ประกันชีวิต เป็นสินทรัพย์ หรือ หนี้สิน?

ต้องจ่ายค่าประกันอีกแล้ว โอ…ต้องจ่ายเบี้ยอีกนานเลย เบี้ยประกันแบบจ่ายทิ้ง แบบนี้ไม่เอา

ผมเชื่อว่า หลายคนมักจะบ่นแบบนี้  ตอนเวลาต้องจ่ายเบี้ยประกันประจำปี บางคนคิดว่า การจ่ายประกันคือภาระ เหมือนหนี้สินที่จะต้องจ่าย

ตามกระบวนการวางแผนการเงิน  ประกันชีวิตเป็นการปกป้องความมั่งคั่ง หรือ wealth protection

ประกันชีวิตถือว่าเป็นการบริหารจัดการความเสี่ยง  กรณีเกิด worst case เหตุการณที่แย่ที่สุดในชีวิต คือการเสียชีวิต

อืม!!! แล้วตกลง ประกันชีวิตเป็น สินทรัพย์ หรือ หนี้สิน?

ลองดูภาพข้างล่างนี้

ในด้านการบริหารจัดการเงิน เมื่อเรามีรายได้ หักรายจ่าย เหลือเป็นเงินเก็บ มันจะแปลงเป็น

  • เงินสด
  • หุ้น
  • หุ้นกู้
  • อสังหาริมทรัพย์
  • หรือ สินทรัพย์ชนิดต่างๆ

ซึ่งสินทรัพย์เหล่านี้ ก็จะนำไปใช้จ่ายตามเป้าหมายทางการเงินต่อไปนี้ เช่น

  • เป้าหมาย การศึกษาบุตร เช่น อยากให้ลูกเรียนจบเมืองนอก
  • เป้าหมายเกษียณ
  • เก็บไว้เพื่อค่ารักษาพยาบาล
  • เลี้ยงดูพ่อแม่ อยากทดแทนพระคุณพ่อแม่

ไม่ว่าจะมีประกันชีวิตหรือไม่ คุณก็จะต้องมีรายจ่ายสำหรับเป้าหมายทางการเงินเหล่านั้นอยู่แล้ว

แต่ถ้าเกิดเหตุการณที่แย่ๆ ในชีวิต คือ ความตาย หรือ เจ็บป่วย และสินทรัพย์ที่คุณเก็บไว้มีไม่เพียงต่อเป้าหมายทางการเงิน ปัญหาจะตามมา เป้าหมายที่วางแผนไว้จะต้องล้มเลิกไป

ดังนั้น ประกันชีวิต จะถูกนำมาช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ เพราะประกันชีวิตถือเป็นสินค้าที่มี Power of Leverage สูง หรือก็คือ เป็นสินค้าที่มีอัตราทดสูง เช่น อาจจะ 1: 100 เท่า คือ จ่ายเบี้ย 30,000 จะมีเงินสดรอการแปลงสภาพกรณีถ้าเสียชีวิต อยู่ที่ 3,000,000 บาท

ลองคิดดู คุณจะสร้างสินทรัพย์ได้ 3,000,000 บาททันทีได้อย่างไร? ถ้านำเงิน 30,000 บาทไปลงทุน ถ้าผลตอบแทน 8% จะต้องใช้เวลาถึง  29 ปีเลย!!!!! ถึงจะได้เงิน 3,000,000 บาท

ในกรณียังมีชีวิตอยู่ ประกันชีวิตจะมีมูลค่าที่เรียกว่า มูลค่าเงินสด ซึ่งขึ้นอยู่กับแบบประกัน ยิ่งถ้าเป็นประกันแบบสะสมทรัพย์จะมีมูลค่าเงินสดมาก

แต่ถ้าเกิด เหตุการณที่แย่ที่สุดในชีวิต คือเสียชีวิต มันจะกลายเป็น สินทรัพย์ประเภทเงินสดทันที เงินสดจำนวนนี้จะนำไปใช้จ่ายตามเป้าหมายการเงินต่างๆ เช่น การศึกษาบุตร

อัน เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นสัจธรรมของชีวิต  คนเราต้องตายทุกคน ตราบใด ยังมีห่วง ยังมีภาระ ยังมีเป้าหมายที่หวังให้คนที่รักประสบผลสำเร็จ ตราบนั้น สินค้าที่มี Power of Leverage หรือ พลังของอัตราทดสูง เฉกเช่นประกันชีวิต จะช่วยให้เข้าถึง Peace of Mind หรือ ความสงบทางใจ ไม่ให้เกิดความห่วงและกังวลใจได้

คนทำประกันชีวิตจะไม่ได้ใช้ แต่คนใช้จะไม่ได้เป็นคนทำประกันชีวิต คนทำประกันชีวิตจะเข้าใจถึงภาระที่เกิดขึ้นในอนาคต และ ทำด้วยความรักต่อคนข้างหลัง

ใครที่ยังมีภาระอยู่มากมาย  วันนี้คุณได้เข้าถึง Peace of Mind หรือยังครับ ??

-WealthGuru-