“งบไตรมาส 1 ที่เพิ่งประกาศมาถือเป็นการทวงบัลลังก์ Big Tech Company คืนอย่างแท้จริง กำไร Google พุ่งแรงถึง +160% !!”
หากถามว่า Search Engine ไหนที่ใช้ประจำก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคือ Google
ทุกวันมีการใช้ Google เพื่อค้นหาข้อมูลกว่า 3,500 ล้านครั้งต่อวัน และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ Google ครอง Market share ฝั่ง Search Engine กว่า 90% ทั่วโลก (เรียกว่าไร้คู่แข่งก็ไม่แปลก)
ธุรกิจของ Google ที่คุ้นเคยประกอบด้วย
– Search Engine โดย Google Search
– แผนที่นำทางด้วย Google Maps
– เว็บเบราเซอร์ท่องโลกอินเทอร์เน็ตอย่าง Google Chrome
– ผู้ให้บริการ E-mail อย่าง Gmail
– พื้นที่เก็บข้อมูลอย่าง Google Cloud Platform
– การรับชมสื่อบันเทิงทาง Youtube
– หรือแม้กระทั่งระบบปฏิบัติการอย่าง Android
โดยแพลตฟอร์มที่พูดถึงทั้งหมดมีคนใช้งานกว่า 2,000 ล้านคนต่อเดือน
จึงทำให้ผู้บริหารมีการปรับโครงสร้างใหม่ในปี 2015 โดยตั้งบริษัทแม่ชื่อ Alphabet ขึ้นมาเพื่อเป็น Holding
รายได้ของ Alphabet
ปี 2018 : 136,819 ล้านดอลลาร์
ปี 2019 : 161,857 ล้านดอลลาร์
ปี 2020 : 182,527 ล้านดอลลาร์
รายได้เกือบทั้งหมดของบริษัทมาจากการโฆษณา (Google AdWords, AdSense, Youtube) และรายได้อื่น ๆ มาจากการขาย Software และ Hardware (Application ใน Google Play, Pixel)
ราคาหุ้นของ Google อยู่ที่ประมาณ 2,300 ดอลลาร์ Market Cap อยู่ที่ 1.56 ล้านล้านดอลลาร์
แล้วธุรกิจที่จะสร้าง The Next S-Curve ของ Google ตัวใหม่คืออะไร ?
สองธุรกิจที่กำลังเป็นที่จับจ้องของ Google คงหนีไม่พ้น Google Cloud Platform และ Youtube
โดย Youtube กำลังเริ่มเปิดฟีเจอร์ใหม่ Youtube Short รูปแบบคล้ายกับ Tiktok ในขณะนี้มีการใช้งานแล้วในอินเดียและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ผู้เข้าชมมากกว่า 3,500 ล้านครั้งต่อวัน โดยในเดือนนี้จะเปิดตัวในสหรัฐ
Youtube เป็นเว็บไซต์ที่มีการค้นหามากที่สุดรองจาก Google และสร้างรายได้อย่างมหาศาลให้กับ Alphabet มีรายได้จากการโฆษณาเพิ่มขึ้น +46%YoY อีกทั้งยังมีบริการ Youtube Premium และระบบ Subscription Channel ต่าง ๆ
แต่การเติบโตของ Youtube นี่น่าสนใจมาก เพราะพฤติกรรมของคนอินเดียซึ่งถือเป็น ตลาด Internet ที่นักลงทุนจับตามากที่สุดในตอนนี้ คนอินเดียนั้นชอบใช้ Youtube มาก เวลาหาข้อมูลไม่ Google กันแล้ว แต่ Youtube เลย มีสอนทุกสิ่งอย่าง แน่นอน ดันยอดใช้งาน Youtube โตระเบิด และตอนนี้โควิดในอินเดียระบาดได้น่ากลัวมาก ๆ
Google Cloud Platform ถือครอง Market Share เพียง 7% ในตลาดนี้แต่ก็สร้างรายได้ให้กับ Google ไม่น้อย รายได้ของฝั่ง GCP เพิ่มขึ้น +47%YoY คิดเป็น 7% ของรายได้ทั้งหมด แต่ก็ยังอยู่ในเฟสของการลงทุนเพราะรายได้ส่วนนี้ยังไม่มีกำไร
Google Waymo – รถยนต์ไร้คนขับเวอร์ชั่น Google จะแป้กหรือจะเกิด ยังต้องลุ้น
Waymo เปิดตัวครั้งแรกในปี 2018 โดยให้บริการในรูปแบบของรถโดยสารใน Arizona ปัจจุบันยังมีการให้เจ้าหน้าที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยเพื่อความปลอดภัยและกำลังพัฒนาต่อเพื่อให้สามารถใช้งานแบบ Autonomous ได้อย่างจริงจังในอนาคต แต่จะสู้ Tesla ได้หรือไม่ ทุกคนยังสงสัย
STADIA
เมื่อวงการเกมสามารถเล่นในมือถือได้มากขึ้นทำให้ Google เห็นประโยชน์ตรงนี้และเริ่มลุยธุรกิจเกม ในปี 2019 ได้ประกาศว่านวัตกรรมของเราจะทำให้สามารถเล่นเกมได้ในทุกอุปกรณ์ โดยที่ไม่ต้องติดตั้งเกมบนอุปกรณ์นั้น ๆ
ซึ่ง Google เรียกสิ่งนี้ว่า STADIA เป็นแพลตฟอรมการเล่นเกมผ่าน Cloud รูปแบบการทำงานคือใช้คอมพิวเตอร์ของ Google เพื่อประมวลผลและทำการฉายภาพมาให้กับผู้เล่นได้ดู ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการดู Video ใน Youtube นั้นหมายความว่าเราไม่จำเป็นที่ต้องใช้คอมสเปกเทพหลักหลายหมื่นเพื่อซื้อมาใช้เล่นเกมอีกต่อไป และสามารถเล่นได้ในทุกอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นมือถือหรือ Laptop เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต
รวมทั้ง Google ได้ร่วมกับ AMD เพื่อออกแบบ Data Center เพื่อมาใช้กับอุตสาหกรรมนี้ และตัวแปรสำคัญมากๆของเทคโนโลยีนี้คือ 5G ที่จะเป็นตัวเชื่อมที่ทำให้สามารถเกิดเทคโนโลยีนี้ขึ้นได้จริง ๆ
โชคดีอย่างว่า Google นั้นจัดว่า Low hope พอตัว เนื่องจาก Revenue growth รอมร่ออยู่แถว 15-20% กันสักพัก จากโฆษณาที่ไม่โต
BottomLiner
ที่มาบทความ: https://www.facebook.com/bottomlinerglobal/posts/4484205521594547