ในช่วงที่ผ่านมานักลงทุนหลาย ๆ ท่านคงประสบปัญหาในการเผชิญการปรับฐานอย่างหนักของกองทุนหุ้นเติบโตชื่อดังเช่น Ark หรือ Baillie Gifford ซึ่งถึงแม้จะทำผลงานได้โดดเด่นแต่ก็มีความผันผวนที่ต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในวันนี้ทาง FINNOMENA ขอพาทุกคนมารู้จักกับ GGG พอร์ตการลงทุนหุ้นเติบโตเอาใจสาย Growth ที่ไม่ได้มีดีแค่บู๊หนัก แต่มีเบาะกันกระแทกและที่สำคัญ “ไม่มีการจับจังหวะตลาด”
จะเป็นอย่างไรลองสำรวจไปพร้อม ๆ กันได้เลยครับ
ความท้าทายที่ทุกคนต้องเผชิญผ่านการลงทุนในหุ้นเติบโต
หากพูดถึงความท้าทายของการลงทุนในหุ้นเติบโต สิ่งแรกที่เราต้องพูดถึงก็คือเรื่องของ “ความผันผวนที่เราต้องเผชิญ” ทั้งในแง่ของราคาที่ตลาดให้ความคาดหวังสูงและผลการดำเนินงานของบริษัทที่ในบางจุดอาจทำไม่ได้ตามความคาดหวังของคนในตลาดจนส่งให้เกิดการปรับฐานอย่างรุนแรงถึงแม้ธุรกิจจะน่าสนใจเพียงใดก็ตาม
การปรับฐานที่ว่าอาจส่งผลต่อนักลงทุนกองทุนรวมที่มอบหมายการเลือกหุ้นให้ผู้จัดการกองทุนที่ตนเชื่อว่ามีความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริง
แต่ยามที่ตลาดลงหนัก กลับกลายเป็นว่าเรามีกองทุน Growth จากกองทุนหรือผู้จัดการกองทุนที่มีแนวทางคล้าย ๆ กัน ส่งผลให้ตอนตลาดปรับฐานกองทุนในพอร์ตเราจึงลงหนักคล้ายกันทุกกอง ส่งผลให้เกิดความผันผวนสูงในระดับสูงจนเกินจะต้านไหว
ซึ่งพอร์ต GGG ที่เรากำลังจะนำเสนอ จะทำหน้าที่เปรียบเสมือนสะพานเชื่อมความชื่นชอบการลงทุนในหุ้นเติบโตของคุณ เข้ากับโลกของหุ้นเติบโตที่ซับซ้อนยากจะเข้าถึง และปรับความผันผวนให้มีความเหมาะสม (ไม่ลงทุนในกลุ่มหุ้นที่เคลื่อนไหวในลักษณะคล้าย ๆ กัน) และช่วยให้คุณทนถือต่อไปในเวลาที่ตลาดไม่เป็นใจ และไปถึงการเติบโตอย่างใจหวังได้ในระยะยาว
วิธีการจะเป็นอย่างไรเป็นไปได้หรือไม่? เราลองมาสำรวจข้อมูลในส่วนถัดไปกัน
รู้จักคอนเซปต์หลักของพอร์ต GGG ง่าย ๆ ใน 5 ข้อ
1. พอร์ต GGG คืออะไร?
พอร์ต GGG (Triple G) คือพอร์ตการลงทุนแบบหุ้นเติบโตล้วน (Growth stocks) จัดหนักจัดเต็มสำหรับนักลงทุนผู้ชื่นชอบและหลงใหลการลงทุนในหุ้นเติบโต แต่ให้ความสำคัญกับการจัดการความผันผวน ผ่านการลงทุนในกลุ่มหุ้นแกนหลัก 4 กลุ่มที่มีลักษณะการเคลื่อนไหวแตกต่างกันเพื่อลดความผันผวนดังนี้
ที่มา: FINNOMENA Investment Team
1.1 Country Growth
คือ เราเลือกประเทศที่มีการเติบโตในระดับที่น่าสนใจ และมีศักยภาพในการกระจายความเสี่ยงจากการได้รับผลกระทบจากปัจจัยมหภาคต่ำอย่าง เวียดนาม
1.2 Quality Growth
คือ ธีมการเติบโตแบบเน้นคุณภาพที่จะช่วยมาเป็นเบาะรองรับยามตลาดเกิดความผันผวนหนักยกตัวอย่างเช่น ธีมการลงทุนหุ้นเฮลธ์แคร์
1.3 Technology Growth
คือ ธีมการเติบโตแบบเข้มข้น เน้นการเติบโตในอนาคตที่อาจเติบโตได้สูงเป็นกองหน้าตัวรุกของพอร์ต ยกตัวอย่างเช่น ธีม Blockchain หรือหุ้นเทคโนโลยีจีน
1.4 Sustainable Growth
คือ ธีมการลงทุนแบบยั่งยืนที่มีความน่าสนใจและเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นชัดเจนผ่านการลดต้นทุนในด้านต่าง ๆ เช่น ธีมการลงทุนในพลังงานสะอาด รวมไปถึงแนวโน้มที่มีพัฒนาการเด่นชัดเป็นรูปธรรมและอาจเติบโตได้สูง เช่น ธีมการลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น
กองทุนในกลุ่มต่าง ๆ ข้างต้นจะถูกคัดกรองความผันผวนผ่านการทำ Minimum Volatility Optimization หรือการคัดกรองความผันผวนให้ดีที่สุดทั้งในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างกองทุน (Correlation) เพื่อให้แน่ใจว่าหากตลาดปรับฐานจะมีกองทุนที่เคลื่อนที่ในลักษณะต่างกันช่วยรองรับรวมไปถึงความผันผวน (Volatility) และคัดเลือกเชิงคุณภาพอีกขั้นโดย FINNOMENA Investment Team เพื่อให้แน่ใจว่ากองทุนที่ได้เหมาะสมต่อสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา
โดยการกระทำที่ว่าหากอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ เราจะนำกองทุนหุ้นที่ราคาเคลื่อนไหวไม่คล้ายกันมาก แต่ยังอยู่ในธีมหุ้นเติบโตเหมือนกันมาใส่ในพอร์ตให้เหมาะสม เพื่อที่ตอนคลาดลงแรง ๆ เราจะได้ทนถือต่อไปได้
2. คัดกรองอีกชั้นให้เหนือกว่าโดย FINNOMENA Investment Team
หลังเราได้คัดเลือกธีมการลงทุนและกองทุนที่มีความผันผวนที่เหมาะสมผ่านปัจจัยเชิงปริมาณกันไปแล้ว เราจะทำการเสริมแกร่งการลงทุนอีกขั้นผ่านการวิเคราะห์โดย FINNOMENA Investment Team ด้วยวิธีการวิเคราะห์ MEVT ซึ่งเป็นกรอบวิเคราะห์การลงทุนที่จะช่วยติดตามธีมการลงทุนที่เหมาะสมกับสภาวะตลาดในช่วงนั้น ๆ
เพื่อให้มั่นใจได้ว่า
“คุณจะโตในช่วงที่ตลาดกำลังเติบโต และคุณจะมีเบาะรองรับในยามที่ตลาดลงทุนโหดร้าย”
ดังนั้นคุณจะมั่นใจได้ว่ากองทุนที่คุณได้อยู่ในพอร์ตมีความเหมาะสมในแต่ละช่วงสภาวะการลงทุนจริง ๆ อีกทั้งยังเป็นกองทุนที่มีคุณภาพซึ่งเราคัดกรองให้ทุกท่านอย่างสม่ำเสมออยู่แล้ว
3. เราไม่พยายามจับจังหวะตลาดในพอร์ตการลงทุนนี้
เนื่องจากการจับจังหวะตลาดอาจทำให้เราพลาดช่วงที่ดีที่สุดของตลาดหุ้นไป ซึ่งจะส่งผลต่อผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับเป็นอย่างมาก
ผลที่เกิดขึ้นกับผลตอบแทนของเราหากเราพลาดการลงทุนในช่วง 25 วันที่ตลาดหุ้นทำผลงานได้ดีที่สุดไป (เส้นสีแดง) เทียบกับการอยู่ในตลาดสม่ำเสมอ (เส้นสีดำ) ที่มา: irrelevantinvestor.com วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2019
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
พอร์ตการลงทุนนี้เราจึงขอยกเรื่องดังกล่าวออกเพื่อให้นักลงทุนได้ประโยชน์สูงสุดเต็มที่ ผ่านการลงทุนในหุ้นแบบล้วน ๆ เพื่อให้ไม่พลาดทุกโอกาส โดยเราจะพยายามลดความผันผวนตามกลุ่มหุ้นที่เราได้กล่าวไว้ก่อนหน้า ซึ่งจากการทดสอบที่ได้ผลออกมาเป็นดังนี้
ภาพแสดงความผันผวนของพอร์ตการลงทุน GGG เทียบกับดัชนีหุ้นเทคโนโลยี NASDAQ 100 และกองทุน Baillie Gifford Worldwide Long Term Global Growth ที่มา: FINNOMENA Investment Team
ซึ่งจากภาพเราจะเห็นได้ว่าพอร์ต GGG ปรับตัวลงผันผวนน้อยกว่าดัชนีหุ้นเทคโนโลยีปกติรวมไปถึงกองทุนหุ้นเติบโตชื่อดังอย่าง Baillie Gifford Worldwide Long Term Global Growth
4. ให้ความสำคัญกับเรื่องค่าธรรมเนียม ปรับพอร์ตไม่บ่อย เน้นประโยชน์นักลงทุน
พอร์ตการลงทุน GGG จะมีการปรับพอร์ตในทุก ๆ 6 เดือนหรือเพียงปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้นักลงทุนมั่นใจได้ว่าค่าธรรมเนียมที่คุณต้องเสียและเป็นตัวหักผลการดำเนินงานของพอร์ตลงในแต่ละปี อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม และอาจช่วยให้คุณมีผลตอบแทนหลังหักค่าธรรมเนียมที่เติบโตอย่างแท้จริง
ภาพแสดงผลตอบแทนหลังหักค่าธรรมเนียมในอัตราที่ต่างกัน ที่มา: sec.gov
จากภาพเราจะเห็นได้ว่าในระยะยาวยิ่งเราเสียค่าธรรมเนียมมากเท่าไร เงินเราจะยิ่งหายไปมากขึ้นเท่านั้น โดยพื้นที่สีเขียวคือจำนวนเงินแท้จริงของเราในท้ายที่สุด และพื้นที่สีน้ำเงินแสดงให้เห็นถึงจำนวนเงินที่คุณเสียให้กับค่าธรรมเนียม (คิดเป็นเงินถึงเกือบ 28,000 เหรียญหรือเกือบล้านบาท จากเงินตั้งต้นที่ 300,000 บาท)
และนี่เป็นในกรณีที่ค่าธรรมเนียมต่อปีอยู่ที่ 1% ดังนั้นหากคุณลงทุนกองทุนแบบ Active ที่ค่าธรรมเนียมสูงขึ้นไปอีก จำนวนเงินของคุณที่ได้รับในตอนสุดท้ายจะหายไปอย่างมาก
5. พอร์ต GGG หน้าตาเป็นแบบไหน เราเปิดให้ดู มีแต่ให้ ไม่มีกั๊ก
ภาพแสดงสัดส่วนเซ็กเตอร์หลักที่ลงทุน ที่มา: FINNOMENA Investment Team
หลัก ๆ โดยรวมแล้วยังเน้นลงทุนในเซ็กเตอร์กลุ่มผู้นำอย่างเทคโนโลยีที่มีการเติบโตสูงรวมไปถึงกลุ่มเฮลธ์แคร์ที่มีลักษณะผสมผสานทั้งเชิงรุกและรับ
ซึ่งความโดดเด่นของพอร์ตนี้เราสามารถสังเกตได้จากหลักด้านขวาในส่วนของความเสี่ยงที่ผลต่อพอร์ต (Risk contribution) ซึ่งเป็นการคำนวณความเสี่ยงว่ากลุ่มเซ็กเตอร์หรือประเทศที่พอร์ตได้ลงทุนอยู่ มีผลต่อความผันผวนของพอร์ตมากแค่ไหน
ซึ่งทาง FINNOMENA Investment Team จะคัดกรองในจุดนี้อย่างเข้มข้นเพื่อให้แน่ใจว่าพอร์ตการลงทุน GGG มีความผันผวนในระดับที่เหมาะสมและทำให้นักลงทุนถือยาวได้อย่างสบายใจ
ภาพแสดงสัดส่วนเซ็กเตอร์หลักที่ลงทุนและสัดส่วนกองทุนในพอร์ต ที่มา: FINNOMENA Investment Team
