เศรษฐีจีนแห่ย้ายเงินไปสิงคโปร์ ประเทศที่ผู้คนพูดภาษาจีนกลางได้ และไม่เก็บภาษีความมั่งคั่งในอัตราที่สูงเหมือนหลายประเทศ
กระแสย้ายเงินทุนกลับมาอีกครั้งในปีที่แล้ว หลังรัฐบาลจีนคุมเข้มด้านกฎระเบียบ พร้อมเน้นย้ำแนวคิด “รุ่งเรืองร่วมกัน” โดยมีเป้าหมายจัดสรรปันส่วนความมั่งคั่งระดับปานกลางให้แก่ทุกคน ไม่ใช่ไปกระจุกอยู่แค่คนบางกลุ่ม
จุดเริ่มต้นที่ทำให้เหล่าเศรษฐีจีนมองหาแหล่งเก็บความมั่งคั่งใหม่นั้นเริ่มตั้งแต่ปี 2019 ที่การประท้วงในฮ่องกงรุนแรงจนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของฮ่องกง
สิงคโปร์มีบริษัทที่ให้บริการแก่เหล่าเศรษฐีจีนในการย้ายทรัพย์สินด้วยวิธีการจัดตั้งสำนักงานธุรกิจครอบครัว ซึ่งส่วนใหญ่มักจะต้องมีทรัพย์สินอย่างน้อย 5 ล้านดอลลาร์ในการจัดตั้ง
Jenga บริษัทบัญชีและบริการองค์กรที่ก่อตั้งโดย Iris Xu มาเป็นเวลา 5 ปี ระบุว่า คำร้องขอจัดตั้งสำนักงานธุรกิจครอบครัวเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่เป็นคนที่อยู่ในเมืองจีน หรือไม่ก็คนที่อพยพมาจากจีน
ข้อมูลจาก Forbes รายงานว่า เศรษฐกิจจีนเติบโตอย่างรวดเร็วจนเกิดเศรษฐีพันล้านหน้าใหม่หลายร้อยคนในเวลาเพียงไม่กี่ทศวรรษ
แต่นี่ไม่ได้แปลว่าเศรษฐีจีนมองว่าจีนไม่มีโอกาสแล้ว
Iris Xu กล่าวว่า ลูกค้าชาวจีนเชื่อว่ามีโอกาสมากมายที่จะสร้างความมั่งคั่งในจีน เพียงแต่พวกเขาไม่มั่นใจว่าจะปลอดภัยหากเก็บเงินไว้ที่จีน
มหาเศรษฐีหลายคนทั่วโลกเลือกการจัดตั้งสำนักงานธุรกิจครอบครัวในการบริหารความมั่งคั่ง นอกจากนี้ทำเลของสิงคโปร์ยังน่าสนใจเพราะใกล้ชิดกับโอกาสการลงทุนอื่นๆ ในเอเชีย
ตามรายงานของ Bloomberg ช่วงปลายปี 2020 Ray Dalio ผู้ก่อตั้ง Bridgewater และ Sergey Brin ผู้ร่วมก่อตั้ง Google ได้เปิดสำนักงานธุรกิจครอบครัวในสิงคโปร์เพื่อใช้ประโยชน์จากนโยบายภาษีที่เป็นมิตร
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนที่แล้ว Lawrence Wong รมว.คลังของสิงคโปร์ระบุว่า รัฐบาลสิงคโปร์กำลังพิจารณาเกี่ยวกับภาษีความมั่งคั่ง ซึ่งรวมถึงกำไรจากการลงทุน เงินปันผล และความมั่งคั่งสุทธิ
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel