ผมเห็นนักลงทุนหลายท่านตามหาสุดยอด Active Fund เพื่อจะชนะตลาด แต่สำหรับผม กลยุทธ์มาก่อนกองทุนเสมอ เรากลับมาดู Objective คือ “เอาชนะ ACWI Index”
มีอะไรใน ACWI?
ก่อนอื่นไปดูก่อนว่า ACWI ประกอบด้วยอะไรบ้าง
จากข้อมูลเห็นถึง ภูมิภาค / ประเทศ / Sector และขนาด
มี USA มากที่สุด รองลงมาคือ Japan และกลุ่มยุโรป มีกลุ่ม EM บ้าง
หุ้นส่วนใหญ่เป็นตัวใหญ่ และ Sector ที่มีสัดส่วนมากที่สัดคือ Technology
ดังนั้นเราลองมาผสมและเลือกส่วนที่สำคัญ
กลยุทธ์ที่ 1 : Core -Satellite
Core เป็น SPY ETF 60% ที่เหลือ 40% ประกอบด้วย GLD (Gold), DBC (Commodity), IXJ (Healthcare), IXN (Technology), FEZ (Euro 50) และ VWO (Emerging Markets)
ใช้ Momentum และจัดพอร์ตแบบ Inverse Volatility
ผลออกมาตามรูป ผลตอบแทนและ Sharpe Ratio สูงกว่า และ ความผันผวนและ Drawdown น้อยกว่า
Figure 1 ทดสอบโดย portfolio visualizer ปี 2009 – 29 Feb 2024
แบบ Core -Satellite นักลงทุนอย่างคนอาจจะบอกว่า ต้องมานั่ง rebalance บ่อย ไม่ชอบ แต่ชอบแบบถือยาว
กลยุทธ์ที่ 2 : Buy and Hold
ผมเลยจัดแบบง่าย ๆ ดังนั้น
กองทุน Portfolio ที่ 1 Portfolio ที่ 2
SPY 60% 60%
FEZ 0% 10%
IXJ 15% 7%
IXN 15% 7%
VMO 0% 6%
GLD 10% 10%
ผลการทดสอบคือดังรูป เป็นแบบ buy and hold
ผลออกมาตามรูป ผลตอบแทนและ Sharpe Ratio สูงกว่า และ ความผันผวนและ Drawdown น้อยกว่า
สามารถเอาชนะได้ทุกตัวเลข โดยกลยุทธ์คือการเลียนแบบ ACWI Index แต่เพิ่ม Sector เข้ามาให้พอร์ต และมีทองคำให้การบริหารความเสี่ยง
Figure 2 ทดสอบโดย portfolio visualizer ปี 2009 – 29 Feb 2024
ถ้าแปลงเป็นกองทุนไทย
กองทุน กองทุนไทย Portfolio ที่ 1 Portfolio ที่ 2
SPY TMBUS500 60% 60%
IXJ KFHEALTH-A 15% 7%
IXN B-INNOTECH 15% 7%
GLD SCBGOLD 10% 10%
FEZ K-EUX 10%
VMO TMBEMEQ 6%
ลองมาดูผลทดสอบย้อนหลังโดยกองทุนไทยกันบ้าง
โดยการทดสอบและเขียนสรุปด้วย เจ้าของ Page: FunManager
Figure 3 ทดสอบเจ้าของ Page Fun Manager
มาลองทำ Backtest 5 ปี ย้อนหลัง เริ่มลงทุน 100,000 บาท ช่วงกลาง มี.ค. 2019 ผ่าน COVID-19 จนมาถึง มี.ค. 2024
เปรียบเทียบกับ
- KWORLD-X เป็นตัวแทนของ MSCI ACWI แม้อายุไม่ถึง 5 ปี แต่แอดใช้ NAV จาก ACWI มาจำลองเป็น NAV ของ K-WorldX ก่อนก่อตั้ง
- TMBWDEQ เป็นตัวแทนของ MSCI World และไม่ป้องกันค่าเงิน
- TMBGQG กองหุ้น Quality Growth ที่ก่อตั้งมานาน
- KKPGNP อีกกองเด่นดัง Quality + Growth
ผลสรุป มีดังนี้
- Port 1 มีผลตอบแทนย้อนหลังที่ดีที่สุด และมี Sharp Ratio ที่ดีที่สุด และ Maximum Drawdown (MDD) ที่น้อยที่สุด 26%
- Port 2 มีผลตอบแทนเฉลี่ยที่น้อยกว่า TMBWDEQ และ KKPGNP แต่ผลจากการจัดพอร์ตช่วยให้ MDD อยู่ที 28% แต่ถ้าเป็นกองหุ้น MDD จะอยู่ที่ 31-37%
- มาถึงตรงนี้บางคนอาจจะบอกว่า เลือก TMBWDEQ อาจจะดีกว่า เพราะหุ้นโลกขึ้น และไม่ Hedge ค่าเงิน >> ใจเย็น ๆ คุณคงไม่ลงกองเดียวใช่ไหม แล้วถ้าบาทแข็ง ผลตอบแทนจะเป็นอย่างไรแล้วแต่มุมมองครับ เพราะทุกวันนี้มีกองทุนที่ไม่ป้องกันค่าเงินออกมาขายมากขึ้น
- วัตถุประสงค์หลักของพี่หนุ่ม คือการสร้างพอร์ตให้เอาชนะ ACWI (K-WorldX) ซึ่งแอดก็มองว่ามันตอบโจทย์ตั้งแต่แรกแล้วว่า ผลตอบแทนดีกว่า SD ต่ำกว่า Sharpe สูงกว่า MDD ต่ำกว่า
*** เขียนสรุปด้วยเจ้าของ Page : Fun Manager
อย่างไรก็ตามนี้เป็นการจัดกลยุทธ์ ที่ผมเรียนรู้อยู่แล้วว่าใครชนะใครแพ้ จะเกิด bias ในการจัดพอร์ตได้ อีกทั้งกองทุนไทยอาจจะมีเรื่องพวกค่าเงิน และค่า fee ต่าง ๆ ด้วย ผลตรงนี้ไม่ได้การันตีผลในอนาคต แต่เป็นไอเดียเท่านั้น
อย่างที่เคยบอก อย่ามองหาสุดยอดกองทุน Active Fund มองหากลยุทธ์ในการจัดพอร์ต ที่สำคัญ ผลตอบแทนคาดหวังในการลงทุนของคุณพอใจหรือไม่ ถ้าพอใจ อาจจะไม่จำเป็นต้องเพิ่มความเสี่ยง
Global Aggressive Hybrid Portfolio พอร์ตการลงทุนที่ผสมผสานกองทุนแบบ Active และ Passive กระจายลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ทั่วโลก ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://port.finnomena.com/plan-select/plans/guruport-hyb
WealthGuru
คำเตือน
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนมีการลงทุนกระจุกตัวในประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”