เมื่อวานนี้ (28 ม.ค.) หุ้น Tesla ร่วงแรงกว่า 11% มูลค่าตลาดหาย 109,000 ดอลลาร์ หลังบริษัทเผยว่าจะไม่ผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ออกมาในปี 2022 แม้ผลประกอบการไตรมาส 4 จะออกมาดีกว่าคาดก็ตาม
Elon Musk เผยว่า Tesla ยังคงเผชิญกับปัญหาขาดแคลนชิปอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าปัญหาดังกล่าวจะยังไม่หมดไปในปีนี้ ทำให้นักลงทุนเริ่มหมดหวังที่จะได้เห็น Tesla ส่งมอบรถกระบะไฟฟ้า Cybertruck ที่เปิดตัวในเดือน พ.ย. 2019 และ Semi รถบรรทุกไฟฟ้าที่เปิดตัวในเดือน พ.ย. 2017 ที่ผ่านมา
Tesla ระบุว่า บริษัทเตรียมมุ่งเน้นไปที่การปรับขนาดการผลิตทั้งในโรงงานใหม่และโรงงานเดิม รวมถึงหันไปปรับปรุงเทคโนโลยี Full Self-Driving ของ Tesla ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม
Elon Musk กล่าวว่า เทคโนโลยี Full Self-Driving ของ Tesla ควรจะถูกพัฒนาอย่างถึงที่สุด จนสามารถผลักดันยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอยู่จนสูงกว่าคาดการณ์ และจะไม่มีโมเดลใหม่ในราคาที่ต่ำกว่าออกมา
ตอนนี้ Full Self-Driving ของ Tesla ยังไม่ถือว่าเป็นระบบไร้คนขับตามมาตรฐาน SEA ระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับที่รถยนต์สามารถจัดการการขับขี่ได้ในทุกสภาวะโดยไม่มีการแทรกแซงของมนุษย์ ขณะที่ Tesla อยู่ที่เพียงระดับ 2
นอกจากนี้ Elon Musk กล่าวว่า การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดในปีนี้คือ Optimus หุ่นยนต์อัจฉริยะเสมือนมนุษย์เพื่อมาทำงานในโรงงานต่างๆ ของบริษัท ซึ่งเขามองว่าสิ่งนี้มีความสำคัญมากกว่าธุรกิจยานยนต์เมื่อเวลาผ่านไป
Elon Musk กล่าวว่า รากฐานของเศรษฐกิจคือแรงงาน นั่นจึงทำให้ Optimus สำคัญมาก ซึ่งก่อนหน้านี้ในเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว Elon Musk กล่าวว่า Optimus จะช่วยจัดการงานที่ซ้ำซาก น่าเบื่อ และอันตรายเกินไปสำหรับมนุษย์
แม้ว่าราคาหุ้น Tesla จะร่วงแรง แต่นักวิเคราะห์หลายคนยังคงเชื่อมั่นต่อ Tesla ในฐานะผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตและการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยทั้ง Goldman Sachs และ Deutsche Bank ตั้งราคาเป้าหมายของหุ้น Tesla ที่ $1,200 จากราคาปัจจุบันที่ $829
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel