สิ่งที่มักจะได้ยินหลาย ๆ คนถามกันคือ กองทุนเทคโนโลยีกองไหนน่าลงทุน? ในตอนนี้ FINNOMENA Investment Team มีกองทุนเทคโนโลยีคัดเน้นอัปเดตใหม่มาให้ทุกคน นั่นคือ KFHTECH-A, KFGTECH-A, MGTECH, B-INNOTECH, PRINCIPAL GHEALTH-A, SCBNEXT(A), WE-EVOSEMI, และ KT-WTAI-A หากทุกคนไม่แน่ใจว่าแต่ละกองต่างกันอย่างไรบ้าง เราได้ลองรวบรวมข้อมูลสำคัญ ๆ ของแต่ละกองมาเปรียบเทียบกันดู เพราะแม้จะเป็นกองเทคฯ เหมือนกัน แต่รายละเอียดกองอาจมีความพิเศษที่แตกต่างกันนะ
โปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ เปิดบัญชีลงทุนครั้งแรกกับ FINNOMENA รับหน่วยลงทุน PCASH มูลค่า 100 บาท ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. – 31 พ.ค. 65 คลิก https://finno.me/havefund-promotion
ทำไมกองทุนเทคโนโลยีตอนนี้ถึงน่าลงทุน และยังไม่เป็นฟองสบู่อย่างที่คิด
- หุ้นเทคโนโลยีกลายเป็นหุ้นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งมีอันดับ TOP5 เป็นหุ้นอย่าง Apple Amazon Microsoft Google และ Facebook อีกทั้งยังเป็นกลุ่มหุ้นที่มีน้ำหนักมากที่สุดในดัชนีหุ้นโลกอย่าง MSCI ACWI ชี้ให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และยุคสมัยที่เปลี่ยนไป
- หุ้นเทคโนโลยีมีการเติบโตของกำไรที่โดดเด่นและทิ้งห่างหุ้นกลุ่มอื่น ๆ ไปมากชี้ให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง
ภาพแสดงกำไรต่อหุ้นของดัชนีหุ้นเทคโนโลยี NASDAQ 100 เทียบกับดัชนีอื่น ๆ ที่มา: FINNOMENA
- ถึงแม้ราคาหุ้นเทคโนโลยีจะปรับตัวขึ้นสูงมากในช่วงที่ผ่านมา แต่หากเรามาเช็คมูลค่าผ่านค่า P/E (ยิ่งน้อยยิ่งดี) หรือ Free cash flow yield (ผลตอบแทนจากกระแสเงินสดอิสระที่ยิ่งสูงยิ่งดี) หุ้นเทคโนโลยีก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่น่ากลัวเท่าปี 2000 ชี้ให้เห็นว่าการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นเทคโนโลยีในครั้งนี้มีพื้นฐานรองรับ
ภาพแสดงค่า PE ผลตอบแทนกระแสเงินสดอิสระและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี ที่มา: FINNOMENA
- หุ้นเทคโนโลยีเป็นหุ้นผู้ชนะในระยะยาวและทำผลตอบแทนได้เหนือหุ้นกลุ่มอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่หุ้นทุกตัวที่จะเป็นผู้ชนะ ดังนั้นการกระจายการลงทุนหรือลงทุนในกองทุนรวมจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยสร้างผลตอบแทนในระยะยาวได้เป็นอย่างดี
ภาพแสดงผลตอบแทนดัชนี NASDAQ 100 เทียบกับหุ้น Intel และ Cisco ที่มา: FINNOMENA
กองทุนเทคโนโลยีที่ FINNOMENA แนะนำพิเศษหรือแตกต่างกันยังไง?
ด้วยความที่กองทุนที่ได้กล่าวไว้ตอนต้นเป็นกองทุนที่ไปลงในกองทุนต่างประเทศอีกที จึงเป็นการดีที่เราจะเปรียบเทียบกองทุนต่างประเทศเหล่านั้น ซึ่งทั้งหมด ก็ลงใน Master Fund ที่ไม่เหมือนกันเลย อีกทั้งยังมีค่าธรรมเนียม ผลตอบแทน ความผันผวนและอื่น ๆ ที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย ซึ่งหลังจากนี้เราจะพาทุกคนมาสำรวจกองทุนต่าง ๆ ไปด้วยกัน
ธีมหุ้นเทคโนโลยีโลก (GlobalTech)
ตามที่ได้กล่าวไว้ตอนต้นหุ้นเทคโนโลยีถือได้ว่าเป็นหุ้นที่สร้างการเติบโตของกำไรได้อย่างน่าทึ่ง สร้างกระแสเงินสดได้ดี และให้ผลตอบแทนที่สูง
อย่างไรก็ตามหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำไม่ได้อยู่แค่ในสหรัฐฯ พื้นที่อื่น ๆ บนโลกเองก็มีหุ้นเทคที่แข็งแกร่ง เช่น เอเชียที่มีหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง Alibaba (อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ในจีน), Sea (เจ้าของ Shopee และ AirPay) หรือ TSMC (ผู้ผลิตชิปให้ Apple บริษัท เทคโนโลยีระดับโลก) เป็นต้น ซึ่งก็สร้างผลตอบแทนได้ดีและเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน
ดังนั้นธีมการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีโลกจึงเป็นอีกหนึ่งธีมการลงทุนที่น่าสนใจในการคว้าโอกาสเติบโตแบบทั่วถึง
KFHTECH-A
นโยบายการลงทุน
ลงทุนในกองทุนต่างประเทศชื่อ BGF World Technology Fund (Class D2 USD) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ลงทุนในหุ้นของบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกที่มีธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่โดดเด่นในหมวดเทคโนโลยี โดยกองทุนมีความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 7 และป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน “ทั้งหมด/เกือบทั้งหมด”
สัดส่วนหุ้นหลักที่ลงทุน
หุ้น 10 อันดับแรกที่ BGF World Technology Fund (Class D2 USD) ลงทุน
วันที่: 30 กันยายน 2564
ที่มา: BlackRock Fund Fact Sheet
รายละเอียดค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมซื้อ: 1.50%
ค่าธรรมเนียมขาย: ยังไม่เรียกเก็บ
ค่าธรรมเนียมสับเปลี่ยนเข้า: 1.50%
ค่าธรรมเนียมสับเปลี่ยนออก: ยังไม่เรียกเก็บ
ค่าธรรมเนียมการจัดการ: 0.8025%
ค่าธรรมเนียมรวมรายปี: 0.9968%
ข้อมูลนโยบาย ความเสี่ยง การป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนและค่าธรรมเนียมจาก KFHTECH-A Fund Fact Sheet ณ วันที่ 29 ต.ค. 2564
สนใจลงทุนคลิกที่ลิ้งก์ด้านล่างเพื่อซื้อกองทุนได้เลยทันที!
KFGTECH-A
นโยบายการลงทุน
ลงทุนในกองทุนต่างประเทศชื่อ T. Rowe Price Funds SICAV – Global Technology Equity Fund (Class Q) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับพัฒนาหรือใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีโดยเน้นบริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีทั่วโลกรวมถึงประเทศในตลาดเกิดใหม่ โดยกองทุนมีความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 7 และป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตาม “ดุลยพินิจ”
สัดส่วนหุ้นหลักที่ลงทุน
หุ้น 10 อันดับแรกที่ T. Rowe Price Funds SICAV – Global Technology Equity Fund (Class Q) ลงทุน
วันที่: 31 สิงหาคม 2564
ที่มา: T. Rowe Price Fund Fact Sheet
รายละเอียดค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมซื้อ: 1.50%
ค่าธรรมเนียมขาย: ยังไม่เรียกเก็บ
ค่าธรรมเนียมสับเปลี่ยนเข้า: 1.50%
ค่าธรรมเนียมสับเปลี่ยนออก: ยังไม่เรียกเก็บ
ค่าธรรมเนียมการจัดการ: 0.9630%
ค่าธรรมเนียมรวมรายปี: 1.1635%
ข้อมูลนโยบาย ความเสี่ยง การป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนและค่าธรรมเนียมจาก KFGTECH-A Fund Fact Sheet ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2564
สนใจลงทุนคลิกที่ลิ้งก์ด้านล่างเพื่อซื้อกองทุนได้เลยทันที!
