รัฐบาลจีนกำลังพิจารณาแผนขึ้นค่าไฟฟ้าสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อช่วยบรรเทาวิกฤติด้านพลังงานในประเทศ

ผู้เกี่ยวข้องกับแผนพลังงานจีนกล่าวว่า การขึ้นค่าไฟฟ้าสำหรับโรงงานอาจมาในรูปแบบอัตราคงที่ หรือ อัตราที่เชื่อมโยงกับราคาถ่านหิน

รัฐบาลจีนยังได้หารือเกี่ยวกับการขึ้นค่าไฟฟ้าในภาคครัวเรือน หากการขึ้นค่าไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมไม่เพียงพอที่จะแก้ไขวิกฤติได้ โดยแผนดังกล่าวยังคงมีการเปลี่ยนแปลงจนกว่าจะถึงขั้นตอนอนุมัติ

ประเทศจีนกำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนด้านพลังงาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจจีน รวมถึงห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก โดยราคาถ่านหินที่สูงเป็นประวัติการณ์ส่งผลให้ผู้ผลิตพลังงานมีต้นทุนสูงขึ้นมาก จนทำให้ผู้ผลิตบางส่วนไม่สามารถผลิตไฟฟ้าเพื่อตอบสนองความต้องการได้

เมื่อวานนี้ (29 ก.ย.) คณะกรรมการปฏิรูปและพัฒนาแห่งชาติจีน (NDRC) กล่าวว่าจะปล่อยให้ราคาพลังงานเคลื่อนไหวเสรีมากขึ้น เพื่อสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์ อุปทาน และต้นทุน อย่างสมเหตุสมผล

ปกติแล้ว ราคาไฟฟ้าในจีนต้องขายตามที่ทางการกำหนด และมีหลายจังหวัดที่ได้รับอนุญาตให้สามารถขึ้นราคาได้สูงสุด 10% อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่า NDRC ต้องการอ้างอิงจากอัตราใด โดยมีหลายจังหวัดที่ปรับราคาเพิ่มสูงสุด 10% แล้ว ดังนั้น การขึ้นราคาไฟฟ้าต้องมากกว่า 10% ถึงจะมีผล

หน่วยงานวางแผนเศรษฐกิจของรัฐจีน กล่าวว่า ทางการจีนมีแผน 1) เพิ่มการนำเข้าถ่านหินในระดับ ‘ปานกลาง’  2) ต้องการให้โรงงานไฟฟ้าเพิ่มปริมาณสำรองก่อนช่วงฤดูหนาว 3) ผลักดันให้อุตสาหกรรมที่ใช้ถ่านหินรายใหญ่ประหยัดและควบคุมการใช้เชื้อเพลิง และ 4) ให้คำมั่นว่าจะหลีกเลี่ยงการตัดไฟฟ้าอย่างกะทันหันในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

รัฐบาลจีนคาดว่าราคาไฟฟ้าที่สูงขึ้นจะผลักดันให้ผู้ผลิตพลังงานมีแรงจูงใจในการผลิตไฟฟ้า ในขณะที่ผู้บริโภคจะพยายามลดการใช้ไฟฟ้าลง

เมื่อวานนี้ (29 ก.ย.)  ราคาหุ้นผู้ผลิตไฟฟ้าจีนปรับเพิ่มขึ้น หลังปรับตัวลงก่อนหน้านี้ โดย Huadian Power International เพิ่มขึ้น 5% และ Datang International Power Generation เพิ่มขึ้น 3.5%

อ้างอิง: https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-09-29/china-mulls-hiking-industrial-power-prices-to-ease-supply-crunch?sref=e4t2werz 

——————-