CEOs และ Manager ที่แสนฉลาด ได้รับการศึกษามาอย่างดีนั้น บางครั้งกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของบริษัทซะเอง ไม่ว่าจะเป็น Steve Jobs, Mark Zuckerberg หรือ Jeff Bezos มันยากที่จะแบ่งแยกระหว่างตัวของพวกเขากับบริษัท
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในบริษัทใดบริษัทหนึ่งโดยดูเพียงแค่ leadership อาจจะไม่ใช่กลยุทธ์ที่ดีที่สุด เหมือนอย่างที่ Buffet ให้สัมภาษณ์ในการประชุม FCIC เมื่อปี 2010 ว่าเราควรลงทุนในบริษัทที่คนไม่ค่อยฉลาดคนไหนก็บริหารได้
เมื่อถูกทาง FCIC ถามถึงว่าอะไรเป็นแรงจูงใจให้เข้ามาบริหารจัดการ Moody’s บริษัทจัดอันดับเรทติ้งที่เคยเป็นศูนย์กลางการจัดอันดับ mortgage-backed securities ที่เป็นต้นเหตุหายนะของวิกฤติเศรษฐกิจ เมื่อเขาเริ่มลงทุนในบริษัทนี้ เขาตอบว่า “ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการบริหารจัดการ Moody’s เลย ผมได้พูดไปหลายครั้งในรายงานและที่อื่นๆว่าเมื่อบริษัทที่มีการบริหารจัดการที่ดีประสบปัญหาเกี่ยวกับชื่อเสียงเนื่องจากเศรษฐกิจย่ำแย่ แต่จริงๆแล้วชื่อเสียงของธุรกิจไม่ได้รับความเสียหายไปด้วย
ถ้าคุณมีธุรกิจที่ดีมากพอจริงๆ ถ้าคุณเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์แบบผูกขาด ถ้าคุณมีสถานีโทรทัศน์เป็นของตัวเอง เอ่อ นี่ผมกำลังพูดถึงอดีตอยู่น่ะ คุณก็รู้ ธุรกิจแบบนี้หลานที่ไม่ค่อยฉลาดของคุณก็บริหารได้ แล้วถ้าคุณมีธุรกิจที่ดีจริงๆอยู่แล้วนะ มันไม่ได้ต่างกันหรอก
โอเคแหละ มันอาจจะมีความต่างบ้างในแง่ของการบริหารจัดการ แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ Buffet คิดอยู่ตรงนี้
เหมือนกับตอนที่เขาให้สัมภาษณ์ว่าถ้าเป็นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ใครก็ตามที่เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์รายเดียวในเมือง คนๆนั้นก็จะเป็นผู้มีอำนาจในการกำหนดราคา และนั่นคือธุรกิจที่ดี
Buffet ชี้ให้เห็นบางอย่างไม่มากก็น้อยในกรณีของ Moody’s มีธุรกิจไม่มากนักที่มีความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจจัดอันดับเครดิตแบบ Moody’s และ Standard and Poor
เขาไปไกลจนแทบจะเรียกว่า สองบริษัทนี้เป็น Duopoly โดยธรรมชาติเลยด้วยซ้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสองบริษัทนี้กลายเป็นตัววัดมาตรฐานไปแล้ว
มาถึงตรงนี้คุณเห็นแล้วใช่มั้ยว่า “ธุรกิจที่ดี” เป็นยังไงในสายตาของ Buffet ในแง่ที่ว่า ไม่ว่าจะเป็นใครมาบริหารก็ตาม
และเมื่อถามว่าสนใจจะมาเป็นกรรมการบริหารไหม เขาตอบในทันทีว่า “ถ้าผมคิดว่าพวกเขาต้องการผม ผมจะไม่ซื้อหุ้นบริษัทนั้นหรอก”