MGTECH
นโยบายการลงทุน
ลงทุนในกองทุนต่างประเทศชื่อ BGF Next Generation Technology Fund (share class) “I2” โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV กองทุนหลักเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่มีความโดดเด่นในการประกอบธุรกิจทั้ง ด้านการวิจัยการพัฒนา การผลิต และหรือการบริการของเทคโนโลยีใหม่และที่เกิดขึ้นใหม่ โดยกองทุนมุ่งเน้น ลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อยุคหน้าได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) คอมพิวเตอร์ (Computing) ระบบอัตโนมัติ (Automation) หุ่นยนต์ (Robotics) การวิเคราะห์ทางเทคโนโลยี (Technological Analytics) พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-commerce) ระบบการชำระเงิน (Payment Systems) เทคโนโลยีการสื่อสาร (Communications Technology) และการออกแบบโครงสร้างเชิงวิศวกรรม (Generative Design) โดยกองทุนมีความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 7 และป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตาม “ดุลยพินิจ”
สัดส่วนหุ้นหลักที่ลงทุน
หุ้น 10 อันดับแรกที่ BGF Next Generation Technology Fund (share class) “I2” ลงทุน
วันที่: 31 ตุลาคม 2564
ที่มา: BlackRock Fund Fact Sheet
รายละเอียดค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมซื้อ: 1.50%
ค่าธรรมเนียมขาย: ไม่มี
ค่าธรรมเนียมสับเปลี่ยนเข้า: ไม่มี
ค่าธรรมเนียมสับเปลี่ยนออก: ไม่มี
ค่าธรรมเนียมการจัดการ: 1.6050%
ค่าธรรมเนียมรวมรายปี: 1.9581%
ข้อมูลนโยบาย ความเสี่ยง การป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนและค่าธรรมเนียมจาก MGTECH Fund Fact Sheet ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564
สนใจลงทุนคลิกที่ลิ้งก์ด้านล่างเพื่อซื้อกองทุนได้เลยทันที!
B-INNOTECH
นโยบายการลงทุน
ลงทุนในกองทุนต่างประเทศชื่อ Fidelity Funds – Global Technology Fund Class Y-ACC-USD โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV กองทุนหลักมีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของบริษัททั่วโลกที่มีการพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์กระบวนการ หรือบริการ อันจะนํามาซึ่งประโยชน์ อย่างสูงจากความก้าวหน้าและการพัฒนาทางเทคโนโลยี โดยกองทุนมีความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 7 และป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตาม “ดุลยพินิจ”
สัดส่วนหุ้นหลักที่ลงทุน
หุ้น 10 อันดับแรกที่ Fidelity Funds – Global Technology Fund Class Y-ACC-USD ลงทุน
วันที่: 31 ตุลาคม 2564
ที่มา: Fidelity Fund Fact Sheet
รายละเอียดค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมซื้อ: ไม่เกิน 1.00%
ค่าธรรมเนียมขาย: ไม่มี
ค่าธรรมเนียมสับเปลี่ยนเข้า: ไม่มี
ค่าธรรมเนียมสับเปลี่ยนออก: ไม่เกิน 1.00%
ค่าธรรมเนียมการจัดการ: 1.0700%
ค่าธรรมเนียมรวมรายปี: 1.2020%
ข้อมูลนโยบาย ความเสี่ยง การป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนและค่าธรรมเนียมจาก B-INNOTECH Fund Fact Sheet ณ วันที่ 13 สิงหาคม 2564
สนใจลงทุนคลิกที่ลิ้งก์ด้านล่างเพื่อซื้อกองทุนได้เลยทันที!
ธีมหุ้นเทคโนโลยีด้านการดูแลสุขภาพ (HealthTech)
ธีม HealthTech ถือว่าเป็นอีกหนึ่งธีมการลงทุนที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ข้อมูลจากการวิจัยจาก McKinsey บริษัท ที่ปรึกษาการจัดการระดับโลกเปิดเผยว่าตลาด Digital Health ที่เชื่อมการรักษาให้ถึงมือผู้คนที่บ้าน จะเติบโตได้ถึง 8% ต่อปีจนถึงปี 2024
นอกจากนั้นหุ้นกลุ่มนี้ยังได้ประโยชน์จากแนวโน้มประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นในอนาคตอีกด้วย ซึ่งหากเรายกตัวอย่างประเทศที่เป็นผู้นำด้านนี้อย่างสหรัฐฯ ที่มีประชากรมากกว่า 46 ล้านคนที่มีอายุมากกว่า 65 ปี และอาจเติบโตไปถึงเกือบ 90 ล้านคน ในปี 2050 หรือเกือบ ๆ 2 เท่า ก็ยิ่งชี้ให้เห็นว่าเทคโนโลยีด้าน HealthTech น่าจะเป็นที่ต้องการในอนาคตอย่างแน่นอน
PRINCIPAL GHEALTH-A
นโยบายการลงทุน
ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหน่วยลงทุนของกองทุนรวม และ/หรือ กองทุน Exchange Traded Fund (ETF) ต่างประเทศ ที่มีนโยบายลงทุนในตราสารทุนและ/หรือหลักทรัพย์ของบริษัทที่มีการทําธุรกิจที่เกี่ยวข้องหรือได้รับประโยชน์จากธุรกิจที่ เกี่ยวข้องกับสุขภาพ (Healthcare) รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพที่ใช้นวัตกรรม หรือเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ทั่วโลก เช่น เทคโนโลยีการวินิจฉัยโรค เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับการดําเนินชีวิต ดิจิทัลเฮลธ์ เภสัชกรรม เทคโนโลยีทางการแพทย์ เครื่องมือทางการแพทย์ รวมถึงการวิจัยและพัฒนาต่างๆ เป็นต้น โดยเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV กองทุนมีความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 7 และป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตาม “ดุลยพินิจ”
สัดส่วนสินทรัพย์หลักที่ลงทุน
BAILLIE GIFFORD WO HEALTH INNOVATION B USD ACC 72.08% ของ NAV
CREDIT SUISSE FM CSIF 2 CS DIGITAL HLTH EQTY 30.61% ของ NAV
Other Assets/liability -3.26% ของ NAV
สัดส่วนหุ้นหลักที่ลงทุน
หุ้น 10 อันดับแรกที่ BAILLIE GIFFORD WO HEALTH INNOVATION B USD ACC ลงทุน
วันที่: 30 กันยายน 2564
ที่มา: Baillie Gifford Fund Fact Sheet
รายละเอียดค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมซื้อ: 1.50%
ค่าธรรมเนียมขาย: ยกเว้น
ค่าธรรมเนียมสับเปลี่ยน: ตามเงื่อนไขการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน
ค่าธรรมเนียมการจัดการ: 1.6050%
ค่าธรรมเนียมรวมรายปี: 1.9581%
ข้อมูลนโยบาย ความเสี่ยง การป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนและค่าธรรมเนียมจาก PRINCIPAL GHEALTH-A Fund Fact Sheet ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564
สนใจลงทุนคลิกที่ลิ้งก์ด้านล่างเพื่อซื้อกองทุนได้เลยทันที!
ธีมหุ้นเทคโนโลยีด้านอินเทอร์เน็ต (InternetTech)
ทุกวันนี้คงไม่มีใครไม่ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างแน่นอน และถ้าบอกให้เราเลิกเล่น “เน็ต” ในอีก 2-3 ปี ก็คงจะเป็นไปได้ยาก
อินเทอร์เน็ตจึงเป็นหัวใจของโลกยุคใหม่ที่ขาดไม่ได้ เพราะ ช่วยให้เราทำได้ทุกอย่างตั้งแต่จ่ายเงิน สั่งอาหาร ซื้อของ คุยกับคน หาหมอ และอื่น ๆ อีกมากมายจนแทบจะเรียกได้ว่าช่วยให้เราทำได้ทุกอย่าง
ดังนั้นการลงทุนเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตจึงมีความน่าสนใจ โดย Ark Invest ได้มีการคาดการณ์ว่าอินเทอร์เน็ตจะกลายเป็นฐานในการสร้างการเติบโตของ Deep Learning (ระบบเรียนรู้เชิงลึก) ที่มีแนวโน้มเติบโตถึง 17% ต่อปีแบบทบต้น
SCBNEXT(A)
นโยบายการลงทุน
ลงทุนในกองทุนต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว ได้แก่ ARK Next Generation Internet ETF (ARKW) โดยเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ในตราสารทุนของบริษัททั้งในประเทศสหรัฐอเมริกาและ ประเทศอื่น ๆ ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับนวัตกรรมเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตแห่งอนาคต (next generation internet) ซึ่งมุ่งเน้นและ คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากเปลี่ยนฐานของโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีจากฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ไปยังระบบคลาวด์ การ ดำเนินธุรกิจผ่านทางเว็บไซต์หรือให้บริการผ่านทางอินเทอร์เน็ต และอาจรวมถึงบริษัทที่พัฒนานวัตกรรมด้านการชำระเงิน นวัตกรรมทางการเงิน (FinTech Innovation) big data และ internet of things กองทุนมีความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 6 และป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตาม “ดุลยพินิจ”
สัดส่วนหุ้นหลักที่ลงทุน
หุ้น 10 อันดับแรกที่ Ark Next Generation Internet ETF (ARKW) ลงทุน
วันที่: 30 กันยายน 2564
ที่มา: Ark Invest Fact Sheet
รายละเอียดค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมซื้อ: IPO ยกเว้นไม่เรียกเก็บ/หลัง IPO 1.00
ค่าธรรมเนียมขาย: ปัจจุบันยกเว้นไม่เรียกเก็บ
ค่าธรรมเนียมสับเปลี่ยนเข้า: IPO ยกเว้นไม่เรียกเก็บ/หลัง IPO 1.00
ค่าธรรมเนียมสับเปลี่ยนออก: ปัจจุบันยกเว้นไม่เรียกเก็บ
ค่าธรรมเนียมการจัดการ: 0.50000%
ค่าธรรมเนียมรวมรายปี: 0.59737%
ข้อมูลนโยบาย ความเสี่ยง การป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนและค่าธรรมเนียมจาก SCBNEXT(A) Fund Fact Sheet ณ วันที่ 11 สิงหาคม 2564
สนใจลงทุนคลิกที่ลิ้งก์ด้านล่างเพื่อซื้อกองทุนได้เลยทันที!
ธีมหุ้นเทคโนโลยีด้านเซมิคอนดักเตอร์ (SemiconductorTech)
เซมิคอนดักเตอร์กลายเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของโลกยุคใหม่ไม่แพ้อินเทอร์เน็ตที่ชิปกลายเป็นหัวใจสำคัญของทุก ๆ อุปกรณ์ เช่น มือถือ คอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่หม้อหุงข้าว ที่ยังต้องใช้ชิปในการควบคุมอุณหภูมิให้มีความแม่นยำ
โดยหุ้นกลุ่ม Semiconductor ของแต่ละบริษัท ก็มีความเชี่ยวชาญในการผลิตชิปรูปแบบที่ต่างกันออกไป เช่น TSMC ที่ถนัดด้านการผลิต หรือ Nvidia ที่ถนัดด้านการออกแบบและดีไซน์ ซึ่งอาจจะฟังดูซับซ้อน
ดังนั้นการลงทุนในกองรวมจึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการคว้าโอกาสเติบโตโดยให้ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ความเข้าใจคัดเลือกหุ้นต่าง ๆ เหล่านี้ให้
WE-EVOSEMI
นโยบายการลงทุน
ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศ และ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟ ตราสารทุนต่างประเทศ ที่มีนโยบายการลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารของบริษัทที่ด าเนินธุรกิจหรือได้รับประโยชน์ จากการเติบโตของความเชื่อมโยงเครือข่ายทางธุรกิจของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductors Business Ecosystem) อาทิ การออกแบบ การผลิต การประกอบ การจัดจ าหน่าย การท าการตลาด รวมถึงการจัดหาเงินทุน วัสดุ อุปกรณ์ของผลิตภัณฑ์และบริการในแต่ละกลุ่มธุรกิจของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ รวมถึงธุรกิจอื่นใดที่เกี่ยวข้อง หรือได้ประโยชน์จากระบบนิเวศทางธุรกิจ (Ecosystem) ดังกล่าว เช่น ธุรกิจในกลุ่มนวัตกรรม เทคโนโลยี เป็นต้น โดยเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV กองทุนมีความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 7 และป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตาม “ดุลยพินิจ”
สัดส่วนหุ้นหลักที่ลงทุน
หุ้น 10 อันดับแรกที่ Invesco Dynamic Semiconductors ETF ลงทุน
วันที่: 30 มิถุนายน 2564
ที่มา: Invesco Fact Sheet
รายละเอียดค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมซื้อ: 1.3375%
ค่าธรรมเนียมขาย: ยกเว้นการเรียกเก็บ
ค่าธรรมเนียมสับเปลี่ยนเข้า: 1.3375%
ค่าธรรมเนียมสับเปลี่ยนออก: ยกเว้นการเรียกเก็บ
ค่าธรรมเนียมการจัดการ: 1.07000%
ค่าธรรมเนียมรวมรายปี: 1.41775%
ข้อมูลนโยบาย ความเสี่ยง การป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนและค่าธรรมเนียมจาก WE-EVOSEMI Fund Fact Sheet ณ วันที่ 30 กันยายน 2564
สนใจลงทุนคลิกที่ลิ้งก์ด้านล่างเพื่อซื้อกองทุนได้เลยทันที!
ธีมหุ้นเทคโนโลยีด้านปัญญาประดิษฐ์ (AITech)
AI หรือปัญญาประดิษฐ์ถือเป็นธีมการลงทุนที่เราอาจจะรู้สึกว่าค่อนข้างไกลตัว แต่ก็มีความสำคัญไม่แพ้กับธีมการลงทุนอื่น ๆ โดย AI จะกลายเป็นหัวใจหลักในการลดต้นทุนในอนาคต ผ่านหุ่นยนต์ต่าง ๆ ที่จะเข้ามาทำงานแทนให้กับเราและช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ผลิตได้อย่างดีเยี่ยม โดยทาง Ark Invest คาดการณ์ว่าต้นทุนของการใช้รถยนต์แบบซื้อเองต่อการเดินทาง 1 ไมล์ (ประมาณ 1.61 กิโลเมตร) ในปี 2025 จะเหลือเพียง 0.25$ ต่อไมล์ เท่านั้น เทียบกับช่วงปี 1924 ที่ $0.70 ต่อไมล์ ซึ่งถือได้ว่าช่วยเราประหยัดไปกว่า 2 เท่าตัวเลยทีเดียว
แต่ก่อนเราจะประกอบหุ่นยนต์ทั้งทีเราก็ต้องใช้ชิปและอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมาย และการลงทุนในบริษัท ต่าง ๆ ดังกล่าวก็น่าจะเติบโตล้อไปกับแนวโน้มแหง่อนาคตนี้ได้เป็นอย่างดี
KT-WTAI-A
นโยบายการลงทุน
กองทุนมีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Allianz Global Artificial Intelligence Class AT (USD) โดยเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV กองทุนหลักมีนโยบายการลงทุน คือ ลงทุนในตลาดตราสารทุนทั่วโลกที่ธุรกิจของบริษัทจะได้รับ ประโยชน์จาก / หรือเกี่ยวข้องกับวิวัฒนาการของปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ในปัจจุบัน โดยมีความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 6 และป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตาม “ดุลยพินิจ”
สัดส่วนหุ้นหลักที่ลงทุน
หุ้น 10 อันดับแรกที่ Allianz Global Artificial Intelligence Class AT (USD) ลงทุน
วันที่: 31 ตุลาคม 2564
ที่มา: เว็บไซต์ https://lu.allianzgi.com
รายละเอียดค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมซื้อ: 1.50%
ค่าธรรมเนียมขาย: ยังไม่เรียกเก็บ
ค่าธรรมเนียมสับเปลี่ยนเข้า: 1.50%
ค่าธรรมเนียมสับเปลี่ยนออก: ยังไม่เรียกเก็บ
ค่าธรรมเนียมการจัดการ: 0.93620%
ค่าธรรมเนียมรวมรายปี: 1.2052%
ข้อมูลนโยบาย ความเสี่ยง การป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนและค่าธรรมเนียมจาก KT-WTAI-A Fund Fact Sheet ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564
สนใจลงทุนคลิกที่ลิ้งก์ด้านล่างเพื่อซื้อกองทุนได้เลยทันที!
