การลงทุนในปี 2021 ผ่านมาจะจบ 9 เดือนแล้ว เรามาทบทวนเหตุการณ์สำคัญในปัจจุบันและผลการดำเนินงานให้ปีนี้กันก่อน ก่อนที่จะคาดการณ์เหตุการณ์ในการจัดพอร์ตลงทุน
1. ผลการดำเนินงานในปี 2021
นับตั้งแต่จัดตั้ง พอร์ต Global Aggressive Hybrid มีผลตอบแทนต่อปีอยู่ที่ 8.94% โดยมีผลตอบแทนสะสม 22.8% โดยผลตอบแทนตั้งแต่ปี 2021 อยู่ที่ 6.7% แต่อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนของพอร์ตยังไม่พ้น high เดิมของเดือน ก.พ โดยหลังจากนั้นตลาดเกิดการปรับฐานอย่างหนัก โดยเฉพาะตลาดจีน
2. เหตุการณ์สำคัญในปีนี้
- COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ Delta กดดันการฟื้นตัวของฝั่งเอเซีย
- จีนจัดระเบียบ ทำให้ตลาดหุ้นจีนตกลงอย่างรุนแรง
- เงินเฟ้อพุ่งทะยาน เนื่องจากการกลับมาเปิดเมือง ทำให้เกิด demand มากกว่า supply โดยมีเหตุผลส่วนหนึ่งมาจาก supply chain ที่ยังมีปัญหาอยู่
- ธนาคารกลางประเทศมหาอำนาจ กำลังจะทำ tapering ในปลายปี 2021 นี้
โดยมี 2 เหตุการณ์ที่คาดการณ์ผิด
- ตลาดจีนยังคงลงต่อมากกว่าที่คาด
- กองทุนประเภท Passive ให้ผลตอบแทนชนะ กองทุน Active (จริงแล้วก็อาจเกิดขึ้นได้ แต่เราไม่ทางรู้ว่าจะเกิดเมื่อไร)
3. คาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต
ขอย้อนกลับไปดูตลาดหุ้นช่วงปี 2013-2014 ที่มี Taper Tantrum (ส่งสัญญาณลดวงเงินกระตุ้น) และ QE Tapering (ลดวงเงินกระตุ้นจริง ๆ) จะพบว่า ดัชนี S&P500 มีการปรับฐานเป็นช่วง ๆ แต่ไม่ได้รุนแรงอะไร โดยความแรงของการปรับฐานอยู่ที่ -4% ถึง -6% เพียงแค่นั้น
ในขณะที่ตลาด Emerging Markets ในช่วงเวลาเดียวกัน มีการปรับฐานแรงถึง 2 ครั้งด้วยกัน คือช่วงเดือน พ.ค. 2013 ลบไปถึง -18% และช่วงเดือนพ.ย. 2013 – ม.ค. 2014 ร่วงไปถึง -15%
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บทความ
เฟดลดวงเงิน QE แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับตลาดหุ้น
การทำ QE Tapering จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งค่าขึ้น และเม็ดเงินลงทุนจะไหลกลับเข้าประเทศอเมริกา ส่งผลด้านลบกับภูมิภาค emerging market และราคา commodity แต่อย่างไรก็ตามตลาดหุ้น emerging market ตอนนี้ราคาไม่ได้แพงมาก อีกทั้งอาจไม่ได้รับผลกระทบมากแบบปี 2013 ตราสารหนี้ที่ยิ่งมีระยะเวลา (Duration) มาก อาจได้รับผลกระทบจากราคาที่ลดลงมาก และราคาทองคำปรับอาจมีการปรับตัวหลังจากการลด QE จนกระทั่งมีการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก
Figure 1 ที่มา: thestandard.co/gold-movement-with-qe-tapering-in-2013/
4. พอร์ตการลงทุน
กลยุทธ์การลงทุนมีดังนี้
- เพิ่ม QQQ เป็น Core พอร์ตระยะยาว
กองทุนไทยที่ลงทุนใน QQQ คือ K US Equity NDQ 100 Index-A(A) โดยจะเพิ่ม 10% ทำให้สัดส่วนโดยรวม Principal Global Equity A จะเป็น 30% โดยการนำ QQQ เข้ามาจะช่วยเพิ่มการเติบโตในส่วนของ Core ได้มากขึ้น
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Invesco QQQ ได้ที่บทความ
รุ่นพี่ปะทะรุ่นน้อง QQQ ETF กับ QQQJ ETF
- ลดสัดส่วนหุ้น Emerging Market ลง เพิ่มส่วนหุ้นประเทศพัฒนาแล้ว เช่น อเมริกา
- ลดความผันผวนของพอร์ตลงทุน โดยเลือกกองทุนที่มีความผันผวนไม่มากเกินค่าเฉลี่ย เน้นเลือกเป็นกองทุน global มากกว่ากองทุนแบบ sector
- ลดสัดส่วนทองคำ
โดยสัดส่วนมีดังนี้
Figure 2 ข้อมูล Risk และ ผลตอบแทนนำมาจาก Morningstar วันที่ 26-Sep-2021
- เปลี่ยนกลยุทธ์ Core จาก SCBDJI(A) ไปเป็น K-USXNDQ-A(A)
ทั้ง 2 เป็น Passive Fund โดยลงทุนแตกต่างกันคือ SCBDJA ลงทุนใน Dow Jones Industrial ที่ส่วนใหญ่ เป็นบริษัทในรูปแบบของ Old Economy แต่ K-USXNDQ-A(A) ลงทุนใน Nasdaq-100 ส่วนใหญ่ เป็นบริษัทในรูปแบบของ New Economy จากรูป DIA คือ Dow Jones Industrial ส่วน QQQ คือ Nasdaq-100
ในปี 2021 SCBDJI(A) หรือ DIA จะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวจาก COVID-19 แต่ในระยะยาว บริษัทในรูปแบบของ New Economy จะชนะในเกมดังนั้นจึง ขอเลือก QQQ หรือ K-USXNDQ-A(A) เป็น Core ร่วมกับ Principal GEF-A โดยรวมกันจะได้ 30% ซึ่งจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในการลงทุนระยะยาว
- ลดสัดส่วนของ TMBAGLF
เนื่องจากนโยบายของจีนยังมีความไม่แน่นอนและอาจจะมีผลกระทบต่อ QE ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
- ลดส่วนของ ONE-UGG-RA และ T-Premium Brand
เนื่องจาก ONE-UGG-RA มีสัดส่วนลงทุนใน Asian Emerging Market ซึ่งหลักๆ ก็คือจีน ทำให้มีความผันผวนสูง โดยได้ Risk เป็น high ในขณะที่ ผลตอบแทน YTD อยู่ที่ 11.8% ส่วน T-Premium Brand ก็เช่นกันได้ Risk เป็น high ในขณะที่ ผลตอบแทน YTD อยู่ที่ 13.25% Reward ไม่คุ้มกับ Risk ที่ได้ขอปรับลด ONE-UGG-RA และเพิ่ม KK GNP ที่มีการกระจายและความเสี่ยงที่ต่ำกว่า
รายละเอียดของ Sector Weightings ของพอร์ตการลงทุนในส่วนกองทุนหุ้น
Figure 3 ข้อมูลจาก Morningstar วันที่ 26 Sep 2021
รายละเอียดของ World Regions ของพอร์ตในส่วนกองทุนหุ้น
Figure 4 ข้อมูลจาก Morningstar วันที่ 26 Sep 2021
รายละเอียดของ Top 10 Holding ของพอร์ตลงทุนในส่วนกองทุนหุ้น
Figure 5 นำข้อมูลมาจาก Datasheet ของแต่ละ fund house วันที่ 26 Sep 2021
WealthGuru
*สนใจลงทุนในพอร์ต Global Aggressive Hybrid พอร์ตกองทุนที่จัดโดย WealthGuru ซึ่งลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลก ทั้งเชิงรุกและเชิงรับ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้เงินสร้างความมั่งคั่งในอนาคต สามารถสร้างแผนได้ที่นี่ https://www.finnomena.com/guruport-wealthguru-hybrid-create/
โปรดทราบ สำหรับลูกค้าฟินโนมีนาที่ลงทุนใน FINNOMENA PORT และได้รับบทความนี้ แต่ยังไม่ได้รับอีเมลและ/หรือ Notification ในการแจ้งสัดส่วนเงินในการเข้าลงทุน อาจเกิดจาก 1) ท่านอยู่ระหว่างการทำรายการซื้อขายกองทุน ซึ่งทางฟินโนมีนาจะแจ้งเตือนอีกครั้งภายใน 1 สัปดาห์หลังจากการทำรายการซื้อขายเสร็จสิ้น หมายเหตุ หากท่านไม่ประสงค์ที่จะรอรับการแจ้งเตือน ท่านสามารถดูรายละเอียดของพอร์ตการลงทุนที่แนะนำผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นของฟินโนมีนาพร้อมปรับพอร์ตเข้าลงทุนได้ทันที สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE ID: @FINNOMENAPORT |
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”