หนึ่งในมหกรรมการเงินและการลงทุนใหญ่ ที่มีผู้ติดตามและเข้าเยี่ยมชมมากที่สุด พบกันอีกครั้งทุกปลายปีกับงาน Set in the city 2017 ที่จะมาพบกับท่านต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 แล้ว โดยผู้จัดก็เป็นหนึ่งในองค์กรที่คร่ำหวอดในวงการ ผู้ให้การสนับสนุนด้านนวัตกรรมการเงินใหม่ๆ มาตลอด นั่นก็คือ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กับธีมงานของปีนี้ “จุดประกายความคิดการลงทุน พลิกอนาคตคุณสู่ความสำเร็จ” เพื่อเปิดประสบการณ์การลงทุน ให้ทุกท่านได้เฟ้นหาผลตอบแทนด้วยเครื่องมือการลงทุนต่างๆ ที่พร้อมมานำเสนอโดยสถาบันทางการเงินค่ายใหญ่น้อยที่ขนกันมาอย่างพร้อมเพรียง และยังให้ท่านรู้ทัน นวัตกรรมการลงทุนแห่งอนาคต ด้วยงานสัมมนาและเวิร์คชอปการลงทุนตลอด 4 วันเต็ม ให้ท่านพบกับสาระครบครันเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือ นวัตกรรมการลงทุนใหม่ๆ ตามคอนเซ็ปของงานในปีนี้นั่นเอง
เช่นกันกับทุกปี FINNOMENA เองก็ขนทีมไปร่วมออกบูธ (พบกันได้เช่นเคยที่บูธ S6 Hall 2-3) พร้อมให้บริการเปิดบัญชีและให้คำแนะนำดีๆเช่นเคย วันนี้นอกจากคำเชิญชวนทุกท่านให้มาเยี่ยมชมงานกันเยอะๆ แล้วจึงอยากนำเสนอสิ่งดีงาม 7 อย่าง ที่ผู้จัดมือเก๋าของเราได้คัดสรรมารวมไว้ในงานนี้ เผื่อใครไม่เคยหรือยังลังเลว่าจะมางานนี้ดีมั้ย จะได้รู้ว่า วันที่ 16-19 พฤศจิกายนนี้ ควรจะหาเวลาไปกันนะ โอกาสในการสร้างความมั่งคั่งด้วยนวัตกรรมการลงทุนรอท่านอยู่
งานนี้มีอะไรดีบ้าง งั้นไปดู 7 สิ่งดีงามกันเลย
1. สิ่งดีงามอย่างแรก คือเป็นงานที่เหล่าผู้ให้บริการทางการเงินน้อยใหญ่พร้อมใจกันมาร่วมกันออกบูธและขนพนักงานผู้มีความรู้และ (แน่นอน) มีใบอนุญาต มาให้บริการกับท่านถึงที่
เริ่มจากเหล่า 7 ธนาคารใหญ่ ที่ขนบริษัทในเครือมาให้บริการครบครัน ตั้งแต่บริการทางเงินทั่วไป เช่น เงินฝาก เงินกู้ บัตรเครดิต และ บริการการเงินออนไลน์ จนไปถึงบริการที่เฉพาะเจาะจงด้านการลงทุนไม่ว่าจะเป็น หุ้น อนุพันธ์ กองทุนรวม และสินทรัพย์ทางเลือกอย่างทองคำ ผ่าน 20 บริษัทหลักทรัพย์ ที่มาจัดเต็มกับหุ้น Blue chip / หุ้น Growth / หุ้น dividend และหุ้นเทคโนโลยี สมทบด้วย 14 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่มาพร้อมกองทุนหุ้นไทยและหุ้นเทศดีๆ รวมถึง กองทุนประหยัดภาษี LTF&RMF ตบท้ายด้วย 4 บริษัทนายหน้าผู้ค้าทองคำที่มากับ TFEX Gold-D ให้เราเทรดทอง 99.99% ด้วยสกุลเงินดอลลาร์
ที่มากไปกว่านั้น สิ่งที่เราชอบมากเกี่ยวกับงานนี้คือเป็นงานที่มีความหลากหลายของบริการทางการเงินมากที่สุด เพราะนอกจากที่กล่าวมาในงานท่านจะได้พบกับ โบรกเกอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านประกันชีวิตและประกันภัย เหล่าบริษัทผู้ให้บริการทางการเงิน FINTECH หน่วยงานภาครัฐและสมาคมต่างๆ รวมถึง เหล่าบริษัทจดทะเบียนชื่อดังต่างๆ ทั้งงานตลอด 4 วันเต็ม ท่านจะได้พบบริษัทมากมายกว่า 100 รายชื่อ และผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ กว่า 1,000 ชีวิต เรียกได้ว่า สละเวลามางานนี้วันเดียวตอบโจทย์ไปหลายเรื่องเลย
ใครที่ตั้งใจอยากจะลงทุนอยู่แล้วอย่าลืมเตรียมเอกสารมาเพื่อเปิดบัญชีกันไว้ด้วยนะ
2. สิ่งดีงามอย่างถัดไป การระดมหลากหลายผู้จัดอย่างทีมของตลาดหลักทรัพย์เอง ที่มาตั้งบูธพร้อมให้บริการและเป็นแหล่งให้ความรู้ทางด้านการออมและการลงทุนอย่างครบครัน
เริ่มจากมือใหม่ที่อยากเริ่มต้นลงทุน เพื่อเป้าหมายใกล้ตัวก่อน เช่น อยากมีเงินล้านแรก สามารถเริ่มจากวางแผนทยอยลงทุนทุกเดือนกับโปรแกรม #InvestNow กับคอนเซปการออมแบบง่าย เพียงทยอยออมหลักพันต่อเดือน ท่านก็สามารถมีเงินล้านแรกได้ ลองเข้าไปวางแผนการลงทุน ฟรี!! ได้เลย https://www.set.or.th/investnowstarter/#/
สำหรับสายเทรด แบบคนที่เล่นหุ้นหรือกองทุนรวมก็ตาม ที่บูธของตลาดหลักทรัพย์เองมีเครืองมือใหม่ ๆ มานำเสนอผ่าน Intelligent trading tools เครื่องมือเทรดอัจฉริยะ ที่นำระบบ AI, Robot Advisor และ Chat Bot เข้ามาช่วย เพื่อเข้ามาทำหน้าที่ย่อยและคัดกรองข้อมูลต่าง ๆ จากหลากหลายสินทรพย์และหลายตลาด มานำเสนอให้ตรงใจสามารถเลือกไปใช้กับการเทรดจริงของนักลงทุนได้เลย นับว่าเปิดตัวมาได้ตรงกับยุคดิจิทอล ไทยแลนด์ 4.0 กันเลยทีเดียว
นอกจากนี้ทางตลาดฯ ยังมี Investment Info สำหรับคนยุคใหม่ให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์คนยุคนี้ อีกทั้งยังจัดเตรียมช่องทาง Social media หลากหลาย ให้ท่านได้เข้าถึงข้อมูลการลงทุนในทุก ๆ ที่
3. อีกหนึ่งสิ่งดีงามม…ซึ่งอันนี้เราแอบได้ข้อมูลมาก่อน นั่นก็คือ เรารู้มาว่าหลายผู้ให้บริการทางการเงินจะมาเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ภายในงาน Set in the city ปีนี้ เพื่อให้นักลงทุนได้ลองใช้ก่อนใครที่นี่เป็นที่แรก
เริ่มจากทางผู้จัดอย่างตลาดหลักทรัพย์ ที่กระซิบดัง ๆ บอกเรามาว่าจะมีลูกเล่นใหม่บน application ‘Streaming’ ระบบเทรดหุ้นออนไลน์ที่ใช้งานง่ายจนคนใช้กันทั่วบ้านทั่วเมือง กับฟีเจอร์ใหม่ฟังก์ชันใหม่ “Sense” AI ผู้ช่วยอัจฉริยะที่รู้ใจนักลงทุน โดย “Sense” จะเรียนรู้และวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้และส่งข้อมูลหุ้นที่ผู้ใช้สนใจให้โดยอัตโนมัติ เรียกได้ว่าจะไม่พลาดโอกาสการตัดสินใจในเสี้ยววินาทีเลยทีเลย
อีกบริการที่ทางเราเองก็เฝ้ารอที่จะได้ใช้ “Streaming for Fund” ระบบเทรดกองทุนออนไลน์ที่จะทำให้นักลงทุนติดตามและเทรดกองทุนที่สนใจ ได้ตลอดเวลาผ่าน application บนมือถือ โดยนักลงทุนมีบัญชีกองทุนเพียงที่เดียวก็สามารถเทรดกองทุนรวมที่มีอยู่ในตลาดได้ (เหมือนเปิดบัญชีหุ้นที่เดียวก็ซื้อหุ้นได้ทุกตัวผ่าน streaming) ซึ่งแนวทางแบบ Open-architecture เช่นนี้เป็นสิ่งที่ทาง FINNOMENA เชื่อมาตลอดว่าจะส่งผลประโยชน์สูงสุดให้กับนักลงทุนรายย่อย
4. นอกจากการแวะเยี่ยมชมบูธต่าง ๆ สิ่งดีงามอีกอย่าง คือ การจัดเต็มให้ความรู้แบบสุด ๆ โดยในงานนี้จะมีสัมมนาจัดเต็ม เอี้ยดตลอดทั้ง 4 วัน แถมยังมีให้ถึงสองเวทีให้เลือกได้ตามความชอบ
ณ เวที Hall 1 ด้านนอก “Investment & Simulation” จากชื่อจะเห็นว่าปีนี้ผู้จัดให้ความสำคัญในการลงมือเทรด โดยสองวันแรก (พฤหัส-ศุกร์) จะเปิดเวทีให้มีการแข่งขันการเทรดแบบ Simulation กับโครงการ Click2Win LIVE on Stage ท้าเทรดทั่วไทย งานนี้บอกได้เลยว่า ถึงจะเป็นเทรดแบบ simulation แต่ด้วยศักดิ์ศรีและรางวัลใหญ่ค้ำคอ งานนี้ไม่มีใครยอมใครแน่
หลังจากอุ่นเครื่องให้เวทีร้อนกับการเทรด simulation ไปแล้ว อีกสองวันถัดไป (เสาร์-อาทิตย์) จะเพิ่มความร้อนไปอีกกับงานสัมมนาสุดเข้มข้นกับหลากหลาย ผู้บริหารโบรกเกอร์ ธนาคาร ประกัน และบริษัทจดทะเบียนชั้นนำ จากเช้ายันเย็นกันเลย
ณ เวทีสัมมนา Hall2-3 ข้างในจะเป็นสัมมนาที่น่าสนใจไม่แพ้กัน กับ ธีมสัมมนา “Investment Innovation” เรียกได้ว่าผู้จัดได้นำนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนมานำเสนอให้นักลงทุนแบบจัดเต็ม ไล่ตั้งแต่ Innovation education คือ การหาข้อมูล องค์ความรู้ ด้านการลงทุน ผ่านเทคโนโลยีและเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อการประมวลผลข้อมูลทำได้ง่ายและสะดวกขึ้น
Innovation planning ต่อจากการหาข้อมูล นวัตกรรมต่อไปก็คือการวางแผน ซึ่งในยุคดิจิทอลแบบนี้ ก็มีเครื่องมือ/ตัวช่วยมากมายให้นักลงทุนเลือกใช้ ต่อด้วย Innovative Products & services และ Innovative Trading Tools & Trends นักลงทุนจะได้เปิดประสบการณ์ กับผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินใหม่ๆ ที่เรียกได้ว่าพึ่งเกิดในยุคดิจิทอลนี่เอง อย่างเช่นการใช้ AI, Robot Advisory และ Data Science ต่างๆมาช่วยให้ชีวิตการเทรดและวิคราะห์ของท่านเปลี่ยนไปในทางดีขึ้น สุดท้ายช่วงหัวค่ำพบกับ Innovative Stock ให้ท่านพบกับเรื่องนวัตกรรมเทรดหุ้นใหม่ๆ ว่ากันแบบเน้นๆไปเลยสำหรับคอหุ้น
5. นอกเหนือจากบูธผู้ให้บริการ ผู้จัด และผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ขนกันมาเปิดตัว อย่างจัดเต็ม สิ่งดีงามอันดับถัดไปก็คือ เหล่าบริษัทจดทะเบียนชั้นนำของประเทศที่รวมตัวมาพบนักลงทุน เสมือนเป็น Company Visit จบในตัวตามแต่ละบูธของบริษัท
