Omakase – 18 July 2024
ที่มา: บลจ. ทิสโก้ วันที่ 18 กรกฎาคม 2024
Outlook
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ – ตลาดให้น้ำหนักราว 90% ว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือนก.ย. 2024 เนื่องจากอัดราเงินเฟ้อ (CPI) สหรัฐฯ และตัวเลขตลาดแรงงานในเดือนมิ.ย. เริ่มชะลอลง ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เกิดทิศทางการเปลี่ยนกลุ่มลงทุนในระยะสั้น โดยเริ่มกระจายออกไปนอกจากเหนือจากหุ้นกลุ่มเทคฯ มาในหุ้นกลุ่มขนาดกลางถึงเล็ก และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง อาทิ REITs, Utlities, และ Healthcare อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่ม Tech จะเริ่มทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาสถัดไปในช่วงปลายเดือนนี้ โดยนักลงทุนยังคงคาดหวังการเติบโตของบริษัทที่มีการพัฒนาด้าน AI อย่างต่อเนื่อง
- เศรษฐกิจจีน – ตัวเลข GDP Q2/2024 ของจีน ขยายตัวต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งสะท้อนถึงการบริโภคในประเทศที่ยังคงอ่อนแอโดยผู้บริโภคยังมีแนวโน้มระมัดระวังการใช้จ่าย ขณะที่ยอดขายบ้านในจีนก็ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ อย่างไรก็ดี อดสาหกรรมยานยนต์ยังสามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากรายงานยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของหลายบริษัทผู้ผลิตรถ EV ของจีนในเดือนมิ.ย. 2024 ปรับตัวเพิ่มขึ้น สะท้อนความต้องการที่เพิ่มขึ้นและศักยภาพในการขยายตัวของอดสาหกรรม ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายส่งเสริมและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
- เศรษฐกิจไทย – รายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทยในเดือน พ.ค. ยังขยายตัวต่อเนื่อง น่าโดยภาคบริการจากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น และภาคการท่องเที่ยวจากรายได้ของนักท่องเที่ยวที่มีพัฒนาการเชิงบวกต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกกับภาวะเศรษฐกิจไทยและการฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี รับปัจจัยบวกหนุนจากการเบิกจ่ายจากทางภาครัฐที่กำลังเร่งขึ้น แต่ระยะสั้น-กลาง ดลาดยังคงให้น้ำหนักปักปัจจัยลบจากการเมืองในประเทศ ซึ่งต้องรอความชัดเจนโดยเฉพาะคดีนายกฯเศรษฐาจะขาดคุgณสมบัติหรือไม่ เพราะหากค่าตัดสินขาดคุณสมบัติ อาจนำไปสู่การเปลี่ยนนายกฯ และ คณะรัฐมนตรีทั้งคณะ ซึ่งอาจกระทบการเบิกจ่ายงบฯปี FY 2024
Strategy
- ตลาดหุ้นโลกโดยรวมยังอยู่ในภาวะขาขึ้น แม้จะเผชิญแรงขายทำกำไรหลังจากหุ้นกลุ่มเทคฯ และ กลุ่ม AI ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ภาพใหญ่วัฏจักรดอกเบี้ยเริ่มเข้าสู่ขาลง ขณะที่นักวิเคราะห์ยังคงปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนในหลายประเทศโดยเฉพาะกลุ่ม Emerging Market
- เรายังประเมินว่า การคงสัดส่วนการถือกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลงในกลุ่มตราสารหนี้ทั่วโลก และ Global REIT นอกจากนี้ ยังเน้นกระจายความเสี่ยงไปในหุ้นกลุ่ม Quality และหุ้นกลุ่มขนาดกลาง -ใหญ่ อาทิ Cloud และ Biotechnology ในขณะที่ในช่วงปลายก.ค. ปัจจัยที่ต้องจับตาคือ ผลดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่
Portfolio Action
- ปรับลดน้ำหนัก TISCO China H-Shares Fund TISCOCH ไปยัง TISCO Emerging Market ex China Fund TEMXCH โดยเรามองว่า คะแนนนิยมของ Trump ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสสูงที่จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพ.ย.2024 นี้ ซึ่งชัยชนะของนาย Trump จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าของสหรัฐฯ และสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยจีนอาจเผชิญกับความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้า และ เรามีมุมมองที่ดีต่อกลุ่ม Emerging โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก semiconductor , การบริโภคในประเทศ เช่น อินเดีย, ไต้หวัน และ เกาหลีใต้
- ดู Fund Fact Sheet กองทุนที่เพิ่มน้ำหนัก/ปรับเข้า : TEMXCH
Performance Review
ผลตอบแทนพอร์ดกองทุนนับจากวันที่ 17 มิ.ย. จนถึง 17 ก.ค. 2024 ปรับเพิ่มขึ้น +2.42% และ นับจากต้นปื +4.57%
ㆍ Contributor:
- ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา TISCO BIOTECH Healthcare Fund TBIOTECH เป็นกองทุนที่หนุนพอร์ดกองทุนมากที่สุด โดยอันดับที่ 2 คือ กองทุนหุ้นคุณภาพทั่วโลก TGQUALITY-A (TISCO Global Quality) และ อันดับที่ 3 คือ กองทุนตราสารหนี้โลก TGBOND-A (TISCO Global Bond)
ㆍDetractor:
- สำหรับช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา กองทุน TISCO Vietnam TVIETNAM ปรับลงมากที่สุด โดยตลาดหุ้นเวียดนามเผชิญกับแรงเทขายเล็กน้อย ประกอบกับแรงกกดดันจากข่าวความล่าช้าในการขึ้นระบบ KRX System ซึ่งอาจส่งผลต่อการพิจารณาอัพเกรดตลาดหุ้นเวียดนามให้เป็นตลาดหุ้นเกิดใหม่ของ FTSE โดยเรามองว่าปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจ และ ผลดำเนินงาน จะยังมีแนวโน้มการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
บลจ. ทิสโก้
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด หรือ บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299