ปี 2021 หนึ่งในปีที่ดีที่สุดของบริษัทอเมริกัน หลังทำกำไรมากสุดนับตั้งแต่ 1950
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานผลกำไรบริษัทสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 35% ในปี 2021 โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ภาคครัวเรือนที่แข็งแกร่งจากเงินอุดหนุนของรัฐบาลในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19
โดยอัตราการทำกำไร (Profit Margin) ในทุกไตรมาสของปีที่แล้วอยู่เหนือ 13% ซึ่งเป็นระดับที่ไม่ได้เห็นมาตั้งแต่ช่วง 70 ปีที่ผ่านมา
นอกจากจะเป็นปีที่มั่งคั่งสำหรับผู้ถือหุ้น 2021 ยังเป็นปีที่มั่นคงสำหรับภาคแรงงานด้วยเช่นกัน เพราะค่าตอบแทนพนักงานเพิ่มขึ้นถึง 11%
อย่างไรก็ตาม ส่วนแบ่งของรายได้ที่ตกมาสู่ภาคแรงงานได้ลดลงสู่ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดแล้ว ซึ่งนี่ไปโต้แย้งประเด็นที่อ้างว่าเงินเฟ้อได้รับแรงกดดันจากค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นได้
ขณะที่ อัตราการทำกำไรรวม ณ สิ้นปี ของธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงินลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 13.9% จาก 15% ในไตรมาสที่ 2
ตัวเลขกำไรในระดับสูงทำให้เกิดข้อสังเกตว่า นี่เป็นการฉวยโอกาสขึ้นราคาและมีส่วนทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น โดยประเด็นนี้ได้รับแรงหนุนจากฝ่ายบริหารของโจ ไบเดน เมื่อปีที่แล้ว
ตอนนี้นักลงทุนมองเห็นโอกาสที่สดใสในตลาดหุ้นรออยู่ข้างหน้าจากแนวโน้มกำไรในปี 2022 แม้ดัชนี S&P 500 จะเริ่มต้นปีมาอย่างสะดุดเล็กน้อย จนติดลบ 4% ตั้งแต่ต้นปี
“ปี 2022 จะมีการเปลี่ยนผ่านจากกำไรที่สนับสนุนจากภาครัฐ มาสู่กำไรที่มาจากภาคเอกชนแทน” Robert King จาก Jerome Levy Forecasting Center กล่าว
Robert King เสริมว่า แรงงานก็จะได้รับประโยชน์เช่นกัน เพราะผลกำไรที่แข็งแกร่งจะทำให้บริษัทจ้างงานมากขึ้น โดยเฉพาะในเวลาที่อุปทานแรงงานกำลังขาดแคลนจะยิ่งเพิ่มโอกาสที่ค่าแรงจะพุ่งขึ้นอย่างมาก
ความเสี่ยงที่จะส่งผลต่อแนวโน้มที่สดใสในปี 2022 คือ การขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกของ Fed และการรุกรานยูเครนของรัสเซีย
ช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา (16 มี.ค.) เจอโรม พาวเวลล์กล่าวหลังประกาศขึ้นดอกเบี้ยว่า อุปสงค์และอุปทานในตอนนี้ไม่สอดคล้องกันโดยเฉพาะในตลาดแรงงาน นั่นทำให้ค่าจ้างเพิ่มขึ้นแบบไม่สอดคล้องกับเงินเฟ้อ ดังนั้น Fed จำเป็นต้องใช้เครื่องมือทางการเงิน เพื่อฉุดเงินเฟ้อให้กลับมาอยู่ในระดับเป้าหมาย
อย่างไรก็ตาม George Pearkes จาก Bespoke Investment Group มองว่า ค่าจ้างไม่ใช่คือสิ่งที่ผลักดันให้เงินเฟ้อสูงขึ้น เพราะผลกำไรนั้นพุ่งขึ้นแซงหน้าการเพิ่มขึ้นของค่าจ้าง ขณะที่ส่วนแบ่งของรายได้ที่ตกมาสู่ภาคแรงงานกลับไม่ได้เพิ่มขึ้นตาม
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel