เตรียมแผนเกษียณอย่างไร? กับทศวรรษที่กำลังจากหายไปของประเทศไทย

หลายคนคงเคยได้ยิน “3 ทศวรรษที่หายไป ของญี่ปุ่น”

ประเทศไทยกำลังจะเป็นแบบนั้น

ประเทศที่ครั้งหนึ่งตลาดหุ้นมีดัชนีอยู่  39,916 จุด ในปีที่ 1989 ปัจจุบันปี 2020 อยู่ที่ประมาณ 23,000 จุดที่ไม่เคยทะลุจุดเดิมอีกเลย

ประเทศที่เคยใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลกได้สูญเสียตำแหน่งนี้ไปให้กับจีนแล้ว

ดูจากรูปข้างล่าง

เตรียมแผนเกษียณอย่างไร? กับทศวรรษที่กำลังจากหายไปของประเทศไทย

คุณเคยคิดไหม…ประเทศจะเกิดทศวรรษที่กำลังจากหายไป

ถ้าคุณไม่เคยคิด วันนี้ผมมีข่าวร้ายมาบอก “ประเทศไทยกำลังจะเจอทศวรรษที่กำลังจากหายไป”

ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ผมขอสรุปงานวิจัยเรื่อง “ทศวรรษถัดไปของไทย ธุรกิจโตอย่างไรเมื่อคนไทยกว่า 40% เข้าสู่วัยเกษียณ”  จากบทวิจัยของ เกียรตินาคินภัทร

เตรียมแผนเกษียณอย่างไร? กับทศวรรษที่กำลังจากหายไปของประเทศไทย

จากรูปที่ 1: จำนวนประชากรสูงวัยจะมีสัดส่วนมากขึ้นมาก ในขณะที่ประชากรในวัยที่กำลังทำงานและมีกำลังใช้จ่าย จะมีสัดส่วนลดลงอย่างเห็นได้ชัด

เตรียมแผนเกษียณอย่างไร? กับทศวรรษที่กำลังจากหายไปของประเทศไทย

จากรูปที่ 2: GDP มีแนวโน้มลดต่ำลง เนื่องจากสาเหตุหนึ่งคือ โครงสร้างประชากรวัยทำงานลดลง ขาดกำลังซื้อการบริโภค จะส่งต่อไปยังการเก็บภาษีภาครัฐบาลเพื่อนำลงทุนต่อในระบบลดน้อยลง

เตรียมแผนเกษียณอย่างไร? กับทศวรรษที่กำลังจากหายไปของประเทศไทย

จากรูปที่ 3 บ่งบอกชัดเจนว่า ปัจจุบัน รายได้เฉลี่ยต่อหัวของคนไทยนั้น อยู่ระดับแค่ต่ำ แต่สัดส่วนของคนที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป กลับอยู่ระดับเดียวกับ Singapore ที่อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีรายได้สูง แต่ในอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้าประเทศไทยจะมีสัดส่วนของคนที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปมากขึ้นกว่าเดิม แต่รายได้กลับอยู่ในระดับเดิม

เตรียมแผนเกษียณอย่างไร? กับทศวรรษที่กำลังจากหายไปของประเทศไทย

รูปที่  6   ธุรกิจดั้งเดิมที่เคยเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เช่น รถยนต์ อาหารและเครื่องดื่ม และเสื้อผ้า จะไม่สามารถขยายตัวได้ดีเหมือนเก่า ธุรกิจที่ยังสามารถขยายตัวได้ดี เช่น อุตสาหกรรมยา สุขภาพ โรงพยาบาล หรือด้านบริการ

โดยสรุปจากบทวิจัยคือ

  • การบริโภคจะเริ่มชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ
  • ตลาดสินค้าในประเทศไม่เติบโตได้มากเหมือนในอดีต
  • การขาดแคลนแรงงานจะซ้ำเติมให้ไทยดึงดูดการลงทุนได้น้อยลง
  • ธุรกิจดั้งเดิมที่เคยเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เช่น รถยนต์ อาหารและเครื่องดื่ม และเสื้อผ้า จะไม่สามารถขยายตัวได้ดีเหมือนเก่า
  • ธุรกิจที่ยังสามารถขยายตัวได้ดีตามแนวโน้มสังคมสูงวัย เช่น อุตสาหกรรมยา สุขภาพ โรงพยาบาล ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัย และบริการอื่น ๆ
  • ภาวะสังคมสูงวัยมีส่วนสร้างแรงกดดันให้อัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ
  • เงินบาทแข็งค่า ยังสร้างความท้าทายและข้อจำกัดต่อนโยบายการเงินและนโยบายการคลังในระยะต่อไป

คำถามใหญ่ที่คุณจะถามตัวเอง คือ จะเตรียมแผนเกษียณอย่างไรกับทศวรรษที่กำลังจากหายไปของประเทศไทย

วันนี้ ผมขอฝากข้อคิด 3 ข้อที่อยากให้ทุกท่านเตรียมการรับมือทศวรรษที่กำลังจากหายไปของประเทศไทย

1. แผนการลงทุนเพื่อเกษียณ

ถ้าคุณลงทุนเฉพาะ กองทุน LTF และ RMF หุ้นไทย คุณจะเจอขาดทุนเกือบ -20% จากต้นปี  สิ่งที่คุณควรจะดูคือ พอร์ตการลงทุนเพื่อเกษียณตอนนี้สัดส่วนเป็นอย่างไร  กุญแจที่สำคัญคือ พอร์ตการลงทุนจะต้องมีการกระจายหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก

ยิ่งถ้าคุณใกล้วัยเกษียณ การจัดพอร์ตเพื่อถอนเงินเกษียณจะทวีความสำคัญมาก  เพราะหมดเวลาที่วัยหลังเกษียณจะลงทุนในตราสารหนี้อย่างเดียว

ซึ่งก่อนจะจัดพอร์ตลงทุนคุณจะได้ทำ Gap Analysis ของการเกษียณให้ได้ก่อน เพื่อจะวางแผนได้อย่างถูกต้อง

2. แผนการจัดการค่ารักษาพยาบาล

เป็นที่ประจักษ์มาหลายปีแล้วว่า ค่ารักษาพยาบาลจะปรับตัวมากขึ้น  โดยเฉพาะโรคร้ายแรงที่สูงมาก ดังนั้นคุณควรจะทบทวนแผนการจัดการค่ารักษาพยาบาลก่อนเกษียณและหลังเกษียณ

เตรียมแผนเกษียณอย่างไร? กับทศวรรษที่กำลังจากหายไปของประเทศไทย

แผนแรก คุณควรจะมีแผนค่าใช้จ่ายครบตามรูป 3 เหลี่ยม คือ

  • ค่ารักษาพยาบาลทั่วไป
  • ทุพพลภาพ
  • โรคร้ายแรงระยะต่าง ๆ

ทบทวนของเก่าและเพิ่มเติมตามความเหมาะสม โอนความเสี่ยงไปให้ประกันสุขภาพจะช่วยให้คุณบริหารค่าใช้จ่ายได้มีประสิทธิภาพ ที่สำคัญ อย่าลืม Heath Care Fund กองทุนค่ารักษาพยาบาล เพื่อนำมาจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพหลังเกษียณ และเป็นค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกที่อาจจะใช้ประกันสุขภาพไม่ได้

3. การสร้างมรดกเพิ่มให้ลูกหลาน

มรดกมี 2 ระดับ

  • ระดับที่ 1 คือระดับพื้นฐาน เช่นภาระการศึกษาของบุตร หนี้สิน
  • ระดับที่ 2 คือระดับความปรารถนา เช่น ต้องการจะให้ทายาทมีแต้มต่อ ไม่ได้เริ่มต้นนับ 0  มีเงินตั้งต้น

ดังนั้น คุณจะต้องมีแผนสร้างมรดกเพิ่มให้ลูกหลานอย่างต่อความมั่งคั่งที่ยั่งยืน สร้างคุณค่ายามเราจากไป

ทั้ง 3 ข้อแนะนำนี้ คุณลองกลับไปทบทวนแผนแต่ละแผนที่คุณมี  ทศวรรษที่กำลังจากหายไปของประเทศไทยกำลังจะมาถึงแล้ว

คุณพร้อมแค่ไหน  หรือ คุณปล่อยให้หายไปพร้อมกับประเทศไทย

คุณเลือกได้ !!!

Wealthguru


เริ่มลงทุนเพื่อเกษียณด้วยพอร์ตลงทุนแบบ Global Aggressive Hybrid พอร์ตกองทุนที่จัดโดย WealthGuru ซึ่งลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลก ทั้งเชิงรุกและเชิงรับ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้เงินสร้างความมั่งคั่งในอนาคต สามารถดูรายละเอียดและลงชื่อรับบริการได้ที่นี่ https://www.finnomena.com/port/wealthguru/

พอร์ตเก็บเงินก้อนเพื่อลูก และเพื่อเกษียณโดย WealthGuru

TSF2024