งานวิจัยจากเกาหลีใต้ เผยว่า การฉีดวัคซีน AstraZeneca เข็มแรก แล้วตามด้วยวัคซีน Pfizer เข็มสอง ช่วยกระตุ้นการเกิดภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโควิดได้มากกว่าการฉีดวัคซีน AstraZeneca อย่างเดียว 2 โดส ถึง 6 เท่า
งานวิจัยดังกล่าวมีบุคลากรทางแพทย์ร่วมทดลอง 499 ราย โดย 100 ราย ได้รับวัคซีนแบบผสม 200 รายได้รับวัคซีน Pfizer 2 โดส และที่เหลือได้รับ วัคซีน AstraZeneca 2 โดส
ผลการทดลองพบว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนแบบผสม (AstraZeneca ตามด้วย Pfizer) มีปริมาณแอนติบอดี้หรือภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโควิดไม่แตกต่างจากผู้ที่ได้รับวัคซีน Pfizer 2 โดส
ผลปรากฎว่า ผู้ทดลองทุกกลุ่มมีภูมิคุ้มกันต่อโควิดสายพันธุ์อัลฟ่า แต่ประสิทธิภาพภูมิคุ้มกันลดลง 2.5 – 6 เท่า ในโควิดสายพันธุ์เบต้า แกมมา และเดลตา
สอดคล้องกับวิจัยจากสหราชอาณาจักร ช่วงปลายเดือน มิ.ย. รายงานว่า การฉีด AstraZeneca แล้วตามด้วย Pfizer ช่วยกระตุ้นการเกิดภูมิต้านทานได้มากกว่า การฉีด Pfizer แล้วตามด้วย AstraZeneca
งานวิจัยนี้มีผู้ร่วมทดลอง 830 ราย โดยเว้นระยะห่างการฉีดเข็มแรกและเข็มสองต่างกัน ผลการทดลองชี้ว่า การใช้ AstraZeneca ร่วมกับ Pfizer ทำให้เกิดภูมิคุ้มกันสูงกว่าการฉีด AstraZeneca 2 เข็ม ไม่ว่าจะเว้นระยะห่างระหว่าง 4 ถึง 12 สัปดาห์
Matthew Snape หัวหน้าทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย Oxford แนะนำว่า การทดลองช่วยให้แผนการแจกจ่ายวัคซีนยืดหยุ่นขึ้น แต่ไม่ได้เป็นแผนแนะนำให้เปลี่ยนแปลงวิธีการฉีดวัคซีนเดิม ที่ผ่านการวิจัยเชิงทดลองทางคลินิกของบริษัทผู้ผลิต
Matthew Snape กล่าวเสริมว่า “การฉีดวัคซีนยี่ห้อเดียวกันทั้งสองเข็มเป็นสิ่งที่ควรยึดไว้ เว้นแต่มีเหตุผลจำเป็นจริงๆ”
งานวิจัยดังกล่าวช่วยสนับสนุนการตัดสินใจของหลายประเทศที่เริ่มหาวัคซีนตัวอื่นเป็นเข็มที่ 2 แทนวัคซีน AstraZeneca หลังจากมีรายงานปัญหาการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในผู้ที่ฉีด AstraZeneca ครบ 2 โดส
ที่มา: Reuters
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel