พบกับ FINNOMENA Opp Day กันอีกครั้ง LIVE วันนี้ลองเปลี่ยนเวลาออกอากาศจากเวลา 14.00 น. เป็น 10.00 น. เพราะมีคอมเมนต์จากผู้ชมมาว่าดูรายการ THE OPPORTUNITY จบก็เลยเวลา Cut-off ซื้อขายกองทุนพอดี กดซื้อไม่ทัน

สำหรับใครที่เพิ่งตามรายการ THE OPPORTUNITY เป็นเทปแรก ความตั้งใจของรายการนี้คือการแชร์กองทุนที่น่าสนใจ ที่ทีมงาน FINNOMENA มองแล้วว่าดี มาแนะนำให้นักลงทุนที่ต้องการลงกองทุนรายกองหรือมีพอร์ตกองทุนอยู่แล้วแต่ยังมีเงินเย็นเหลืออยู่ได้มีโอกาสในลงทุนเพิ่ม อย่างไรก็ตามอำนาจในการตัดสินใจยังอยู่ที่นักลงทุน เพราะคนที่รับความเสี่ยงในการลงทุนก็คือนักลงทุนทุกท่านเอง

สำหรับใครที่พลาด LIVE เช้านี้หรือไม่มีเวลานั่งดูยาวๆ ยังมีสรุป LIVE มาให้อ่านกันเหมือนเดิม ถึงจะพลาด LIVE แต่รับรองว่าไม่พลาดเนื้อหาใน LIVE แน่นอน

รีวิว Tactical Call ทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมาของ FINNOMENA

กองทุนที่แนะนำในรายการ THE OPPORTUNITY เป็นกองทุนที่ FINNOMENA มองว่าสามารถลงทุนในระยะยาวได้ สำหรับลงในพอร์ต DIY ซึ่งจะต่างจาก Tactical Call ที่เป็นการจับจังหวะการลงทุนระยะสั้น ระยะเวลาในการถือไม่เกิน 3-6 เดือนเท่านั้น

ช่วงที่ผ่านมา FINNOMENA เคยทำ Tactical Call ไป 3 ครั้ง ครั้งนี้เลยถือโอกาสรีวิวให้นักลงทุนฟังกันว่า Performance ของแต่ละครั้งเป็นอย่างไร

Tactical Call ครั้งที่ 1: TMBGQG

ครั้งแรกช่วง COVID-19 ระบาด ตลาดตกลงมาแรง Tactical Call เข้าลงทุนในกอง TMBGQG เนื่องจากคาดการณ์ว่าจะเกิด Wave B ตามทฤษฎี Elliott Wave สำหรับทำกำไรระยะสั้น ผลลัพธ์คือทำกำไรได้ถึงเป้าที่ประมาณ 10% อ่านรายละเอียดได้ในบทความ รอบ Bear Market Rally จังหวะทำกำไรระยะสั้นมาแล้ว! และบทความ รอบ Bear Market Rally ใกล้จบ ล็อกกำไรเตรียมเงินไว้รอบหน้า

Tactical Call ครั้งที่ 2: ONE-UGG-RA และ KF-GTECH

สำหรับ Tactical Call ครั้งที่ 2 ตอนกลางเดือนพฤษภาคม เกิดสัญญาณเทคนิคในกราฟดัชนี S&P 500 กราฟทะลุผ่าน Golden Ratio ขึ้นไปได้ จึงแนะนำเข้าลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหุ้นกลุ่มผู้ชนะฝ่าวิกฤต ผลลัพธ์การลงทุนเก็บกำไรได้ประมาณ 13-21% อ่านรายละเอียดได้ในบทความ S&P 500 ทะลุผ่าน Golden Ratio จังหวะทำกำไรระยะสั้นมาอีกครั้ง และบทความ ถึงจังหวะทำกำไร หลังดัชนี S&P500 และ Nasdaq ถึงเป้า

Tactical Call ครั้งที่ 3: TMB-ES-CHINA-A และ TMBCHEQ

ครั้งที่ 3 FINNOMENA แนะนำเข้าลงทุนในหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ หรือหุ้น A-Share เนื่องจากตลาดหุ้นจีนพุ่งจุดพลุจากการลงทุนของรายย่อย แนะนำให้เข้าลงทุนไปเมื่อวันที่ 9 ก.ค. และปัจจุบันยังไม่มีการแนะนำให้ออกหรือ Stop Loss อ่านรายละเอียดได้ในบทความ ตลาดหุ้นจีนถูกจุดพลุ จังหวะ Follow Buy ระยะสั้นเกิดขึ้น

Market Wrap Up

หุ้นกลุ่ม FANGMA งบเขียวชอุ่ม หุ้นพุ่งไม่สนใจ GDP ที่หดตัว -32.9%

สัปดาห์ที่ผ่านมามีการประกาศงบของบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ ของสหรัฐฯ ซึ่งหุ้นกลุ่ม FANGMA งบออกมาตัวเลขเขียวเกือบทั้งกระดาน หุ้นหลายตัวทำ New High สวนทาง GDP ที่ประกาศออกมาหดตัว -32.9%

กลุ่ม FANGMA ประกอบไปด้วยหุ้น Facebook / Amazon / Netflix / Google / Microsoft / Apple ตัวเลขงบการเงินสรุปดังรูป

หุ้น Facebook ทำ All Time High ใหม่ ถึงจะเจอแฮชแท็คคว่ำบาตรก็ผ่านมาได้แถมยังโตขึ้น บริษัท Amazon ขนาดเอากำไรไปช่วยโควิดแล้ว Earnings per Share ก็ยังโตกว่าขึ้นกว่า 97% เทียบกับปีก่อน และ Apple เพิ่งสร้างปรากฏการณ์ใหม่ไปเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ราคาหุ้นทะลุ New High เดิมและทำให้บริษัท Apple กลายเป็นบริษัทที่มี Market Cap ใหญ่ที่สุดในโลก เอาชนะบริษัท Saudi Aramco ไปเรียบร้อย

หุ้นเทคฯ สหรัฐฯ กลุ่มนี้นับว่าเติบโตแข็งแรง ซึ่งกองทุนที่ลงทุนในหุ้นเหล่านี้จะสรุปท้ายบทความ

หุ้นสายวัฏจักรอาจต้องรอ เพราะ GDP และ Initial Jobless Claim ไม่สู้ดี

GDP ไตรมาส 2 ของสหรัฐฯ ประกาศออกมาติดลบกว่า 32.9% และมีจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 2 สัปดาห์ต่อเนื่อง เป็นครั้งแรกหลังการเปิดเมือง ซึ่งอาจกระทบหุ้นกลุ่มที่เติบโตตามวัฏจักร เพราะจากตัวเลขทั้งสองส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจจะยังไม่ฟื้นเร็วๆ นี้

หุ้นเทคฯ สหรัฐฯ ออกมาดูดี แล้วหุ้นเทคฯ จีนเป็นไงบ้าง

ฝั่งประเทศจีนยังไม่มีการประกาศงบออกมา ซึ่งจะประกาศภายในเดือนนี้ตามตาราง ซึ่งบริษัทอย่าง Tencent และ Alibaba นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะโตขึ้นกว่าไตรมาสที่แล้ว

ส่วนบริษัท Ping An บริษัทประกันภัยที่ใหญ่ที่สุดในจีน (เป็นหุ้นที่ CP Group ของเจ้าสัวธนินท์ลงทุนอยู่ด้วย) ซึ่งมี Market Cap ใหญ่มากในตลาดหุ้น A-Share ก็ได้รับแรงหนุนจากเบี้ยประกันที่ราคาสูงขึ้น ส่งผลให้น่าจะโตขึ้นในไตรมาสนี้เช่นเดียวกัน

แนะนำกองทุนลงทุนระยะยาว

กองทุนที่แนะนำในรายการ THE OPPORTUNITY เป็นกองทุนที่เป็น Long-term Call แนะนำให้ลงทุนในระยะยาวซึ่งเลือกตามปัจจัยพื้นฐาน เลือกตลาดที่เป็น Bullish Fundamental ต่างจาก Tactical Call ที่ลงทุนตามสัญญาณเทคนิคอลเป็นหลัก

เนื่องจากพื้นฐานของบริษัทเทคโนโลยีตอนนี้ดูดี FINNOMENA จึงแนะนำลงทุนในกองทุนเทคโนโลยีที่ลงทุนในสหรัฐฯ และจีน มีกองทุนแนะนำอยู่ 3 กองด้วยกัน

1. TMBCOF: ถ้าหากชื่นชอบบริษัทเทคฯ จีน แนะนำลงกองทุน TMBCOF เป็นกองฮิตกองหนึ่งที่ลงทุนใน Tencent, Alibaba, Ping An ครบถ้วน Performance ย้อนหลังอยู่ในเกณฑ์ดีมาก

2. K-USA-A(A) และ K-USA-A(D): กองทุนนี้ลงทุนในหุ้นเทคฯ สหรัฐฯ เช่น Shopify, Amazon, Spotify, Facebook สำหรับนักลงทุนที่ชอบหุ้นเทคฯ สหรัฐฯ แนะนำลงกองทุนนี้ ซึ่ง Performance ย้อนหลังก็อยู่ในเกณฑ์ดีมากเช่นกัน ส่วนจะเลือกแบบสะสมมูลค่า (A) หรือจ่ายปันผล (D) ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล

3. ONE-UGG-RA: กองทุนสุดท้าย เป็นกองที่ติดชาร์ตกองทุนที่ทำผลงานยอดเยี่ยมที่สุดในช่วงที่ผ่านมา สำหรับนักลงทุนที่ชอบทั้งหุ้นเทคฯ สหรัฐฯ และหุ้นเทคฯ จีน แนะนำกองทุนนี้ เพราะเป็นกองทุนที่ลงทุนในทั้งสองภูมิภาค ลงทุนทั้งในหุ้น Tesla, Amazon, Facebook, Tencent, Alibaba และมีการปรับพอร์ตนำหุ้นเทคฯ จีนเข้ามาเพิ่มในพอร์ตเล็กน้อยด้วย

สำหรับสรุป LIVE ก็จบเพียงเท่านี้ ถ้าอยากดู LIVE เต็มๆ กดดูได้ที่ลิงก์วิดิโอบนหัวบทความได้เลยครับ ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการลงทุนครับ

เขียนโดย TUM SUPHAKORN


เคยไหม? รู้สึกสะดวกกับการใช้บริการธนาคารเพื่อซื้อกองทุน แถมได้เอกสิทธิ์พิเศษ แต่มักได้รับการแนะนำผลิตภัณท์ที่ไม่ตรงกับความต้องการ

เราขอนำเสนอ FINNOMENA แพลตฟอร์มที่จะแนะนำกองทุนที่ตรงกับความต้องการของคุณจริง ๆ

เปิดบัญชีลงทุนออนไลน์ ซื้อกองทุนได้เร็วสุดภายในวันทำการถัดมา ลองเลย! https://finno.me/oa1327

TSF2024