สัดส่วนกองทุนในพอร์ตมีความหลากหลายเป็นอย่างมากโดยหลักแล้วจะเน้นลงทุนในกองทุนเวียดนามอย่าง PRINCIPAL VNEQ-A ประเทศที่ได้ขึ้นชื่อว่าเคลื่อนที่สัมพันธ์กับปัจจัยมหภาคค่อนข้างน้อย ส่งผลให้นำมาใช้กระจายความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี
อีกทั้งยังมีการเติบโตที่น่าสนใจ นอกจากนั้นสัดส่วนหลัก ๆ ที่เหลือจะเน้นไปที่กลุ่มพลังงานทดแทน และหุ้นเติบโตเชิงคุณภาพอย่าง KFHHCARE-A ที่มีการเติบโตที่น่าสนใจและมีความผันผวนในระดับที่ต่ำกว่าหุ้นเทคโนโลยีโหด ๆ
จุดสำคัญของกองนี้ที่ไม่ดูไม่ได้อีกหนึ่งจุด ก็คือการลงทุนในกองทุนเทคโนโลยีที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดี แบบกระจายหลายเซ็กเตอร์ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเทคโนโลยีจีน บล็อกเชน เกม ความปลอดภัยทางไซเบอร์ รวมไปถึงเซมิคอนดักเตอร์ ที่กระจายสัดส่วนอย่างละนิดอย่างละหน่อย
ซึ่งเหตุผลที่ต้องทำเช่นนี้ก็เพราะกองทุนแต่ละกองทุนมีความผันผวนในระดับสูง ดังนั้นการกระจายสัดส่วนไม่ให้กองทุนใดกองทุนหนึ่งมีนัยยะต่อความผันผวนต่อพอร์ตมากจนเกินไป ก็จะช่วยให้พอร์ตมีเบาะรองรับนุ่ม ๆ ยามตลาดเกิดความผันผวน
ผลทดสอบย้อนหลัง
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
สรุปจุดเด่นพอร์ต Triple G (GGG)
- ลงทุนหุ้นเติบโตล้วนเหมาะสำหรับนักลงทุนผู้หลงใหลการลงทุนในหุ้นเติบโตเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
- คัดเลือกธีมการลงทุนและกองทุนจากทั้งปัจจัยเชิงปริมาณเพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงและปัจจัยเชิงคุณภาพผ่านมุมมองของ FINNOMENA Investment Team
- ใช้การลดความเสี่ยงผ่านการกระจายการลงทุนในหุ้นที่มีลักษณะความเคลื่อนไหวแตกต่างกัน ช่วยให้กองทุนในพอร์ตไม่ปรับตัวลงหนักพร้อมกันและคล้ายกัน
- ไม่ใช้การจับจังหวะตลาด (Market Timing) ซึ่งอาจส่งผลต่อผลตอบแทนของนักลงทุน หากจับจังหวะผิดพลาด
- ให้ความสำคัญเรื่องค่าธรรมเนียมปรับพอร์ตไม่บ่อย (ปีละ 2 ครั้ง)
ลงทุนขั้นต่ำ: 2,000,000 บาท
ค่าธรรมเนียมซื้อ (Front-end-fee) เฉลี่ยจากสัดส่วน ณ ปัจจุบัน: 1.25%
ค่าธรรมเนียมรวมรายปีเฉลี่ยจากสัดส่วน ณ ปัจจุบัน: 1.60%
คาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ย 10% ต่อปี (ไม่ใช่การการันตี)
สำหรับนักลงทุนแผน TOP 5 ของทาง FINNOMENA เราแนะนำให้มีการเปลี่ยนแปลงพอร์ตการลงทุนดังกล่าวเป็นพอร์ต Triple G เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของนักลงทุน
สนใจสร้างแผนการลงทุน ดูรายละเอียดและสร้างแผนได้ที่ https://finno.me/ggg-landing-web
References
https://theirrelevantinvestor.com/2019/02/08/miss-the-worst-days-miss-the-best-days/
https://www.sec.gov/investor/alerts/ib_fees_expenses.pdf
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่โฆษณาไว้| ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน I สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”