ผลการดำเนินงาน
ทีนี้เราลองมาเปรียบเทียบผลการดำเนินงานทั้ง 8 กองกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ผลการดำเนินงานย้อนหลังช่วง 1 เดือนย้อนหลัง
ข้อมูล ณ วันที่ 11 พ.ย. 2564
ที่มา: FINNOMENA
เข้าไปดูข้อมูลการเปรียบเทียบแบบอัปเดตล่าสุดได้ที่: https://finno.me/compare-tech-funds-3
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ปีนี้ยังคงเป็นอีกปีหนึ่งที่ท้าทายสำหรับการลงทุน โดยเฉพาะความกังวลของตลาดเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่อาจส่งผลให้ Fed ลด QE เร็วกว่าคาด จนสร้างความไม่แน่นอนให้กับหุ้น แต่กองทุนหุ้นทั้ง 8 กองนี้ก็ยังปรับตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งสมกับเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่เติบโตมาโดยตลอดในช่วงไม่กี่ 10 ปีให้หลัง
ทิศทางของทั้ง 8 กองทุนดำเนินไปในทางเดียวกันตามที่คาดหมายไว้ โดยกองทุนที่ทำผลการดำเนินงานได้สูงสุดคือ WE-EVOSEMI สูงโดดเด่นถึง 13.15% ที่มีสัดส่วนลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากปัญหาการขาดแคลนชิปอย่างหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์
ทีนี้เราลองมาดูผลการดำเนินงานแบบปักหมุด ในแต่ละช่วงเวลาบ้าง
กองทุน KFGTECH-A ทำผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่นแทบทุกช่วงเวลา (เว้นก็แต่ผลตอบแทนเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง ที่เฉียดฉิวกับกองทุน KT-WTAI-A) โดยกองทุนมี Standard Deviation และ Max Drawdown ใกล้เคียงกับกองอื่น ๆ ส่วนใหญ่ ยกเว้นแค่กอง B-INNOTECH
ส่วนกองเน้นเทคฯ อย่าง B-INNOTECH ถึงแม้จะทำผลตอบแทนได้ไม่สูงนักแต่ก็ให้ค่าผลตอบแทนเทียบความเสี่ยงในระดับที่สูงกว่ากองทุนอื่น ๆ
ส่วนกองทุนอื่น ๆ ทั้งในแง่ผลตอบแทน Standard Deviation และ Maximum Drawdown ถือได้ว่าอยู่ในระดับที่สูสีกัน
ในฝั่งของ 3D Diagram กองทุน KFGTECH-A และ B-INNOTECH โดยรวมถือได้ว่ามีความโดดเด่นสูงกว่ากองทุนอื่น ๆ สื่อให้เห็นว่ามีปัจจัยทั้ง 3 ด้านอยู่ในระดับที่ดี ทั้ง Performance, Risk-Adjusted Return และ Max Drawdown ในขณะที่กองทุนอื่น ๆ ก็มีความโดดเด่นแตกต่างกันไป จึงสรุปได้ว่าทั้ง 8 กองนั้นถือเป็นกองทุนที่คุณภาพดี หากจะถือยาว ๆ ก็สามารถทำได้
ค่าธรรมเนียม
สังเกตว่าค่าธรรมเนียมรวมของ KFHTECH-A จะค่อนข้างต่ำกว่ากองทุนอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งยังมี Performance ที่ดี
ในขณะที่กองทุน SCBNEXT(A) ถือได้ว่าเป็นกองทุนที่มีค่าธรรมเนียมรวมต่ำที่สุด
ในฝั่งของค่าธรรมเนียมขาเข้า-ออก กอง WE-EVOSEMI เป็นกองเดียวที่มีค่าธรรมเนียมขาเข้าถูกที่สุด โดยกองทุนทั้งหมดนี้ตามข้อมูลจาก FINNOMENA Fund ในตอนนี้ไม่ได้มีการเก็บค่าธรรมเนียมขาออกแต่อย่างใด
ขั้นต่ำการลงทุน
ทั้ง 5 กองใช้เงินไม่สูงเกินไป โดยกองที่ขั้นต่ำน้อยสุดคือ WE-EVOSEMI ซึ่งอยู่ที่ 1 บาทเท่านั้น สูงขึ้นมาหน่อยคือ KFHTECH-A B-INNOTECH KFGTECH-A และ K-USXNDQ-A(D) อยู่ที่ 500 บาท และกองที่ใช้เงินลงทุนขั้นต่ำสูงที่สุดซึ่งอยู่ที่ 1,000 บาท ประกอบไปด้วย MGTECH PRINCIPAL GHEALTH-A SCBNEXT(A) KT-WTAI-A
กองไหนเหมาะกับใครบ้าง?
ในเมื่อทั้ง 8 กองถือว่าเป็นกองที่ดีกันทั้งนั้น แต่ปลีกย่อยของแต่ละกองก็ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว ลองมาดูกันว่ากองไหนเหมาะกับผู้ลงทุนสไตล์ไหนบ้าง
KFHTECH-A: เหมาะสำหรับนักลงทุนสไตล์บู๊ ผ่านการลงทุนในหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ ทั่วโลก
KFGTECH-A: เหมาะสำหรับนักลงทุนสไตล์บู๊ ที่สนใจลงทุนในหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลกรวมถึงในตลาดเกิดใหม่
MGTECH: เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ชอบหุ้นเทคโนโลยี ที่ลงทุนในธีมเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่มีโอกาสเติบโตสูง
B-INNOTECH: เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ชอบหุ้นเทคโนโลยี โดยเฉพาะบริษัทใหญ่ ๆ มั่นคง ๆ ที่เราคุ้นหูกันมานาน
PRINCIPAL GHEALTH-A: เหมาะสำหรับนักลงทุนผู้ที่สนใจลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีเฮลธ์แคร์
SCBNEXT(A):เหมาสำหรับนักลงทุนที่สนใจคว้าโอกาสผ่านบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากนวัตกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีฟินเทค รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบปรัชญากองทุน Ark
WE-EVOSEMI: เหมาะสำหรับนักลงทุนที่สนใจคว้าโอกาสในธีมการลงทุนที่เป็นหัวใจหลักของยุคเทคโนโลยี อย่างอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่กำลังอยู่ในกระแสที่ได้ประโยชน์
KT-WTAI-A: เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการคว้าโอกาสลงทุนในบริษัทที่ได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ต่าง ๆ
โปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ เปิดบัญชีลงทุนครั้งแรกกับ FINNOMENA รับหน่วยลงทุน PCASH มูลค่า 100 บาท ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. – 31 พ.ค. 65 คลิก https://finno.me/havefund-promotion
สนใจลงทุนคลิกที่ลิ้งก์ด้านล่างเพื่อซื้อกองทุนได้เลยทันที!
ความเสี่ยงที่พึงระวัง
- ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากทั้ง 8 กองทุนลงทุนในกองทุนต่างประเทศ ส่วนใหญ่แล้วแต่ละกองจะป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน หรือป้องกันทั้งหมด เช่น กองทุน KFHTECH-A
- ความเสี่ยงด้านการกระจุกตัวของอุตสาหกรรม กองทุนข้างต้นมักลงทุนกระจุกตัวอยู่ในอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง ซึ่งอาจมีความเสี่ยงของการลงทุนแบบกระจุกตัวได้
เพื่อนผู้ใจดี
Jessada Sookdhis
Investment Analyst (IA)
ตรวจทานบทความ
ข้อมูลอ้างอิง
*หนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ
KFHTECH-A: วันที่ 29 ตุลาคม 2564 : ดูฉบับปัจจุบันได้ที่ KSAM
KFGTECH-A: วันที่ 29 ตุลาคม 2564 : ดูฉบับปัจจุบันได้ที่ KSAM
MGTECH: วันที่ 30 มิถุนายน 2564 : ดูฉบับปัจจุบันได้ที่ MFC
B-INNOTECH: วันที่ 13 สิงหาคม 2564 : ดูฉบับปัจจุบันได้ที่ BBLAM
PRINCIPAL GHEALTH-A: วันที่ 30 มิถุนายน 2564 : ดูฉบับปัจจุบันได้ที่ PRINCIPAL
SCBNEXT(A): วันที่ 11 สิงหาคม 2564 : ดูฉบับปัจจุบันได้ที่ SCBAM
WE-EVOSEMI: วันที่ 30 กันยายน 2564 : ดูฉบับปัจจุบันได้ที่ WEASSET
KT-WTAI-A: วันที่ 30 มิถุนายน 2564 : ดูฉบับปัจจุบันได้ที่ KTAM
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”