หลายคนคงเคยได้ยินกันบ่อย ๆ ว่าการลงทุนต้องใช้เวลาหรือต้องเป็นผู้ที่มีทักษะแกร่งกล้าระดับสุดยอด 180 IQ++ เท่านั้นถึงจะลงทุนได้ ซึ่งเรื่องที่ว่าก็มีทั้งส่วนที่จริงและไม่จริง
แล้วแบบนี้เราที่เห็นข่าวแสนน่ากลัว คนเจ๊งจากการลงทุน ล้างพอร์ตกันเป็นแถบ ๆ หรือติดดอยอันสูงลิบต้องทำอย่างไรกันดีล่ะ เพราะ ใจหนึ่งก็อยากลงทุนเผื่อแก่ตัวไปจะได้ไม่ลำบากและได้แตะเงินล้านกับเขาบ้าง แต่อีกใจหนึ่งก็แอบกลัว
บทความนี้มีคำตอบเรื่องที่ว่าให้กับทุกคนครับ!
ระยะเวลา เงินต้น อัตราผลตอบแทน หลักการสู่ความสำเร็จ
ก่อนอื่นมาเริ่มต้นกันที่ 3 หลักสำคัญสู่ความสำเร็จในเส้นทางการลงทุนซึ่งก็คือ ระยะเวลา เงินต้น และอัตราผลตอบแทน
ทั้ง 3 อย่างนี้หากเราเข้าใจอย่างถ่องแท้ก็จะช่วยให้เราลงทุนได้ดี ถือเป็นแก้ว 3 ประการของ Warren Buffett เมืองไทยอย่าง ดร. นิเวศน์
การลงทุนที่ดีเราไม่จำเป็นต้องรวยฟ้าผ่าใน 5 นาทีเหมือนซื้อหวย (แต่เป็นไปได้นะถ้ามองขาด ลงทุนในสิ่งที่เข้าใจจริง ๆ เช่น คนที่หาหุ้น 10 20 เด้งเจอในช่วงที่ผ่านมาก็เกษียณไวเกษียณสุขกันไปหลายคนแล้วแต่ก็ต้องใช้ความมุ่งมั่น ความรู้ความเข้าใจแบบสูงสุด ๆ) ไม่ดูถูกเงินที่เริ่มน้อย ๆ (เดี๋ยวจะพาไปสำรวจว่าทำไม) และเลือกการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนเหมาะสมกับเป้าหมายที่เราตั้งไว้
และอย่างที่เกริ่นไว้ตอนต้น ผู้เขียนมองว่าเรื่องของ “ระยะเวลา” เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดมากกว่าความอัจฉริยะใช้ศัพท์เซียนขั้นเทพเสียอีกนะ
ต่อไปนี้เป็นเราจะพามาดูถึงสาเหตุว่าทำไมการเริ่มให้ไวถึง Savage และสำคัญกว่ามันสมองอัจฉริยะที่ทุกคนว่ามา
5 ข้อได้เปรียบของคนเริ่มเร็ว
1. เป็นการสร้างนิสัยการเงินที่ดีตั้งแต่เนิ่น ๆ
การลงทุนก็ยังต้องใช้สิ่งที่สำคัญที่สุดในโลกทุนนิยมซึ่งก็คือ “เงิน” ซึ่งถ้าบอกอย่างตรงไปตรงมาเนี่ยคนที่มีรายได้เยอะ ๆ บ้านรวย มีเงินต้น หรือมรดกตกทอดส้มหล่นจากที่บ้านก็ต้องได้เปรียบกว่าอยู่แล้ว เช่น พี่แวน ธิติพงษ์ นักธุรกิจอายุน้อยพันล้านสุดโด่งดังในช่วงที่ผ่านมา
แต่ถึงอย่างนั้นนิสัยเก็บหอมรอมริบ มีวินัยทางการเงิน ก็อาจจะสำคัญยิ่งกว่าและเป็นสิ่งที่พาคนพลิกชีวิตมานัดต่อนัด! สังเกตง่าย ๆ ได้จากเซียนหุ้นชื่อดังหลาย ๆ คน ไปดูจริง ๆ นี่เงินต้นเขาไม่ได้เยอะเลย 1 สมอง 2 มือ ใช้ความสามารถ + เวลาที่นานพอ มิหนำซ้ำหลายคนยังเน้นย้ำเรื่องเวลามากกว่าอีกด้วย
ดังนั้นการฝึกออมเงิน ประหยัดค่าใช้จ่าย หรือเก็บเงินเพื่อลงทุน จนกลายเป็นธรรมชาติและนิสัยที่ดีจึงเป็นเรื่องที่เราไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด!
