Our Key Takeaways
- อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงตัวอยู่ในระดับสูงทำให้เฟดยังคงเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อไป แต่เรามีมุมมองว่าเฟดอยู่ในช่วงท้ายของการ hawkish แล้ว ขณะที่ตลาดก็รับข่าวการขึ้นดอกเบี้ยไปเยอะมากแล้วเช่นกัน
- เศรษฐกิจทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตชะลอตัวลง โดยเฉพาะในยุโรป และ Emerging Market จากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางเนื่องจากอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง
- ต้องจับตาผลการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์สมัยที่ 20 ของจีนในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ เนื่องจากจะเป็นตัวตัดสินทิศทางการดำเนินนโยบายของจีนไปอีก 5 ปีข้างหน้า
- แนะนำกระจายการลงทุนโดยเน้นไปยังกลุ่มที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง การเติบโตดี และมูลค่าไม่แพง เช่น สหรัฐฯ และเวียดนาม
What to Watch ประเด็นที่ต้องจับตาต่อเนื่องในไตรมาส 4
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของสหรัฐฯยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงต่อไป โดยยังคงถูกกดดันจากราคาทมี่อยู่อาศัย และค่าดูแลรักษาพยาบาลที่ยังเร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟดยังคงมีแนวโน้มเร่งขึ้นดอกเบี้ยต่อไปในไตรมาส 4/22 โดยตลาดคาดว่าในการประชุมเดือนพฤศจิกายน เฟดมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ย 0.75% และในเดือนธันวาคมมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ย 0.50% อย่างไรก็ตามด้วยแนวโน้มของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ปรับตัวลงต่อเนื่อง ทำให้เรามีมุมมองว่าเฟดอยู่ในช่วงท้ายๆของการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว และมีโอกาสส่งสัญญาณ Hawkish น้อยลงได้เช่นกันเมื่ออัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเริ่มปรับตัวลง และอัตราการว่างงานเริ่มเพิ่มสูงขึ้น
โดยเฟดส่งสัญญาณใน dot plot ล่าสุดว่าอัตราดอกเบี้ย Terminal Rate อยู่ที่ 4.6% ในปี 2023 ก่อนที่จะค่อยลดดอกเบี้ยในปี 2024 ขณะเดียวกันนักลงทุนในตลาดกลับคาดว่าเศรษฐกิจจะถดถอยเนื่องจากขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงเกินไป และทำให้เฟดต้องกลับทิศเป็นลดดอกเบี้ยลงในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2023 อย่างไรก็ตามด้วยตัวเลขเศรษฐกิจ และภาคแรงงานที่แข็งแกร่งทำให้เรามีมุมมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯอาจเข้าสู่ mild recession มากกว่า ขณะที่ตลาดหุ้นก็ปรับตัวลงรับข่าวไปเยอะแล้วทำให้ downside มีค่อนข้างจำกัด
ตลาดหุ้นยุโรปยังคงถูกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 4/22 จากเรื่องของราคาพลังงานที่เป็นผลพวงจากสงครามรัสเซียและยูเครน และกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวที่จะมีความต้องการใช้พลังงานมากขึ้น ซึ่งจะเป็นแรงกดดันให้ ECB ต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยต่อไป ขณะที่ปริมาณการสำรองก๊าซธรรมชาติสามารถเก็บได้เกิน 80% แล้ว แต่เนื่องด้วยการปิดท่อส่งจากทางรัสเซีย ทำให้ยุโรปไม่สามารถจัดหาก๊าซธรรมชาติเพิ่มเติมได้อีกหลังจากนี้ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดวิกฤติพลังงาน และจำเป็นต้องมีมาตรการลดการใช้พลังงาน เช่น ปิดไฟตามสถานที่ต่างๆ รวมถึงปิดโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อจัดสรรไฟให้กับครัวเรือนก่อน ซึ่งจะส่งผลเสียต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ
ขณะที่อีกเหตุการณ์สำคัญของตลาดการลงทุนโลกในไตรมาส 4/22 คือ การประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 ที่จะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ โดยหัวข้อหลักคือ 1. ทบทวนผลงานของพรรคในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา 2. วิเคราะห์สถานะการภายในและภายนอกประเทศ 3. สัญญาณการเปลี่ยนทีมผู้บริหารระดับสูงของจีน 4. ทิศทางของนโยบาย Covid-Zero และ Common Prosperity และ 5. การดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 3 ของ สี จิ้นผิง
โดยเป็นที่แน่นอนแล้วว่า ปธน. สี จิ้นผิง จะกลับมาดำรงตำแหน่งอีก 1 สมัย แต่สิ่งที่ต้องจับตามองคือทีมผู้บริหารชุดใหม่ที่จะเป็นรากฐานของนโยบายของจีนรวมถึงทายาทตำแหน่งของ สี จิ้นผิง อีกเช่นกัน ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดทิศทางนโยบายของจีนว่าจะกลับไปเน้นการเติบโต หรือจะยังคงใช้นโยบายความมั่นคั่งร่วมกันอยู่ นอกจากนี้อีกไฮไลท์สำคัญคือ สี จิ้นผิง จะยังคงใช้นโยบาย Covid-Zero ต่อไปหรือไม่ หรือว่าจะเปลี่ยนมาใช้นโยบายอยู่ร่วมกับโควิดเหมือนที่อื่นๆทั่วโลก
REITs ยังคงถูกกดดันจากการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก ส่งผลให้ส่วนต่างระหว่างเงินปันผลและอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลแคบลง ซึ่งทำให้ REITs มีความน่าสนใจลดลง อย่างไรก็ตามปัจจัยหนุนของ REITs มาจากการเปิดประเทศโดยเฉพาะในเอเชีย และการปรับขึ้นค่าเช่าตามอัตราเงินเฟ้อได้ ซึ่งจะทำให้อัตราเงินปันผลมีแนวโน้มสูงขึ้นในอนาคต นอกจากนี้เอง REITs ยังถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ defensive สำหรับการลงทุนในภาวะที่ตลาดผันผวน
ภาพแสดงสัดส่วนการลงทุนพอร์ต Quality Mega Theme ที่มา: บลจ. ทหารไทย วันที่: 17 ตุลาคม 2022
บลจ. ทหารไทย
สำหรับลูกค้าที่ลงทุนใน Quality Mega Theme สามารถดูพอร์ตการลงทุนได้ตามช่องทางนี้
ผ่านมือถือ/Tablet >> แอปฯ FINNOMENA
ผ่านคอมพิวเตอร์ >> เว็บไซต์ FINNOMENA
สำหรับลูกค้าที่สนใจลงทุนใน Quality Mega Theme คลิกที่นี่เพื่อสร้างแผนการลงทุน
โปรดทราบ สำหรับลูกค้าฟินโนมีนาที่ลงทุนใน FINNOMENA PORT และได้รับบทความนี้ แต่ยังไม่ได้รับอีเมลและ/หรือ Notification ในการแจ้งสัดส่วนเงินในการเข้าลงทุน อาจเกิดจาก
1) ท่านอยู่ระหว่างการทำรายการซื้อขายกองทุน ซึ่งทางฟินโนมีนาจะแจ้งเตือนอีกครั้งภายใน 1 สัปดาห์หลังจากการทำรายการซื้อขายเสร็จสิ้น 2) ท่านมีจำนวนเงินลงทุนต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่แนะนำ หมายเหตุ หากท่านไม่ประสงค์ที่จะรอรับการแจ้งเตือน ท่านสามารถดูรายละเอียดของพอร์ตการลงทุนที่แนะนำผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นของฟินโนมีนาพร้อมปรับพอร์ตเข้าลงทุนได้ทันที สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE ID: @FINNOMENAPORT |
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนการลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด หรือ บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299