ปี 2020 เป็นปีที่ ตลาดหุ้นจีนพุ่งทะยาน นักลงทุนต่างยินดีกับผลตอบแทนที่ได้
แต่ในปี 2021 ต่อถึงปี 2022 เป็นปีที่นักลงทุนขาดทุนกับหุ้นจีนอย่างหนัก ตลาดปรับตัวลงมากกว่า -50%
หลายคนคงเข็ดกับตลาดหุ้นจีน แต่หลายคนยังยังคงเข้าไปลงทุน เอ๊ะ! แบบนี้ จะลงทุนหุ้นจีนแบบไหนดี
ก่อนอื่นเรามาดู Performance ของตลาดหุ้นจีนย้อนหลังกันก่อน ผ่านดัชนี MCHI – iShares MSCI China ETF ที่จะเน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ทั้งที่อยู่ใน H-shares, B-shares, Red-chips และ P-chips
โดยมีหุ้น 10 ลำดับแรกดังนี้
- Tencent Holdings Ltd
- Alibaba Group Holding Ltd
- China Construction Bank Corporation Class H
- Meituan Class B
- com, Inc. Class A
- Ping An Insurance (Group) Company of China, Ltd. Class H
- Industrial and Commercial Bank of China Limited Class H
- Baidu Inc Sponsored ADR Class A
- NetEase, Inc
- Bank of China Limited Class H
เรามาดูผลตอบแทนย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 31-Mar-2011 ถึง 17-Mar-2022
ที่มา: WealthGuru
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ที่มา: WealthGuru
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
จากผลงานในอดีตจะเห็นได้ว่าการซื้อกองทุนจีนแล้ว buy-and-hold ผลตอบแทนแพ้ ดัชนีโลกอย่าง ACWI ETF ไปเกือบ 2 เท่า โดยที่ ผลตอบของ MCHI แทนอยู่ที่ 2.0% ในขณะที่ ACWI ผลตอบแทนอยู่ที่ 9% ในขณะที่ความผันผวนของ MCHI อยู่ที่ 25.5% มากกว่า ACWI ที่อยู่ที่ 17.3% ขณะที่ Max Draw Down ของ MCHI ก็ยังมีมากกว่าด้วย
เราอาจจะย้อนหลังนานไป เอาแบบนี้ เราย้อนหลังแค่ 2017 – 2022 ผลที่ได้คือ
ที่มา: WealthGuru
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ที่มา: WealthGuru
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ผลออกมาคล้ายๆ กันคือ ผลตอบแทนแพ้ ดัชนีโลก และความผันผวนก็มากกว่าด้วย
แล้วแบบนี้กองทุนหุ้นจีนถือยาวได้ไหม ?
จะลงทุนในกองทุนหุ้นจีนอย่างไร
แม้ผลการทดสอบจะเป็นผลย้อนหลัง มิอาจจะบอกผลตอบแทนในอนาคต
แต่อาจจะพอบอกพฤติกรรมคร่าวๆของหุ้นจีนได้
หุ้นจีนแม้จะถูกแต่มีความเสี่ยงเรื่อง Country risk และ Regulations risk อย่างมาก
ถึงแม้หุ้นจีนจะถูกและไม่แพงถ้าเทียบกับหุ้นอเมริกา
แบบนี้เราจะลงทุนอย่างไร ผมขอนำเสนอ 3 แนวทาง ดังนี้
1. ลงทุนด้วยเส้น Moving Average
เราสามารถกำหนดกลยุทธ์โดยใช้เส้นค่าเฉลี่ย อย่างง่ายดังนี้
ถ้า Price > EMA (200 วัน) ให้ซื้อ ถ้า Price < EMA(200 วัน) ให้ขาย
ผลการทดสอบ ปี 2017 ถึง 2022
ที่มา: WealthGuru
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ผลตอบแทน
ที่มา: WealthGuru
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
Max Draw down
ที่มา: WealthGuru
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
จะเห็นได้ว่า ถ้าใช้ค่า EMA 200 วัน กับกองทุนหุ้นจีนจะทำให้ผลตอบแทนดีขึ้นประมาณ 2 เท่า และที่สำคัญ นักลงทุนจะไม่เจอ Max Drawdown สูงมาก
อย่างไรก็ตามผลตอบแทนก็ยังแพ้ดัชนีโลกแบบ ACWI อยู่ดี
2. ใช้กลยุทธ์แบบ Core-satellite โดยกองทุนหุ้นจีนเป็น Satellite
ที่มา: WealthGuru
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
Core เป็น ACWI อยู่ที่ 60% และ Satellite เป็น MCHI อยู่ที่ 40% โดยจะ Rebalance กับเงินสดทุก ๆ ครั้ง ถ้า MCHI มี momentum ขาลงอ่อนแอกว่าเงินสด กลยุทธ์จะถือเงินสด เป็นการปกป้องความเสี่ยงขาลง
จะเห็นได้ว่า ผลตอบแทนออกมาดีกว่า ACWI และ ความผันผวนน้อยกว่า
3. Buy on Dip ซื้อตอนราคาลงลึก
นักลงทุนต้องดูจังหวะเอง ถ้าลงไปลึกแล้วมีการกลับตัวจริง ก็ทยอยซื้อ แต่วิธีนี้เป็นวิธีที่เสี่ยงเพราะถ้าไม่แม่นก็อาจจะไม่ได้ผล
จากผลทดสอบที่กล่าวมา กลยุทธ์แบบ Core-satellite น่าจะได้ผลที่สุด
สำหรับผม กองทุนจีน เป็น Satellite ไม่ใช่ Core
แต่อย่างไรก็ตาม changing world order อาจจะเปลี่ยนไปก็แล้วได้ ก็คงต้องติดตามและปรับเปลี่ยนกันต่อไป
อย่างไรก็ตาม ถ้าใครจะลงทุนหุ้นจีนแบบ Buy and Hold จงถามตัวเองว่า
“สามารถทนเห็นกองทุนตัวเองลงลึกในระดับ -30% ขึ้นไปได้หรือไม่”
ถ้าไม่ก็อย่างลงทุน
ขอให้ทุกท่านลงทุนกองทุนหุ้นจีนอย่างมีความสุข
WealthGuru