นโยบายโควิดเป็นศูนย์ของ ‘สี จิ้นผิง’ ได้ผล ปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิดแล้ว หลังต่อสู้อย่างดุเดือดเป็นเวลา 4 เดือน ด้วยการล็อกดาวน์ การตรวจหาอย่างเข้มข้น รวมถึงข้อห้ามต่างๆ ในชีวิตประจำวันที่ส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจ
เมื่อวานนี้ (27 มิ.ย.) เมืองหลวง ‘ปักกิ่ง’ และศูนย์กลางด้านการเงิน ‘เซี่ยงไฮ้’ รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่อยู่ที่ 0 ราย ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ. ที่จีนรายงานผู้ป่วย 22 รายทั่วประเทศ
ความสำเร็จใน 2 เมืองที่สำคัญที่สุด แสดงให้เห็นว่า จีนสามารถกำจัดโอมิครอนที่ทั้งแพร่กระจายและหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันจากวัคซีนได้แล้ว อย่างไรก็ตาม ชัยชนะมาพร้อมกับต้นทุนมหาศาล และก็ไม่ได้หมายความว่าการต่อสู้จบลงแล้ว เพราะการติดเชื้อใหม่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และอาจต้องกลับไปสู่วัฎจักรการล็อกดาวน์อย่างเข้มข้นอีกครั้ง
เพื่อแลกกับการไม่พบผู้ติดเชื้อใหม่ ก่อนหน้านี้ชาวเซี่ยงไฮ้มากกว่า 25 ล้านคนต้องล็อกดาวน์เป็นเวลา 2 เดือน โดยนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีนแสดงให้เห็นถึงความยากลำบากของเจ้าหน้าที่ และความเสี่ยงที่เศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกกำลังเผชิญอยู่
ตอนนี้ทางการจีนอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาลในการป้องกันเศรษฐกิจจากนโยบายควบคุมโควิด และยิ่งเป็นช่วงก่อนการประชุมคอมมิวนิสต์ในปลายปีนี้ ที่มีความเป็นไปได้ว่า สี จิ้นผิง จะดำรงตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่ 3 ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองจีน
ตอนนี้แนวทางการกำจัดโควิดในจีนเริ่มผ่อนคลายลง นักเรียนได้รับอนุญาตให้กลับไปเรียนที่โรงเรียนแล้ว แต่มีมาตรการ New Normal คือ ประชาชนจะต้องแสดงสถานะ “สีเขียว” บนแอปติดตาม และทำการตรวจโควิดทุกๆ 3 วัน เพื่อเข้าไปในสถานที่สาธารณะ ทั้งร้านอาหาร ร้านค้า และการคมนาคมขนส่ง แม้แต่เด็กที่อายุเกิน 3 ขวบ ก็ต้องตรวจโควิดเพื่อเล่นในสวนสาธารณะ
อย่างไรก็ตาม โควิดยังคงแพร่กระจายไปในพื้นที่อื่นของจีน ทั้งศูนย์กลางเทคโนโลยีเซินเจิ้นที่รายงานการติดเชื้อ 5 ราย ด้านฮ่องกงถูกล็อกดาวน์เป็นเวลา 3 วัน ขณะที่เมืองท่าทางเหนือในเทียนจินรายงานพบผู้ติดเชื้อ 4 ราย
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel