รายงานของบริษัท Berkshire Hathaway (NYSE:BRKB) ล่าสุด พบว่า บริษัทเพิ่มการถือครองหุ้นกลุ่มพลังงานและอาหาร
ทั้งนี้ ถ้าดูจากรายงานผลประกอบการของ Berkshire พบว่า กำไรต่อหุ้นของบริษัทลดลง -3.6% แต่ก็ยังสูงกว่าระดับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ หลักๆ ที่ผลประกอบการออกมาไม่ค่อยจะดีนักมาจาก หุ้นอย่าง American Express , IBM และ Coca-Cola ที่ผลประกอบการไม่ดีในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา
แต่หุ้นที่โดดเด่น ก็มีเช่นกัน อย่างเช่น Kraft ซึ่งเป็นบริษัททำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหรัฐฯ น่าจะรายงานผลประกอบการออกมาดีและส่งผลดีต่อหุ้น Berkshire ที่ตอนนี้ ถือเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดของ Kraft เป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่เดือน ก.ค.
ทั้งนี้สาเหตุที่ Berkshire มีการปรับพอร์ตเพิ่มการถือครองหุ้นกลุ่มพลังงานและอาหารมากขึ้น ก็เนื่องจาก เพื่อลดความเสี่ยงจากการที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัว รวมทั้งราคาสินค้า Commodity ที่ตกต่ำ รวมทั้งค่าเงินดอลล่าร์ที่อยู่ในทิศทางที่อ่อนค่า อาจทำให้กลุ่มธุรกิจที่มีรายได้จากต่างประเทศ เจอช่วงเวลาที่ยากลำบากในอนาคต Buffett จึงตัดสินใจปรับพอร์ตการลงทุนในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา เพื่อให้มีความสมดุลมากขึ้นนั้นเอง
FINNOMENA Opinion
การปรับพอร์ตของ Buffett สะท้อนมุมมองถึงความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกอาจชะลอตัวมากขึ้นของ Buffett เอง ซึ่งวิธีการปรับพอร์ตนั้น ยังเป็นการโยกย้ายหุ้นในพอร์ตไปยังอุตสาหกรรมที่ความผันผวน และมีความเสี่ยงต่ำกว่า วิธีการนี้ นักลงทุนสามารถเอามาปรับใช้แก้พอร์ต ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องลดความเสี่ยงขายหุ้นแล้วไปถือตราสารหนี้ ซึ่งหากตลาดหุ้นยังเดินหน้าขึ้นต่อไป นักลงทุนก็มีโอกาสที่จะพลาดโอกาสได้