงทุน B-SIP
นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนในกองทุน B-SIP ได้ทั้งแบบกองทุนรวมปกติ หรือถ้าต้องการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ก็มี RMF และ SSF ให้เลือก โดย BBLAM มองว่าการลงทุนในกองทุน B-SIP จะเป็นการลงทุนในเทรนด์ระยะยาว เรื่องพลังงานสะอาด สิ่งแวดล้อม และความยั่งยืน ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้มาก และวางเป้าหมายการลงทุนในระยะยาว ซึ่งนักลงทุนสามารถพิจารณาการลงทุนในลักษณะ dollar cost average อย่างต่อเนื่อง หรือ โดยให้สะสมเมื่อจังหวะตลาดย่อตัว โดยที่ไม่รีบร้อน
ทาง BBLAM เชื่อว่านักลงทุนที่ต้องการถือ B-SIP ควรเป็นนักลงทุนที่ต้องการมีหุ้นกลุ่มความยั่งยืน (thematic) ในพอร์ต และเน้นเป็นการลงทุนในระยะยาว โดย BBLAM ให้น้ำหนักการลงทุนในพอร์ต B-SIP ประมาณ 5-10%
ความเสี่ยงของกองทุน
สูง (ระดับความเสี่ยง 6 )
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุนฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00 – 17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโดยตรงกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บัวหลวง จำกัด ติดต่อบริการบัวหลวงโฟน โทร. 1333 หรือ 02 645 5555 E-mail: info@bangkokbank.com
คำเตือน
- การลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวนเมื่อไถ่ถอน (ไม่คุ้มครองเงินต้น)
- ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า ข้อมูลสำคัญ นโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงาน ก่อนตัดสินใจลงทุน
- กองทุนที่มีการลงทุนในต่างประเทศมิได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด ทั้งนี้ อยู่ในดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ดังนั้น ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในกองทุนดังกล่าว หรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้