กรรมการ Fed สายสนับสนุนการใช้นโยบายการเงินเข้มงวด 3 คน เรียกร้องให้ผู้กำหนดนโยบายลดการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบลง (QE Tapering) แม้สหรัฐฯ ยังเผชิญความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลต้า
Robert Kaplan ประธาน Fed สาขาดัลลัส กล่าวกับ CNBC ว่า อยากเห็นแผน QE Tapering ในการประชุม Fed เดือน ก.ย.นี้ เพื่อดำเนินการต่อในเดือน ต.ค. หรือหลังจากนั้นไม่นาน
ซึ่งความเห็นดังกล่าว เปลี่ยนไปเล็กน้อยจากความคิดเห็นล่าสุดของเขา ที่ยินดีจะปรับการเรียกร้องลง หากการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลต้าส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ
ในขณะที่ Esther George ประธาน Fed สาขาแคนซัสซิตี้ มีความเห็นที่ยืดหยุ่นมากกว่า แต่ก็ต้องการให้เริ่มลดวงเงิน QE ภายในปีนี้เช่นเดียวกัน
Esther George ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg TV เมื่อวันพุธ (25 ส.ค.) ว่า สิ่งสำคัญคือ การกำหนดจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของการ QE Tapering โดยพร้อมเปิดใจรับฟังการอภิปราย แต่ไม่เห็นด้วยหากเลื่อนการตัดสินใจออกไป
โดย Esther George มองว่าเศรษฐกิจยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ผลกระทบจากการแพร่ระบาดสายพันธุ์เดลต้าอาจทำให้ตอบแทนจากตลาดแรงงานบางส่วนชะลอตัวลง แต่จะไม่ส่งผลถึงขนาดทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ
เมื่อวานนี้ (26 ส.ค.) James Bullard ประธาน Fed สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวกับ CNBC ว่า ผลกระทบของสายพันธุ์เดลต้าจะมาถึงจุดพีคในจุดหนึ่ง แต่สิ่งที่สำคัญ คือ เศรษฐกิจจะเรียนรู้ปรับตัวต่อโรคระบาดได้ และเรียกร้องให้เริ่มการ QE Tapering ในฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.- พ.ย.) และสิ้นสุดภายในไตรมาสแรกของปีหน้า
James Bullard กังวลว่า การเข้าซื้อสินทรัพย์อาจสร้างความเสียหายมากกว่าการช่วยเหลือ เนื่องจากเริ่มมีสัญญาณฟองสบู่ในตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ โดยตอนนี้ ราคาบ้านเฉลี่ยเข้าใกล้ 400,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการกีดกันผู้มีรายได้น้อยออกจากตลาด
Esther George สนับสนุนการใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดมาอย่างยาวนาน ขณะที่ James Bullard ได้เปลี่ยนมุมมองมาเป็นสายนโยบายการเงินเข้มงวดขึ้น หลังตลาดแรงงานฟื้นตัวมากขึ้น โดยทั้งคู่จะสามารถโหวตได้ในปี 2022 ในขณะที่ Robert Kaplan มีสิทธิ์โหวตในปี 2023
ความเห็นพวกเขาทำให้หุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง ในขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวเพิ่มขึ้น และเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
ซึ่งความเห็นของทั้ง 3 คนไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกับประธาน Fed โดย Jerome Powell แสดงน้ำเสียงที่อดทนมากขึ้น และจะแสดงมุมมองดังกล่าวในสุนทรพจน์เปิดประชุมแจ็กสันโฮล ช่วง 21.00 ของวันนี้
ในการประชุม FOMC วันที่ 27-28 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ Fed ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าสามารถเริ่มชะลอการซื้อพันธบัตรในปลายปีนี้ เพราะสามารถบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อและการจ้างงานได้เพียงพอแล้ว
ก่อนหน้านี้ Fed ได้ให้คำมั่นว่าจะซื้อพันธบัตรมูลค่า 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ ตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือน จนกว่าเศรษฐกิจจะมีสัญญาณฟื้นตัวจากโควิด-19 ในด้านเงินเฟ้อและการจ้างงาน
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel