คุณเคยมีพฤติกรรมแบบนี้หรือไม่
การจับจ่ายใช้สอยที่มากเกินความจำเป็นในปัจจุบัน
ชอบลงทุนอะไรง่ายๆ ไม่ใส่ใจค้นคว้าหาข้อมูล
ไม่กล้าลงทุน กลัวจะขาดทุน รับไม่ได้ถ้าขาดทุน
ไม่เคยคิดเรื่องเตรียมเงินเพื่อเกษียณอายุ
ไม่กล้าซื้อสินค้าการเงิน หรือลงทุน เพราะกลัวตัดสินใจพลาด
ไม่ทำประกัน เพราะมั่นใจว่า ตัวเองไม่เจ็บป่วย และ เกิดอุบัติเหตุ
รู้ว่า ออมและการลงทุนดี แต่ก็ไม่เคยทำ
พฤติกรรมของคุณเกิดจากมายาคติของคุณ
มายาคติของคุณ ส่งผลทำให้พฤติกรรมผิดพลาด
พฤติกรรมการเงินที่ผิดพลาด ทำให้วิธีใช้เงินผิดพลาด
วิธีใช้เงินผิดพลาด นำมาสู่ความจน มาดูกันว่ามีความคิดแบบไหนบ้าง บทความนี้ขอนำมาให้ศึกษากัน 5 ข้อก่อน
1) อยู่กับปัจจุบันดีกว่า อย่าเพิ่งคิดถึงอนาคต
ทำไมไม่ต้องวางแผนเกษียณด้วย อีกนาน เราต้องทำอยู่กับปัจจุบันก่อนสิ…
ผมเองเคยเจอกับมายาคติของผู้รับคำปรึกษาของผมแบบนี้มาแล้ว
คนที่คิดแบบนี้กำลังเจอกับ Present Bias เกิดจากการที่คนให้น้ำหนักกับปัจจุบันมากกว่าอนาคต เช่น การจับจ่ายใช้สอยที่มากเกินความจําเป็นในปัจจุบัน ทำให้ไม่มีเงินสะสมเก็บไว้ใช้ช่วงเกษียณ
อาการสายตาสั้น ทำให้ไม่เคยคิดไปข้างหน้า ขอสบายวันนี้ก่อน ทำให้ไม่เคยคิดเรื่องเป้าหมายการเกษียณในอนาคต เพราะเห็นว่ายาวนานเกินไป
2) มะเร็งเหรอ ไม่เกิดกับผมหรอกครับ ผมแข็งแรง
…คือสิ่งที่ผมได้ยินบ่อยมากเวลาพูดเรื่องการวางแผนการจัดความเสี่ยง
คนที่คิดแบบนี้กำลังเจอกับ Over Confidence Bias เป็นอคติของคนที่เกิดจากความมั่นใจมากเกินไป การลงทุนของเราได้กำไรแน่นอน หุ้นตัวนี้เราดูมาอย่างดี ขึ้นแน่นอน
เราไม่เป็นโรคมะเร็งหรอกจะทำประกันไปทำไม
เราไม่คิดเจ็บป่วยหรอกจะต้องจ่ายค่าประกันเสียไปทำไม
ความตายเหรอ ยังห่างไกล เราตายยาก
หุ้นตัวนี้ เซียนบอกมา เด็ดมาก ขึ้นแน่นอน แบบนี้ต้องจัดเต็ม
สิ่งเหล่านี้คือการมั่นใจในตัวเองมากเกินไป
Overconfidence Bias ความมั่นใจตัวเองมากเกินไปเป็นความประมาท
ความประมาทเป็นบ่อเกิดแห่งความตาย แต่ความประมาททางการเงินเป็นบ่อเกิดแห่งความจน
3) ตลาดหุ้นคือ บ่อน
“ตลาดหุ้นคือบ่อนของคนรวยที่ถูกกฏหมาย” เป็นคำที่ผมเคยได้ยินมาจากคนหลายคนและอาจจะเป็นความฝังใจของคนส่วนใหญ่ แต่การพนัน ต่างกับการลงทุนอย่างมาก
การพนันจะเป็นเดาและการเสี่ยงโชค ไม่ได้ใช้เหตุผลในการซื้อหรือขาย แต่ถ้าลงทุนจะต้องผ่านการวิเคราะห์มาอย่างดี ก่อนจะที่ลงทุน
คนลงทุนในตลาดมีหลากหลายประเภท แต่คนที่มีชนะตลาดเพียง 20% และพวกเขาไม่ใช่นักพนันแน่นอน
4) ไม่เอาแล้ว ลงทุนแล้วขาดทุน มีแบบผลตอบแทนการันตีไหม
…คือสิ่งที่ผมได้ยินบ่อยมากเวลาพูดเรื่องการวางแผนการลงทุน กับคนที่เคยลงทุนด้วยตัวเอง หรือ คนที่ได้ยินข่าวไม่ดีเกี่ยวกับการลงทุน
นี่คือ Regrets Bias เป็นอคติของคนที่เกิดจากการรู้สึกกลัว ความไม่กล้าต่อการตัดสินใจ ไม่กล้าลงทุน เพราะกลัวขาดทุน ไม่กล้าขายหุ้นที่แพงแล้ว เพราะกลัวขายแล้วหุ้นขึ้น ไม่กล้าซื้อหุ้นถูก เพราะกลัวซื้อแล้วหุ้นลงต่อ
ลงทุนไปแล้วขาดทุน ทำให้เกิดความกลัวในการลงทุน ซึ่งแท้จริงแล้ว อาจจะเป็นเพราะว่า ไม่เข้าใจการลงทุนอย่างแท้จริง เมื่อไม่เข้าใจพอ ก็ขาดทุน ทำให้เกิดทัศนคติไม่ดีต่อการลงทุน
5) เอาเงินไปลงทุนเองดีกว่าซื้อประกันสุขภาพ
คนที่คิดแบบนี้จะมองด้านบวกของการลงทุนเพียงอย่างเดียว คือ ได้กำไร
มองด้าน upside ไม่ได้มองด้านที่ลงทุนแล้วผิดพลาดจะต้องเสียเงิน
แต่คนมองการซื้อประกันสุขภาพคือการเสียเงิน
ค่าใช้จ่ายประกันสุขภาพเพิ่มขึ้นปีละ 7-8% จะลงทุนอะไรได้ปีละ 7-8% โดยไม่ขาดทุน ไม่มีความผันผวน อยากจะถอนเอาเงินออกมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลเมื่อไรก็ได้?
การทำประกันสุขภาพคือการจัดการความเสี่ยง หากไม่ทำประกัน ถ้าเกิดเจ็บป่วย จะต้องนำเงินจากการลงทุนหรือเงินออม ไปจ่ายค่ารักษาพยาบาล ทำให้สูญเสียโอกาสในการลงทุนแบบต่อเนื่อง ที่สำคัญการลงทุนมีความเสี่ยงที่จะขาดทุน ถ้าลงทุนแล้วขาดทุนอยู่ โชคร้ายยังต้องเจ็บป่วย ยังต้องถอนเงินจากการลงทุนมาอีก
…ก็ยิ่งขาดทุน
WealthGuru
ติดตาม WealthGuru ได้ที่เพจ https://www.facebook.com/wealthguruconsulting
เริ่มลงทุนเพื่อเกษียณด้วยพอร์ตลงทุนแบบ Global Aggressive Hybrid พอร์ตกองทุนที่จัดโดย WealthGuru ซึ่งลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลก ทั้งเชิงรุกและเชิงรับ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้เงินสร้างความมั่งคั่งในอนาคต สามารถดูรายละเอียดและลงชื่อรับบริการได้ที่นี่
https://www.finnomena.com/port/wealthguru/ หรือแบนเนอร์ข้างล่างเลย
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน