หายหน้าหายตากันไป 2 สัปดาห์เนื่องจากติดวันหยุดเข้าพรรษา สัปดาห์นี้รายการ THE OPPORTUNITY กลับมาอัปเดตตลาดและแนะนำกองทุนที่น่าสนใจกันเหมือนเดิม ตลาดช่วงนี้ก็ถือว่าหวือหวา หุ้นเทคฯ สหรัฐเด้ง หุ้นจีนเด้ง ตลาดเด้งสวนทางกับตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจที่ดูท่าจะไม่ดีเท่าไร แล้วในจังหวะแบบนี้มีกองทุนอะไรที่น่าลงทุนบ้าง ติดตามได้ในสรุป LIVE ประจำวันที่ 13 ก.ค. ครับ

Market Update

  • ผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทั่วโลกยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ยอดรวมทะลุ 12 ล้านคน โดยยอดที่เพิ่มขึ้นมานี้เป็นประเทศกลุ่ม Emerging Market เป็นส่วนใหญ่ ส่วนในยุโรปชะลอตัวแล้ว
  • ช่วงเดือนที่ผ่านมาเริ่มเห็นผลกระทบที่เกิดกับภาคธุรกิจชัดเจนขึ้น Muji ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ เพิ่งยื่นแผนฟื้นฟูกิจการ Chapter 11 ไป รวมถึงมีการคาดการณ์ว่าบริษัทน้ำมันในสหรัฐฯ กว่า 240 แห่งจะล้มละลายในปี 2021
  • ถึงแม้ว่าภาพเศรษฐกิจจะดูไม่ดี IMF คาดการณ์เศรษฐกิจโลกจะติดลบ 3% ในปีนี้ แต่ตลาดหุ้นโลกกลับไม่เป็นเช่นนั้น บวกขึ้นสวนทางเศรษฐกิจจากจุดต่ำสุดขึ้นมาแล้ว 20% ตาม MSCI World
  • หุ้นกลุ่มที่ดันตลาดขึ้นไปในรอบนี้คือกลุ่มหุ้นเทคฯ อย่างที่เคยพูดไว้หลายครั้งที่ผ่านมา สังเกตจาก S&P500 ที่เริ่มชะลอตัว แต่ NASDAQ ยังขึ้นสูงได้เรื่อยๆ
  • ณ ตอนนี้ NASDAQ ถึงราคาเป้าหมายระยะสั้นตอนเข้า Tactical Call แล้ว (จังหวะเข้าอ่านได้ที่บทความนี้ และจังหวะออกอ่านได้ที่บทความนี้) และยังคงอยู่ใน Uptrend Channel ราคาเป้าหมายระยะสั้นถัดไปอยู่ที่ 11,000 จุด ภายในปลายเดือนนี้
  • สำหรับการทยอยสะสมลงทุนหุ้นกลุ่มเทคฯ ในระยะยาวสามารถทำได้ โดยมีข้อควรระวังตรงที่ตลาดขึ้นมาค่อนข้างแรงและขึ้นไปสูงแล้ว ควรเข้าทยอยสะสมด้วยสัดส่วนตามความเสี่ยงที่รับได้เท่านั้น
  • ส่วนประเด็นร้อนแรงเรื่องกองทุนจีนในสัปดาห์ที่ผ่านมา กองทุนจีนขึ้นมากว่า 20% ในสัปดาห์เดียว โดยหุ้นกลุ่มหลักที่ดันตลาดก็คือกลุ่ม Financial Service หุ้นกลุ่มที่เติบโตเป็นวัฏจักร (Cyclical)
  • ปัจจัยที่ดันตลาดจีนขึ้นมารอบนี้ส่วนหนึ่งมาจากผลตอบแทนพันธบัตรจีนที่สูงขึ้น คุ้มค่ามากกว่าพันธบัตรสหรัฐฯ มาก (ดอกเบี้ยฝั่งสหรัฐฯ แทบจะแตะศูนย์แล้ว) ทำให้เงินลงทุนต่างชาติไหลเข้ามาในจีน และไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นด้วยบางส่วน
  • อีกปัจจัยหนึ่งคือปริมาณเงินกู้มาลงทุน (China Margin Trading Debt) สูงขึ้นอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี ซึ่งสังเกตว่า CSI300 มี Correlation ที่สอดคล้องกับตัวเลขนี้มาก หมายความว่านักลงทุนราย่อยของจีนนี่แหละที่มีส่วนดันตลาดจีนขึ้นไปในรอบนี้ อย่างไรก็ตามตัวเลขนี้ยังถือว่าต่ำกว่าจุดสูงสุดในปี 2015 อีกเยอะ สะท้อนว่าโอกาส Upside ในตลาดจีนยังมีอีกมาก

กองทุนน่าลงทุนในตอนนี้

กองทุนแนะนำในสัปดาห์นี้เป็นไปตามมุมมองจากทีม Investment ของ FINNOMENA ตามบทความนี้ครับ Tactical Call : ตลาดหุ้นจีนถูกจุดพลุ จังหวะ Follow Buy ระยะสั้นเกิดขึ้น ประกอบด้วยกองทุนที่ลงทุนในหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่หรือ A-Share ทั้งหมด 2 กองด้วยกัน คือ TMB-ES-CHINA-A และ TMBCHEQ และนี่คือสัดส่วนไส้ข้างในของกองทุนทั้ง 2 กอง

นักลงทุนโปรดอ่านข้อความด้านล่างอย่างละเอียดก่อนลงทุน

เราแนะนำเข้าลงทุนเก็งกำไร เน้นรอบระยะสั้นไม่เกิน 3 เดือน ในกองทุน TMB-ES-CHINA-A และ TMBCHEQ ซึ่งมีการลงทุนหลัก ๆ ในตลาดหุ้นจีน A-Share

เป็นที่ทราบกันว่า หากจบรอบของตลาดหุ้นขาขึ้นของจีน การปรับฐานที่เกิดขึ้นในอดีตค่อนข้างรุนแรงและรวดเร็วมากกว่าดัชนีตลาดหุ้นภูมิภาคอื่น ๆ ดังนั้นนักลงทุนที่เหมาะกับ Tactical Call นี้ควร…

  1. เป็นนักลงทุนที่มีเงินสด หรือสภาพคล่องส่วนเกิน และรับความผันผวนได้สูง
  2. ใช้เงินลงทุนในสัดส่วนไม่เกิน 10-15% ของภาพรวมพอร์ตการลงทุนทั้งหมด
  3. นักลงทุนที่รับความผันผวนได้ คาดหวังผลกำไร 10%-12%
  4. นักลงทุนต้องยอมรับการ Limit Loss หรือ การตัดขาดทุนได้ทันที ในกรณีที่ NAV ลงมา ณ จุด Stop Loss > 7% จากต้นทุน
  5. จุดที่เราแนะนำให้พิจารณาชะลอการเข้าซื้อภายใต้ Tactical Call คือ ดัชนี CSI300 ยืนเหนือระดับ 4,900 จุด เนื่องจากอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk/Reward Ratio) จะสูงกว่า 50% หรือ 0.5

สำหรับสรุป LIVE ก็จบเพียงเท่านี้ครับ นักลงทุนสามารถดู LIVE เต็มๆ ได้ที่ลิงก์วิดิโอบนหัวบทความได้เลยครับ ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการลงทุนครับ

เขียนโดย TUM SUPHAKORN


แน่ใจได้อย่างไรว่ากองทุนที่ธนาคารของคุณแนะนำเป็นกองทุนที่ดีที่สุด? คุณอาจพลาดกองทุนที่ดีกว่าจากธนาคารอื่น ๆ ได้

เราขอแนะนำ FINNOMENA แพลตฟอร์มที่จะช่วยคัดเลือกกองทุน เปิดบัญชีครั้งเดียวซื้อกองทุนที่ดีที่สุดได้จากทุกธนาคาร

เปิดบัญชีลงทุนออนไลน์ ซื้อกองทุนได้เร็วสุดภายในวันทำการถัดมา ลองเลย! https://finno.me/oa1326

TSF2024