ผ่านไปเกือบ 7 เดือนแล้วสำหรับพอร์ต Global Aggressive Hybrid
ผมขอทบทวนแนวคิดการสร้างพอร์ต Global Aggressive Hybrid ลงทุนในปีนี้คือ
- หลักการเดิม จะเป็นกองทุนแบบ Passive ผสมกองทุนแบบ Active
- ในปีนี้ จะผสมหุ้นแบบ Value ผสมหุ้น Growth
- ต้องเน้นหุ้นวัฏจักร รับการ Re-Open เมือง
ผลการดำเนินของพอร์ต Global Aggressive Hybrid ที่ผ่านมา
จากรูป performance จะเห็นได้ว่า performance ยังไม่พ้น high เดิมที่ทำไว้ เนื่องจากเจอตลาดจีนและ growth stock ปรับฐาน
ผลตอบแทนแบบ Cumulative (แบบสะสม)
ผลตอบแทนแบบ Annualized (แบบต่อปี)
ความผันผวนยังมีต่อไป โดยมีความเสี่ยงหลักๆ คือ
1. Inflation เงินเฟ้อ
รูป 1 เงินเฟ้อของ USA ในรอบ 1 ปีทีผ่านมา
รูป 2 เงินเฟ้อระยะยาว
กระทรวงแรงงานสหรัฐอเมริกา ได้เปิดเผยอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในเดือนพฤษภาคม โดยอยู่ที่ 5% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดที่ 4.7% และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 ปี อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังเชื่อว่า ตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงนี้เกิดจากปัจจัยชั่วคราว ซึ่งจะคลายตัวลงในช่วงที่เหลือของปี นอกจากนี้ยังมองว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่ดูสูงนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากฐานที่ต่ำในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจถูกจำกัดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
เงินเฟ้ออ่อนๆ เป็นสิ่งที่ดีต่อการลงทุนในหุ้น ถ้ามีมากเกินไปจะไม่ดีต่อตลาดหุ้น
2. COVID-19 Pandemic สายพันธุ์ใหม่ยังคงระบาดอยู่ต่อเนื่อง
รูป 3 ข้อมูลจาก Public Health ของ LA USA
รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของเขตลอส แอนเจลิส เคาน์ตี้ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2021 ที่ผ่านมา โดยวันนี้ตัวเลขมากถึง 2,551 คน กระโดดจากเมื่อวานนี้ ที่มีตัวเลข 1,821 คน เสียชีวิต 5 คน
โดยรายงานในช่วงเดือนกรกฎาคมตั้งแต่วันที่ 7 ถึง 14 ในช่วงหลังวันฉลองวันชาติ พบว่าอัตราใน 100,000 คนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนจะมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 13 คน , ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดส แล้วพบติดเชื้อเพียงแค่ 2 คน โดยเปอร์เซ็นต์ในการติดเชื้อเพิ่มสูงถึง 5.2% เทียบกับเดือนที่แล้วพบเพียง 0.7% จากประชากร 10 ล้านคนในแอลเอเคาน์ตี้
ตัวอย่างที่นำมาเป็นเพียง 1 รัฐใน USA เท่านั้น แต่จะเห็นได้ว่า เริ่มมีคนติดมากขึ้น แม้อัตราการเสียชีวิตยังต่ำอยู่
3. QE taperingการปรับลดเม็ดเงินที่ใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการ QE
ปัจจุบันตลาดเริ่มคาดการณ์ว่า Fed จะประกาศลดการอัดฉีดเงินผ่านมาตรการ QE อย่างไรก็ตาม การระบาดของCOVID-19 รอบใหม่และการกระจายวัคซีน อาจจะฉุดให้ศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าคาด ดังนั้น การทำ QE Tapering อาจจะไม่ได้เร็วอย่างทิ่คิด
มุมมองการลงทุน
จากรูปข้างบน ตอนนี้ GDP ของแต่ละประเทศ ได้ Recovery กลับมา และเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ประกอบการดอกเบี้ยต่ำ
ดังนั้น ยังให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้น และ Commodity และลดน้ำหนักลงทุนในตราสารหนี้
สัดส่วนพอร์ตการลงทุนยังเหมือนเดิม ยังไม่มีปรับพอร์ตแต่อย่างไร โดยยังคงผสม หุ้นที่เป็นคุณค่า และหุ้นเติบโต เข้าด้วยกันผ่านกองทุนที่เลือกมาให้ ดังตารางข้างล่าง
จากรูปข้างบนข้อมูลจาก Morningstar วันที่ 23 July 2021 พอร์ตลงทุนมีกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนเน้นไปที่หุ้นเติบโตถึง 60% จาก 100% ของกองทุนหุ้นทั้งหมด คือ กองทุน ONE-UGG-RA , TMBGQG และ T-Premium Brand แบ่งกันคนละ 13.333% โดยที่เหลือจะเน้นไปที่นโยบายแบบผสมคือ กองทุน PRINCIPAL GEF-A 26.7% , TMBAGLF 20% และ SCBDJIA อีก 13.3% ในการผสมจะเน้นเรื่องจัดการความเสี่ยงของพอร์ตลงทุน
สัดส่วนการลงทุนตามตารางข้างล่าง ยังไม่มีการปรับพอร์ตแต่อย่างใด
สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านผ่านพ้นช่วง COVID-19 ระบาดอย่างหนักที่เมืองไทย และ Keep Investing อย่างต่อเนื่อง
เพราะสุดท้าย ผมเชื่อว่า มนุษย์จะสามารถเอาชนะ Virus ได้ และการเติบโตของโลกยังคงมีต่อไปในอนาคต
WealthGuru
*สนใจลงทุนในพอร์ต Global Aggressive Hybrid พอร์ตกองทุนที่จัดโดย WealthGuru ซึ่งลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลก ทั้งเชิงรุกและเชิงรับ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้เงินสร้างความมั่งคั่งในอนาคต สามารถสร้างแผนได้ที่นี่ https://www.finnomena.com/guruport-wealthguru-hybrid-create/
โปรดทราบ สำหรับลูกค้าฟินโนมีนาที่ลงทุนใน FINNOMENA PORT และได้รับบทความนี้ แต่ยังไม่ได้รับอีเมลและ/หรือ Notification ในการแจ้งสัดส่วนเงินในการเข้าลงทุน อาจเกิดจาก 1) ท่านอยู่ระหว่างการทำรายการซื้อขายกองทุน ซึ่งทางฟินโนมีนาจะแจ้งเตือนอีกครั้งภายใน 1 สัปดาห์หลังจากการทำรายการซื้อขายเสร็จสิ้น หมายเหตุ หากท่านไม่ประสงค์ที่จะรอรับการแจ้งเตือน ท่านสามารถดูรายละเอียดของพอร์ตการลงทุนที่แนะนำผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นของฟินโนมีนาพร้อมปรับพอร์ตเข้าลงทุนได้ทันที สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE ID: @FINNOMENAPORT |
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”