ช่วงนี้มีเหตุการณ์หวือหวาหลายอย่าง ตลาดหุ้นหลายตลาดทำ New High และทองคำก็ทำ All Time High ตามไป ผ่านมาครึ่งปีโดยสมบูรณ์แล้วหลังจากงบไตรมาส 2 ทยอยประกาศออกมา หลังจากนี้ทิศทางตลาดหุ้นจะไปทางไหน ทิศทางทองคำจะไปทางไหน และมีกองทุนไหนที่น่าสนใจลงทุน ติดตามได้ในสรุป LIVE ครับ
ตลาดหุ้น ทองคำ จะไปทางไหน?
- ช่วงที่ผ่านมา Yield ของพันธบัตร 10 ปีของสหรัฐฯ สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (ดูภาพประกอบด้านล่าง) เนื่องจากปริมาณ Supply ที่สูงขึ้นกรณีทรัมป์ลงนาม Executive Order ให้สนับสนุนคนว่างงาน เมื่อกระทรวงการคลังต้องใช้เงินเพื่อดำเนินการตามนโยบายนี้จึงต้องออกพันธบัตรเพิ่ม นักลงทุนมองว่ากำลังจะมี Supply ของพันธบัตรเข้ามา จึงทำให้พันธบัตรมีราคาถูกลงและดัน Yield ของพันธบัตรขึ้นมา
- ตัวเลข Yield ของพันธบัตรนี้สำคัญ เพราะเมื่อ Yield พันธบัตรสูงขึ้นจะทำให้ Real Yield สูงขึ้นตาม ตามสมการ อัตราดอกเบี้ยแท้จริง (Real Yield) = อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Nominal Bond Yield) – Breakeven Inflation และจากความสันพันธ์ระหว่าง Real Yield กับราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมา ราคาทองคำทำจุดสูงสุดเมื่อ Real Yield ทำจุดต่ำสุดพอดี และราคาทองปรับตัวลง เมื่อ Real Yield ดีดกลับขึ้นมา (รูปด้านล่างเป็น Real Yield แบบ Invert)
- อีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลกับราคาทองคำในช่วงนี้ คือ ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า ปกติราคาทองคำจะสูงขึ้นเมื่อดอลลาร์อ่อนค่า แต่ตอนนี้เมื่อ Real Yield สูงขึ้น จึงเป็นการคานกันระหว่าง 2 ปัจจัยที่ตรงข้ามกัน ทำให้ราคาทองคำยังไม่ไปไหน
- Real Yield ที่สูงขึ้นก็เป็นปัญหาสำหรับ FED เช่นกัน เพราะ FED ต้องการอัดฉีดเงินเข้าไปในระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่า ซึ่งวิธีที่ FED จะกด Real Yield ลงมาได้มีอย่ 2 วิธี คือ วิธีที่ 1 อัดฉีด QE เข้าไปเพิ่ม เพื่อซื้อพันธบัตรและกระตุ้นเงินเฟ้อ วิธีที่ 2 ทำ Yield Curve Control ทำให้ Yield ของพันธบัตรคงที่ แต่วิธีนี้จะไม่มีการพิมพ์เงินออกมา ซึ่งไม่รู้ว่าตลาดจะตอบรับยังไง
กลยุทธ์ของ FED เป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดทิศทางทั้งราคาทองคำและตลาดหุ้น เพราะเมื่อ Real Yield ลดลง ความสนใจก็จะกลับมาสู่ทองคำและตลาดหุ้น ทำให้ทองคำและตลาดหุ้นวิ่งต่อ
- สำหรับมุมมองจากนักวิเคราะห์ Goldman Sachs คาดการณ์ว่าดัชนี S&P 500 จะโตขึ้นกว่า 20% ขึ้นไปที่ 3,800 ในปี 2021 และคาดการณ์ว่าภายในสิ้นปี 2020 นี้จะสามารถขึ้นไปถึงระดับ 3,600 (ณ วันที่ 17 สิงหาคม 2020 ดัชนีอยู่ที่ 3,370) หลังเศรษฐกิจเริ่มทยอยฟื้นตัวได้แล้ว
ส่องงบหุ้นจีน
- สัปดาห์ที่แล้วบริษัทในจีนเริ่มทยอยประกาศงบไตรมาสที่ 2 ออกมา
- Tencent ถึงแม้ว่ารายได้และกำไรจะมากกว่าคาดการณ์ แต่ราคาหุ้นยังนิ่งอยู่ สำหรับกรณีทรัมป์แบน WeChat ผู้บริหารมองว่ากระทบแค่ธุรกิจนอกประเทศจีนเท่านั้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเพียง 4.4%
- Moutai สุราจีน เป็นหนึ่งใน Consumer Product ที่จะโตได้ระหว่างวิกฤต รายได้ยังคงเติบโตถึงแม้ว่าจะน้อยกว่าคาดการณ์ ซึ่งหุ้น Moutai มีขนาด Market Cap ใหญ่เป็นอันดับต้นๆใน CSI300 เลยทีเดียว
- NetEase บริษัทเกมมือถือออนไลน์ รายได้ยังคงเติบโตมากกว่าคาดการณ์ หนุนโดย Mega Trend ของ Gaming Industry ที่สามารถสร้างงานสร้างอาชีพได้จริง
- บริษัทอื่นๆ เช่น Alibaba, Citic Securities, China Merchants Bank งบจะประกาศตามมาในสัปดาห์นี้
ช่วงแนะนำกองทุน
- สำหรับการลงทุนระยะสั้น แนะนำเป็นกองทุนจีน TMB-ES-CHINA-A และ TMBCHEQ รายละเอียดทั้งหมดอยู่ในบทความ FINNOMENA Tactical Call : ตลาดหุ้นจีนถูกจุดพลุ จังหวะ Follow Buy ระยะสั้นเกิดขึ้น
- สำหรับกองทุนเพื่อการลงทุนระยะยาว เป็นกองทุนที่อยู่ใน Mega Trend มีแนวโน้มเติบโตได้ในระยะยาว แนะนำกอง ONE-UGG-RA ลงทุนในหุ้นเติบโตทั่วโลก, กอง K-USA-A(A) ลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งมีหุ้นเทคฯ ชั้นนำจำนวนมาก, กอง TMBCOF ลงทุนหุ้นเทคฯ จีน
- หากสนใจกองทุน สามารถเข้าไปดูข้อมูลทุกแง่มุมของแต่ละกองได้ โดยคลิกที่ชื่อกองทุนนั้นๆ ได้เลยครับ
สำหรับสรุป LIVE ก็จบเพียงเท่านี้ อยากดู LIVE เต็มๆ แบบละเอียดๆ กดดูได้ที่ลิงก์วิดิโอบนหัวบทความได้เลยครับ ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการลงทุนครับ
เขียนโดย TUM SUPHAKORN