Global Aggressive Hybrid Blend ระหว่าง Defensive และ Growth
-
เงินเฟ้อลดลงอย่างต่อเนื่อง
Figure 1 จาก tradingeconomics.com วันที่ 23-Mar-2023
เงินเฟ้อลดลงอย่างต่อเนื่องแต่ยังคงสูงอยู่ อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อการบริการยังคงมีอยู่
-
ดอกเบี้ยใกล้ถึงจุด Peak แล้ว
Fed เพิ่งประกาศขึ้นดอกเบี้ยไป 0.25% ตามคาดหมาย โดยใน Dot plots ซึ่งเป็นการคาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายในอนาคตของสมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงินแต่ละท่านระบุว่า ค่า median ของการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของ Fed อยู่ที่ 5.1% (เท่ากับการคาดการณ์จากการประชุมครั้งที่แล้ว) นั่นหมายความว่าหลังจากมีการขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. Fed น่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ย 25 bps อีกเพียงหนึ่งครั้งในปี 2023 นี้ โดยจะไม่มีการลดดอกเบี้ยในปีนี้แต่อย่างใด
ในส่วนของอัตราการเติบโตเศรษฐกิจในรอบนี้ Fed ประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะชะลอตัวลงค่อนข้างชัดเจนในปีนี้ ในการฟื้นตัวของปีหน้าก็ดูเหมือนจะช้ากว่าในการประมาณการรอบเดือนธันวาคมด้วย ส่วนเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงและลงช้า ตัวเลขเงินเฟ้อแบบ PCE inflation (เป็นประเภทเงินเฟ้อที่ Fed เน้นใช้ประเมิน) น่าจะเห็นตัวเลขเข้าใกล้ 2% ในปี 2024-25
มุมมองการเติบโตเศรษฐกิจและเงินเฟ้อดังกล่าวน่าจะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ Fed คาดว่าการลดดอกเบี้ย จะเริ่มมีขึ้นในปี 2024 ต่อเนื่องถึง 2025 (โดยคาดว่าในสองปีนี้จะมีการลดดอกเบี้ยทั้งหมด 200 bps จาก 5.1% ในปลายปี 2023 ลงไปเหลือ 3.1% ในปี 2025)
ที่มาของข้อมูล: SCBCIO วันที่ 23 มี.ค. 2023
-
Global Sector
Figure 2 seeking alpha วันที่ 23-Mar-2023
Global Sector ที่ outperform ตั้งแต่ต้นปีคือ Technology และ รองลงมาคือ Consumer Discretionary และ Industrial ตามลำดับ ในขณะที่ กลุ่ม Defensive Sector เช่น Consumer Staples, Healthcare และ Utilities กลับ underperform กว่าตลาด
มาดูที่กองทุนในประเทศไทย
Figure 3 Finnomena วันที่ 23-mar-2023
ผลตอบแทนแบบ YTD กองทุน SCBSEMI(A), K-USXNDQ-A(A) และ T-PREMIUM BRAND ซึ่งเป็น sector แบบ Growth ส่วน Defensive Sector ส่วนใหญ่จะ underperform ตลาด
Figure 4 Morningstar วันที่ 31-Jan-2023
เราจะเห็นการทำ Sector Rotation จากเดิม Defensive Sector ที่เคยแข็งแกร่งกว่าตลาดในปี 2022 ไปยัง Growth Sector ในปี 2023 จากรูปด้านบน Defensive Sector เช่น Consumer Staple และ Healthcare มี Valuation ที่แพงกว่า Growth Sector เช่น Consumer Cyclical และ Technology
-
Factor Investing
Figure 5 MSCI วันที่ 23-Mar-2023
Factor ที่เป็น Quality outperform ที่สุด โดยรองลงมาจะเป็น Growth และ Value ตามลำดับ
-
Portfolio
กลยุทธ์ที่อยากให้เป็นตอนนี้คือ เน้นการผสมผสาน ระหว่าง Defensive Sector และ Growth Sector
- ลดสัดส่วนใน TISCOGC ที่เป็น Consumer Staple จากเดิม 15% เป็น 10% แล้วนำมาเพิ่มให้ SCBSEMI(A) จากเดิม 5% เป็น 10%
- ย้ายเงินจาก KKPMP 10% เข้าลงทุนใน B-INNOTECH 10%
สัดส่วนของ Sector จะมี Growth Sector 30% และมี Defensive Sector อีก 30%
WealthGuru
*สนใจลงทุนในพอร์ต Global Aggressive Hybrid พอร์ตกองทุนที่จัดโดย WealthGuru ซึ่งลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลก ทั้งเชิงรุกและเชิงรับ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้เงินสร้างความมั่งคั่งในอนาคต สามารถสร้างแผนได้ที่นี่ https://www.finnomena.com/guruport-wealthguru-hybrid-create/
โปรดทราบ สำหรับลูกค้าฟินโนมีนาที่ลงทุนใน FINNOMENA PORT และได้รับบทความนี้ แต่ยังไม่ได้รับอีเมลและ/หรือ Notification ในการแจ้งสัดส่วนเงินในการเข้าลงทุน อาจเกิดจาก 1) ท่านอยู่ระหว่างการทำรายการซื้อขายกองทุน ซึ่งทางฟินโนมีนาจะแจ้งเตือนอีกครั้งภายใน 1 สัปดาห์หลังจากการทำรายการซื้อขายเสร็จสิ้น หมายเหตุ หากท่านไม่ประสงค์ที่จะรอรับการแจ้งเตือน ท่านสามารถดูรายละเอียดของพอร์ตการลงทุนที่แนะนำผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นของฟินโนมีนาพร้อมปรับพอร์ตเข้าลงทุนได้ทันที สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE ID: @FINNOMENAPORT |
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299