เรียกได้ว่าเสียเวลาไปวันเดียวได้ศึกษาธุรกิจเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการลงทุนหลายๆบริษัทพร้อมกัน ไม่ต้องเหนื่อยและใช้เวลาไปเยี่ยมชมบริษัทหรือดูโรงงานถึงแต่ละที่จริงๆ แถมยังมีเวทีให้ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนเหล่านี้มาแสดงวิสัยทัศน์กับเรื่องเศรษฐกิจและแนวทางการธุรกิจ อยากรู้ว่าบริษัทไหนจะกำไรมากน้อย หุ้นจะวิ่งแรงแค่ไหน ไปฟังได้ตัวเองเลย ที่เวทีสัมมนา Hall 1
6. หากใครยังไม่รู้จะเริ่มต้นลงทุนยังไง หรือจะกำหนดเป้าหมายการลงทุนให้ตอบโจทย์ตัวเองอย่างไร สิ่งดีงามที่ 6 คือ ในงานยังมีจุดบริการ Wealth Coaching รับคำปรึกษา ตรวจสุขภาพการเงินของคุณ และวางแผนมั่งคั่งครบวงจรแบบตัวต่อตัว กับนักวางแผนทางการเงินไทย (CFP) และ นักวางแผนทางการลงทุน (Investment Planner)
ซึ่ง FINNOMENA ขอบอกเลยว่าเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นมากสำหรับวันนี้และวันข้างหน้า เนื่องจากการวางแผนการเงินจะทำให้ท่านเห็นภาพรวมการบริหารการเงินการลงทุนแบบบูรณาการ ว่าจริง ๆ แล้วการบริหารที่ถูกต้องไม่ได้มองแค่ “กำไร” และ “ขาดทุน” เป็นรอบ ๆ ไป แต่มันเกี่ยวข้องกับการบริหารชีวิตและการเงินในทุก ๆ ช่วงชีวิตเลยทีเดียว แค่ท่านเดินไปที่บูธนักวางแผนทางการเงินไทย หรือที่บูธสถาบันการเงินต่าง ๆ แล้วถามหา “นักวางแผนทางการเงิน” ท่านก็จะได้บริการและรับคำปรึกษาแบบตัวต่อตัวเลยทีเดียว
7. สิ่งดีงามสุดท้ายที่ไม่มีไม่ได้ นั่นก็คือ พริตตี้ สาวสวย (ไม่ใช่ละ ล้อเล่นๆ จ้า) หลายๆคนที่มางานนี้ชอบมากกกกกกก็คือ การลุ้นรับของรางวัล หรือได้รับของแถม!!
โดยแต่ละบูธพร้อมจะสมมนาคุณให้กับนักลงทุนที่มาเยี่ยมชม โปรโมชั่นและของบางอย่างจัดทำมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ เรียกได้ว่าถ้าไม่ได้มางานนี้ท่านอาจจะพลาดโปรโมชั่นและไอเท็มเด็ด ที่ท่านจะไปหาไม่ได้แล้วจากที่อื่น บอกเลยว่างานนี้ต้องเตรียมฟิตร่างกายกันนิดนึง เพราะบางคนไปตัวเปล่า แต่ขากลับถือของกันออกมาเยอะมากๆ กลับบ้านมีเมื่อยทั้งขา ทั้งแขน
แถมให้ สิ่งดีงามท้ายสุด ก็คือ การมีบูธของ FINNOMENA ไปออกงานในมหกรรมครั้งนี้ด้วย!!
สำหรับแฟน ๆ ของ FINNOMENA ที่สนใจพบกูรูและทีมงาน ทั้งที่สนใจอยากจะมาเปิดบัญชีลงทุน NTER หรือ จะแวะจะมาสอบถามข้อสงสัยกับ Product ต่าง ๆ ของเรา NTER GOAL/GAR/GIF และที่ออกใหม่ปีนี้ NTER SPACE และ TOP5 เอง สามารถมาเจอกันได้ที่งานนี้ พวกเราจะพร้อมรอให้บริการตลอดทั้ง 4 วันเต็มๆ บูธ FINNOMENA อยู่ S6 Hall 2-3 (หาง่าย อยู่ติดกับจุดแลกของรางวัล)
สนใจมาเยี่ยมชมแล้วสิ เข้าไปดูแผนผังงานและรายละเอียดกันได้ที่
https://www.set.or.th/setinthecity/2017/index.html เตรียมตัวให้พร้อมก่อนมางานแล้วพบกันจ้า