ผลการประชุมของ FED เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (11 มิ.ย. 63) FED คงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับใกล้ศูนย์เหมือนเดิมตามคาด ที่สำคัญคือมีการชะลอการทำ QE จากเดิมที่เคยซื้อไม่อั้น ตอนนี้จำกัดวงเงินการซื้ออยู่ที่ไม่เกิน 1.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน ตลาดก็ตอบรับไปตามระเบียบโดยการร่วงวูบลงมา VIX (Volatility Index) มีการเหวี่ยงขึ้นชัดเจนภายหลังการประชุม คำถามก็คือ การที่ SET และตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตกลงมาในเวลานี้ ควรรับหรือไม่? รายการ THE OPPORTUNITY จะมาชวนตอบคำถามนี้กันครับ

Key Factor ที่อยู่เบื้องหลังในการปรับฐานในครั้งนี้

1. ความคาดหวังเงินเฟ้อลดลงหลัง FED ชะลอ QE

กราฟเส้นสีขาวคือ Forward Inflation Swap ซึ่งแสดงถึงความคาดหวังเงินเฟ้อในอนาคต มีการปรับตัวลงชัดเจนหลังการประชุมของ FED ความคาดหวังเงินเฟ้อที่ลดลงนี้ หมายความว่าคนเริ่มคิดว่าเงินจะฝืด ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลง

2. Spread ตราสารหนี้เอกชนกว้างขึ้น

Spread ของตราสารหนี้ภาคเอกชนทั้ง Investment Grade และ High Yield เริ่มกลับมากว้างขึ้น Spread ที่มากขึ้น สะท้อนความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ที่มากขึ้น อาจจะส่งผลให้เกิดการปรับฐานในตลาดตราสารหนี้ได้

3. ยังไม่มีปัญหา liquidity หดตัวในตลาดเงินเหมือนเดือนมีนาคม

FX Basis Swaps คือตัวเลขที่สะท้อนสภาพคล่องตลาดเงินทั่วโลก ถ้าติดลบมากแสดงว่าต้นทุนในการกู้ยืมเงินสูงขึ้น จากกราฟจะสังเกตว่าตัวเลขยังไม่ได้มีการหดตัวมากเท่าตอนเดือนมีนาคม แสดงว่าการที่ตลาดหุ้นปรับตัวลงในครั้งนี้ สภาพคล่องในตลาดเงินยังอยู่ดีไม่มีปัญหา

วิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิคในการปรับฐานครั้งนี้

S&P 500

วันพฤหัสบดีที่แล้ว S&P 500 Index เกิด gap ลงมาแล้วก็ rebound ขึ้นมาได้นิดหน่อย ถึงจะหลุด Uptrend Line ลงมา แต่ก็ยังสามารถยืนอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันได้ มองว่ารอสะสมที่แนวรับ 2,960 และโซน 2,830-2,880 จุด

NASDAQ

สำหรับ NASDAQ ยังยืนบน Uptrend Line ได้ เนื่องจาก NASDAQ ทะลุ New High ไปได้เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว เป้าใหม่ของ NASDAQ จึงอยู่ที่ 10,340 จุด ซึ่งตรงกับ Fibonacci Retracement 261.8%

SET

ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้วที่ SET ขึ้นไปอยู่ที่เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน สุดท้ายไม่สามารถผ่านทะลุขึ้นไปได้และมีการปรับฐานทันที แนวรับถัดมามองว่ามี 2 จุด คือ ที่ 1,320 ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ย 20 วัน และ 1,270 ซึ่งเป็น Fibonacci Retracement 61.8%

กองทุนที่แนะนำ

มุมมองของ FINNOMENA ยังคงแนะนำกองทุนชุดเดิม 5 กองที่พูดถึงใน LIVE วันที่ 8 มิ.ย. 63 (อ่านสรุปได้ที่นี่) ได้แก่

1. PHATRA G-UBOND-H

กองนี้เตรียมรับการปรับฐานเนื่องจาก Spread ที่เพิ่มขึ้นของตราสารหนี้ภาคเอกชน

2. LHTPROP

กองอสังหาไทยปรับตัวเล็กน้อย แต่ผันผวนน้อยกว่า SET ซึ่งเป็นเรื่องดี

3. KT-PROPERTY

Global REIT ปกติจะปรับตัวตามตลาดหุ้นค่อนข้างแรง แต่การลงทุนช่วงนี้เงินจะ seek for yield สามารถทยอยเข้าลงทุนระยะยาวได้

4. KF-GTECH

เตรียมรับการปรับฐานเนื่องจากหุ้นเทคฯ ปรับตัวลง

5. ONE-UGG-RA

เตรียมรับการปรับฐานเนื่องจากหุ้นเทคฯ ปรับตัวลง

สรุปมุมมองของ FINNOMENA

ปัจจัยทางเทคนิคดูแล้วคาดว่าจะมีการปรับฐาน กองทุนหลายกองที่ลงในต่างประเทศต้องเตรียมรับการปรับฐานตามกองแม่ แต่ภาพรวมมองว่าไม่น่าจะทำ New Low สามารถทยอยลงทุนจากการปรับฐานครั้งนี้ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือ FED จะกลับเข้ามาช่วยพยุงตลาดหรือไม่ ซึ่งถ้ามีอัปเดตทาง FINNOMENA จะรายงานทันทีครับ

เขียนโดย TUM SUPHAKORN