หลังจำนวนผู้ติดโควิด-19 รายใหม่ในสหรัฐลดลงอย่างรวดเร็วในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แต่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่กลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในพื้นที่ที่มีจำนวนผู้ได้รับวัคซีนไม่มากนักในสหรัฐ ตัวแปรสำคัญคือไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่า ในไม่ช้านี้มันจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักที่มีการแพร่ระบาดในสหรัฐ

ในยุโรป จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 กำลังเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังลดลงมาเป็นเวลาราวๆ 2 เดือนครึ่ง ส่วนใหญ่สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลต้าในสหราชอาณาจักรและรัสเซีย

ในออสเตรเลีย ทางการพิจารณาสั่งล็อคดาวน์ 4 พิกัดใหญ่ หลังพบการระบาดของโควิดกลายพันธุ์เดลตา้ที่พุ่งสูงในพื้นที่ ได้แก่เมืองบริสเบน ล็อคดาวน์ 3 วัน เริ่มต้นในวันอังคาร เมืองเพิร์ท ประกาศล็อคดาวน์ 4 วัน ส่วนเมืองดาร์วิน และนครซิดนีย์ ขยายเวลาการล็อคดาวน์ รับมือกับโควิดสายพันธุ์เดลต้าที่ระบาดหนัก

ด้านวัคซีนโควิด-19 อย่าง “โมเดอร์นา” เปิดเผยผลการทดสอบประสิทธิภาพวัคซีนในการป้องกันไวรัสกลายพันธุ์ พบว่าสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพื่อต้านทาน COVID-19 สายพันธุ์เดลต้าได้ดี จากการวิจัยเบื้องต้นในห้องทดลอง

การทดสอบครั้งนี้ใช้ตัวอย่างเลือดจากผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 มาแล้ว 1 สัปดาห์ จำนวน 8 คน ซึ่งพบว่าวัคซีนกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายเพื่อต่อต้านไวรัสได้ดีทุกสายพันธุ์ แต่จะป้องกันสายพันธุ์เบต้าที่พบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ได้ไม่ดี เท่ากับสายพันธุ์เดลต้าและแคปปาที่พบในอินเดีย

ที่มา: Thai PBS, Matichon, MGR Online