1. ภาพรวมผลดำเนินงานของกองทุนในรอบ 9 เดือน
กองทุนรวมหุ้น
ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2562
ที่มา: FINNOMENA
ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- ผลตอบแทนของกองทุนรวมหุ้นต่างประเทศ เช่น กองทุน TMB Global Quality Growth (TMBGQG) อยู่ที่ประมาณ 19% และ กองทุน Principal Global Equity A (PRINCIPAL GEF-A) อยู่ที่ประมาณ 16%
- ผลตอบแทนของกองทุนรวมหุ้นไทย เช่น กองทุน LH GROWTH FUND-A (LHGROWTH-A) อยู่ที่ประมาณ 7% และ กองทุน JUMBO 25 (JB25) อยู่ที่ประมาณ 4%
- ซึ่งกล่าวโดยสรุปคือ กองทุนหุ้นต่างประเทศมีผลการดำเนินงานที่ดีมากกว่ากองทุนรวมหุ้นไทยในขณะนี้
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2562
ที่มา: FINNOMENA
ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- กองทุน Principal Property Income (PRINCIPAL IPROP-A) มีผลตอบแทนถึง 23% ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ กองทุนอสังหาริมทรัพย์มีผลดำเนินการที่ดีมาก
กองทุนรวมตราสารหนี้
ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2562
ที่มา: FINNOMENA
ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- กองทุน TMB Aggregate Bond (TMBABF) มีผลตอบแทนประมาณ 3%
2. ภาพรวมของพอร์ตการลงทุน
*ถึงวันที่ 30 ก.ย 2562
ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2562
ที่มา: FINNOMENA
ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ผลตอบแทน 9 เดือนที่ผ่านมา
ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2562
ที่มา: FINNOMENA
ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ในระยะ 9 เดือนที่ผ่านมา ผลตอบแทนของพอร์ต Global Aggressive Hybrid อยู่ที่ 9.55% ซึ่งใกล้เคียงกับผลตอบแทนคาดหวังตั้งไว้ที่ 8%
แต่ Max Drawdown ของพอร์ต อยู่ที่ -3.69% น้อยกว่าค่า Max Drawdown ของดัชนี SET TR ซึ่งอยู่ที่ -7.81% ประมาณ 2 เท่า แสดงให้เห็นว่า เมื่อเทียบจากจุดที่เคยได้รับผลตอบแทนสูงที่สุด (Historical Peak) พอร์ตการลงทุนนี้ มีระดับผลตอบแทนขาดทุนสูงสุดน้อยกว่าเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นไทย ในอดีตที่ผ่านมา
ผลตอบแทนตั้งแต่เริ่มเปิดพอร์ต ในวันที่ 22 เมษายน 2562
ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2562
ที่มา: FINNOMENA
ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อสินทรัพย์ในพอร์ตการลงทุน
- ทิศทางการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในระยะนี้ ถือว่ายังไม่ดีนัก เนื่องจากตลาดหุ้นมีปรับตัวลงอย่างรุนแรง ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งมาจากปัจจัยหลักคือ ความรุนแรงในเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน รวมถึงการเปิดเผยตัวเลขดัชนีภาคการผลิต PMI จากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) ของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมา ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี ส่งผลให้ตลาดหุ้นเผชิญกับความผันผวน และมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกจะเกิดภาวะถดถอยมากขึ้น
- IMF ปรับลด GDP Growth โลกลง ครั้งนี้ถือเป็นการปรับลดครั้งที่ 4 ของปีนี้ กล่าวคือ ในปี 2562-2563 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวในกรอบ 3% – 3.4% ลดลงจากรอบเดือน ก.ค. ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 3.2% – 3.5% ตามลำดับ เหตุผลหลัก ๆ ยังคงเป็นผลกระทบมาจากสงครามการค้าที่ยืดเยื้อ ทำให้สินทรัพย์ประเภททองคำ ปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่าจะปรับตัวขึ้นมาแล้ว แต่หากเศรษฐกิจเกิดภาวะถดถอย ทองคำจะเป็นสินทรัพย์ที่โดดเด่น
- สำหรับ “คนป่วยคนใหม่แห่งเอเชีย” อย่าง “ประเทศไทย” จากประมาณการในช่วงที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทย นอกจากจะเติบโตต่ำกว่าเศรษฐกิจในกลุ่มภูมิภาค “อาเซียน” แล้ว ผลิตภัณฑ์รวมในประเทศ (GDP) กลับชะลอตัวลงเร็วกว่าและไม่สอดคล้องกับเพื่อนบ้านอย่างเห็นได้ชัด
- แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยลดลง ทำให้กองทุนตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว จะทำผลงานได้ดีกว่าระยะสั้น และส่งผลดีต่อกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund & REITs) และ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund)
ข้อเสนอแนะนำเพิ่มสำหรับนักลงทุนที่ลงทุนพอร์ต Global Aggressive Hybrid ในปัจจุบันอยู่แล้ว
“การลงทุนจะประสบความสำเร็จ มิใช่อยู่ที่พอร์ตลงทุนแต่อยู่ที่กระบวนการการลงทุน”
โดยมีขั้นตอนดังนี้
ข้อที่ 1 กำหนดเป้าหมายของการลงทุน
ต้องติดกระดุมเม็ดแรกให้ถูกต้อง ก่อนจะเริ่มลงทุน สิ่งแรกที่ควรจะถามตัวเอง คือ “ลงทุนเพื่ออะไร” โดยเขียนออกมากเป็นข้อ ๆ แล้วกำหนด เป้าหมาย ระยะเวลา จำนวนเงิน และลำดับความสำคัญ
ข้อที่ 2 วางแผนการลงทุน
หากสามารถกำหนดเป้าหมายของการลงทุน จะสามารถวางแผนการลงทุนดังนี้
กำหนดสมมติฐาน การลงทุนดังนี้
- อายุ 40-55 ปี คาดหวังอัตราผลตอบแทนที่ 8% ต่อปี
- อายุ 56-60 ปี คาดหวังอัตราผลตอบแทนที่ 6% ต่อปี
- แผนการลงทุนสำหรับการเกษียณ
- เงินก้อนแรก 1,000,000 บาท
- ลงทุนต่อปี อย่างน้อยปีละ 350,000 บาท
ข้อที่ 3 เลือกพอร์ตการลงทุน
จากสมมติฐานของการลงทุน ต้องเลือกพอร์ตให้สอดคล้องกับผลตอบแทนคาดหวัง
- อายุ 40-55 ปี ผลตอบแทนที่คาดหวัง 8% จึงควรลงทุนด้วยพอร์ตรูปแบบเติบโต ผ่าน Global Aggressive Hybrid
- อายุ 56-60 ปี ผลตอบแทนที่คาดหวัง 6% ควรลงทุนด้วยพอร์ตรูปแบบสมดุล
จะเห็นได้ว่า ยิ่งระยะเวลายาวนานกว่าจะถึงเป้าหมาย ก็สามารถลงทุนจัดพอร์ตแบบเสี่ยงได้มากกว่า ดังนั้น ยิ่งระยะเวลาใกล้เป้าหมายที่ต้องใช้เงิน จะต้องปรับให้พอร์ตมีความเสี่ยงลดลง
ข้อที่ 4 ลงทุนต่อเนื่องจนถึงเป้าหมาย
วินัยการลงทุนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้เรามุ่งสู่เป้าหมาย ดังนั้นการลงทุนต่อเนื่องและการจับจังหวะการซื้อจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการลงทุน แต่การจับจังหวะการซื้อนั้นเป็นเรื่องที่ยาก เราจึงแนะนำให้ทำการซื้อแบบ Dollar Cost Average (DCA) หรือ ลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน คือจะเป็นการทยอยลงทุนเป็นงวด ๆ เช่น ลงทุนทุกเดือน
ท้ายที่สุด วินัยในการออมและลงทุนต่อเนื่อง จะทำให้ท่านประสบความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมายทางการเงินที่ตั้งไว้
ส่วนปัจจัยเรื่องพอร์ตลงทุนเป็นเพียงตัวช่วยที่จะทำให้ท่านบรรลุเป้าหมายเร็วขึ้น “ตัวท่านเอง คือ Key สำคัญในการลงทุน”
WealthGuru
**สนใจลงทุนในพอร์ต Global Aggressive Hybrid พอร์ตกองทุนที่จัดโดย WealthGuru ซึ่งลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลก ทั้งเชิงรุกและเชิงรับ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้เงินสร้างความมั่งคั่งในอนาคต สามารถดูรายละเอียดและลงชื่อรับบริการได้ที่นี่ https://www.finnomena.com/port/wealthguru/ หรือแบนเนอร์ข้างล่างเลย
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต / ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน