ที่มา: บลจ. ทิสโก้ วันที่: 18 มกราคม 2024
Outlook
- มุมมองสำหรับปี 2024 เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเติบโตในอัตราที่ชะลอลงหรือ Soft Landing และมีโอกาสที่ Fed จะลดดอกเบี้ย เนื่องจากเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่ชะลอลง และควบคุมได้
- ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เรามองว่าหุ้นในบางกลุ่มจะยังคงเติบโตได้ดี โดยในปีนี้จะมีเหตุการณ์สำคัญคือการเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ โดยในอดีตที่ผ่านมาการเลือกตั้งมักจะสร้าง sentiment เชิงบวกให้ก้บตลาดหุ้นสหรัฐฯ – ในอดีตนับตั้งแต่ปี 1932 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปรับเพิ่มขึ้น 18 ใน 22 ครั้งก่อนการเลือกตั้ง 1 ปี โดยเรามองว่าหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ Generative AI จะถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการหาเสียงและอาจจะทำให้หุ้นเหล่านี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีอีกด้วย
- ส่วนเศรษฐกิจจีน คาดว่าจะยังคงเผชิญกับความท้าทาย แม้ว่า ตัวเลข GDP Q4/2023 เติบโตได้ดีขึ้น แต่ภาคอสังหาฯ ยังคงฟื้นตัวเปราะบาง หลังจากนี้ยังคงต้องจับตาผลของมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ
- สำหรับ ตลาดหุ้นไทยเริ่มมีหลายปัจจัยหนุน จากทั้งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อาทิ มาตรการ Easy e-Receipt และการเข้าสู่ช่วงเทศกาลตรุษจีน ในเดือน ก.พ. โดยคาดว่าจะเห็นการเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น อีกทั้งปัจจัยหนุนด้านฤดูกาลจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาสแรกของปี 2024
Strategy
- เรามองว่าแนวโน้มวัฏจักรอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นทั่วโลกใกล้ผ่านจุดสูงสุด หรือผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ดังนั้นจึงเป็นจังหวะที่ดี สำหรับการลงทุนในตราสารหนี้โดยกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลก และเน้นลงทุนในหุ้นกู้คุณภาพดี เช่น TISCO Global Bond เพื่อเพิ่มทางเลือกในการบริหารความเสี่ยง และ ผลตอบแทนของพอร์ตมากขึ้น
- ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลกที่อาจเติบโตลดลง จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นจึงควรระมัดระวังในการลงทุน และเลือกลงทุนในประเทศที่ยังมีเศรษฐกิจขยายตัวดี อย่าง เวียดนาม (TISCO Vietnam Equity)
Portfolio Action
- ปรับลดน้ำหนัก TISCO US Treasury ไปยัง TISCO Global Bond เนื่องจากเรามีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นกับตราสารหนี้ทั่วโลก โดยเฉพาะการเพิ่มน้ำหนักลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีในภาคเอกชน ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มให้กับสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ได้ เมื่อเทียบกับการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
- ปรับลดน้ำหนักลงทุนใน TISCO China Consumer เนื่องจากระยะสั้นอาจมีแรงกดดันมากขึ้นจากการแข่งขันราคาของหุ้นในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า แต่เรายังคงมีน้ำหนักลงทุนเนื่องจากมองว่า valuation หลายบริษัทยังอยู่ในระดับต่ำ
- และได้มีการปรับเพิ่มน้ำหนักไปยัง TISCO Vietnam Equity เนื่องจากเรายังคงมีมุมมองบวกต่อประเทศเวียดนาม จากการที่เป็นประเทศที่มีการขยายฐานการผลิตมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะถูกปรับเข้าสู่ดัชนี MSCI Emerging Market จาก Frontier Market ในปี2025 ซึ่งหนุนโอกาสได้รับผลตอบแทนมากขึ้นรวมถึงสภาพคล่องในตลาดที่ดูดีขึ้น
ดู Fund Fact Sheet กองทุนที่เพิ่มน้ำหนัก/ปรับเข้า
Performance Review
ผลตอบแทนพอร์ตกองทุนนับจากวันที่ 18 ธ.ค. 2023 จนถึง 17 ม.ค. 2024 ปรับเพิ่มขึ้น +0.39 %
ㆍDetractor:
- สำหรับช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา กองทุน TISCO China Consumer ยังคงเป็นกองทุนที่ปรับตัวลดลงมากที่สุด โดยปรับลดลงจากหุ้นในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าหลังจากนักวิเคราะห์ออกมาเปิดเผย ข้อมูลยอดขายรถยนต์ EV ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม 2024 ลดน้อยลงถึง 20% และ การแข่งขัน (Price War) ในกลุ่มธุรกิจยานยนต์
ㆍ Contributor:
- ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา TISCO Global Income Plus เป็นกองทุนที่หนุนพอร์ตกองทุนมากที่สุด โดยอันดับที่ 2 คือ กองทุนเวียดนาม (TISCO VIETNAM Equity ) และ อันดับที่ 3 คือ กองทุนไบโอเทคโนโลยี เฮลธ์แคร์ (TISCO Biotechnology Healthcare)
บลจ. ทิสโก้
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด หรือ บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299