การสร้างนิสัยเหมือนโดมิโน่ ต้องล้มตัวแรกให้ได้ก่อน แล้วตัวอื่นก็จะล้มตามมา
ทั้งหมดที่พูดมาจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าเราไม่เริ่มทำ เราต้องรีบสร้างนิสัยที่ดีไว้หนึ่งอย่าง แล้วนิสัยที่ดีอื่นๆ ก็จะตามมาเอง
2. แค่มีเวลาก็ลดความเสี่ยงในการลงทุนได้
คนที่เคยลงทุนหลาย ๆ คนน่าจะคุ้นเคยกับ “แบบประเมินความเสี่ยง” ที่ต้องทำก่อนเปิดบัญชีซื้อขายหุ้น ฟิวเจอร์ต่าง ๆ ซึ่งคำถามข้อแรกที่แบบทดสอบจะถามคือ “ปัจจุบันคุณอายุเท่าไร?”
ที่มา: www.sec.or.th
คำถามนี้เหมือนจะเป็นคำถามที่ถามข้อมูลส่วนตัวเฉย ๆ แต่จริง ๆ มันมีนัยสำคัญซ่อนอยู่ ในการคิดคะแนนความเสี่ยง ยิ่งคุณอายุมากเท่าไร (เช่นตัวเลือกแรก อายุมากกว่า 55 ปี) คะแนนการรับความเสี่ยงจะต่ำ ในขณะที่ยิ่งคุณอายุน้อยเท่าไร (เช่นตัวเลือกสุดท้าย อายุน้อยกว่า 35 ปี) คะแนนการรับความเสี่ยงจะสูง
ทำไมถึงเป็นแบบนั้น? คำตอบมีอยู่ 2 เหตุผล เหตุผลแรกเป็นเพราะว่าในการลงทุนหากยิ่งมองไปในระยะยาวความผันผวนก็ยิ่งต่ำลง ดัง 2 ภาพนี้
ที่มา: https://www.tradingview.com/chart/?symbol=SP%3ASPX ณ วันที่ 19 มกราคม 2022 เวลา 17:04 นาฬิกา
ใครลงทุนช่วงนี้นี่หัวจะปวดหุ้นวิ่งเป็นก้อนเลย
ที่มา: https://www.tradingview.com/chart/?symbol=SP%3ASPX ณ วันที่ 19 มกราคม 2022 เวลา 17:04 นาฬิกา
แต่พอซูมออกมาเราจะเห็นได้ว่าตลาดหุ้นในระยะยาวนี่มีแต่ขึ้นเอา ๆ ยิ่งช่วงหลังนี่วิ่งเป็นม้าเลย
ซึ่งภาพทั้งหมดก็จะมาอธิบายเหตุผลในข้อที่สองซึ่งก็คือ คนอายุน้อยจะได้เปรียบจากการที่ยังไม่ต้องรีบใช้เงินมากนัก (ยังไม่ร้อนเงินนั่นแหละ) ทำให้มีเวลาในการปล่อยให้เงินทำงานไปยาว ๆ อีกทั้งยังมีเวลามากกว่าในการเผชิญกับความผันผวน เช่น ใครจะไปรู้ว่าอีก 10 ปีต่อไปหลังจากนี้หุ้นมันไม่เห็นจะขึ้นเลยวิ่งเป็นกรอบ ๆ เก็บแรงวนไปทำเอาเราหัวใจแทบวาย แต่ในปีที่ 12-13 ดันวิ่งอย่างกับม้าซะอย่างนั้น
ซึ่งคนอายุน้อยเนี่ยจะได้เปรียบตรงที่มีเวลาให้ทน ให้เจ็บ ให้รองอกเงย ต่างจากคนอายุเยอะที่แบบอีกไม่กี่ปีเราก็เกษียณแล้วเจอตลาดวิ่งวนไปที่เดิมนี่จะถอนหรือปรับพอร์ตทีก็ลำบากใจเอามาก ๆ
ดังนั้น ไม่ว่าตอนนี้เราจะอายุเท่าไรก็ตาม การเริ่มเร็วได้เปรียบเสมอ
3. ผลตอบแทนทบต้นทำงานได้อย่างเต็มที่
ผลตอบแทนแบบทบต้นจะทำงานได้อย่างเต็มที่ก็ต่อเมื่อมันมีเวลาที่มากพอ ถามว่าพอมันได้ทำงานแล้วผลลัพธ์จะเป็นยังไง ให้ภาพด้านล่างช่วยตอบน่าจะชัดเจนมากขึ้น
ที่มา: https://www.finnomena.com/z-story/time-is-key/
จากภาพเราจะเห็นได้ว่า อ้วนเริ่มลงทุนตั้งแต่อายุ 21 ปี ลงทุน 12,000 บาททุกปีจนถึงอายุ 30 ปี (รวมต้นทุน 120,000 บาท) ส่วนผอมเริ่มลงทุนตอนอายุ 31 ปี ลงทุนปีละ 12,000 บาทเหมือนกันไปจนถึงอายุ 60 ปี (รวมต้นทุน 360,000 บาท) คิดอัตราผลตอบแทนทบต้นที่ 8% ต่อปี ให้ทายว่าอ้วนที่ลงทุน 120,000 บาท กับผอมที่ลงทุน 360,000 บาท พออายุ 60 ใครจะมีเงินเยอะกว่ากัน?
คำตอบคือ อ้วนมีเงินเยอะกว่าถึง 400,000 บาท! โดยสาเหตุหลักที่ปรากฎการณ์มหัศจรรย์นี้เกิดขึ้นก็คือ อ้วนแช่อิ่มเงินไว้แล้วไปใช้ชีวิตให้เงินได้ใช้เวลาและดอกเบี้ยทบต้นทำงานได้แบบเต็มสูบ
4. ได้เรียนรู้เรื่องการลงทุนผ่านประสบการณ์จริง
ทุกเรื่องถ้าอยากชำนาญต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ คำว่าไม่มีใครเก่งเลยตั้งแต่เกิดยังใช้ได้เสมอ การลงทุนก็เป็นทักษะอย่างหนึ่ง ที่ต้องเรียนรู้ให้มาก (หรือไม่ต้องก็ได้ถ้าไม่ได้สนใจให้เวลาเป็นตัวช่วยอย่างที่กล่าวไว้ก่อนหน้า) และต้องลองเจ็บจริงถึงจะเข้าใจ
ดังนั้น ยิ่งเราเริ่มลงทุนเร็ว เรายิ่งได้เจอกับ “ของจริง” ได้เร็วขึ้น ของจริงที่ไม่เหมือนในตำราหรือคำบอกเล่าจากคนอื่น เช่น เจอการติดดอย ขายหมู และอื่น ๆ อีกมากมายที่ถ้าไม่ก้าวเข้ามาลงทุนก็ไม่มีวันได้สัมผัส
นักลงทุนที่เก่ง ๆ ทุกคนล้วนแล้วแต่ใช้เวลาอยู่ในตลาดมานาน อาจจะมีบ้างกับคนที่ดวงดีและประสบความสำเร็จตั้งแต่ปีแรก ๆ ที่เข้ามาลงทุน แต่ในระยะยาวแล้วนักลงทุนทุกคนที่อยู่รอดในตลาด “ไม่มีคำว่าฟลุค” แน่นอน ทุกอย่างพิสูจน์ได้ด้วยฝีมือที่ขัดเกลาจากประสบการณ์ตรงล้วน ๆ
Warren Buffett ลงทุนตั้งแต่อายุ 11 ตอนนี้อายุ 90 ก็ยังอยู่ในตลาด ตัวจริงไม่มีคำว่าฟลุค
ที่มารูปภาพ: www.businessinsider.com
5. เป็นอิสระจากภาระทางการเงินได้ไวกว่า
ประโยชน์ข้อสุดท้ายค่อนข้างตรงไปตรงมา ไม่ต้องอธิบายเยอะ การลงทุนไม่ใช่การรวยเร็ว แต่เป็นการค่อยๆ รวย ดังนั้นใครเริ่มก่อนก็จะได้ดอกผลจากการลงทุนก่อน
เรื่องนี้เอาจริง ๆ พูดง่ายแต่ทำยากเพราะธรรมชาติมนุษย์เนี่ยต้องมีอารมณ์ รัก โลภ โกรธ หลง เข้ามาทุก ๆ วันอยู่แล้วยิงถ้าวันไหนมีมู้ดพวกนี้แล้วเข้ามาเปิดพอร์ตและตัดสินใจทำอะไรในตอนนั้นละก็ผลลัพธ์ที่ได้น่าจะจบไม่สวยแน่ ๆ
ดังนั้นการมีที่ปรึกษาช่วยดูแลให้คุณเอาเงินฝังตุ่ม ไปใช้ชีวิตแล้วกลับมาดูอีกทีในอีก 5-10 ปีข้างหน้าก็น่าจะเป็นวิธีที่ไม่เลว เพราะ ตอบโจทย์ทั้ง เงินต้น (เงินต้นเพิ่มขึ้นได้เพราะคุณมีเวลาไปโฟกัสอย่างอื่นตั้งใจทำงานหารายได้) และก็อัตราผลตอบแทน (ได้ผู้เชี่ยวชาญมาดูแลช่วยให้สบายใจแต่ทั้งนี้และทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับผลงานด้วยนะ)
เริ่มมาก็ได้กฎเหล็กมา 2 ข้อแล้วได้เปรียบสุด ๆ ไปเลย ส่วนเรื่องเวลาก็ให้คุณและโชคชะตานำพามารู้จักกับการลงทุนไว ๆ ละกันครับ
ขอบคุณครับ
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”