Tesla ประกาศงบ Q2 ดีกว่าคาด กำไรสุทธิทะลุ 1,140 ล้านดอลลาร์ โตจากปีที่แล้ว 10 เท่า และไม่ได้ขาย Bitcoin ออกไป แม้ราคาจะร่วงหนักก็ตาม
Tesla ประกาศงบไตรมาส 2 ของปีนี้ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ โดยหลังการประกาศงบ ราคาหุ้น Tesla พุ่งขึ้น 2.21% (26 ก.ค.)
- กำไรสุทธิทะลุ 1,140 ล้านดอลลาร์ (37,500 ล้านบาท) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 10 เท่า
- กำไรต่อหุ้น (EPS): $1.45 เทียบกับ $0.98 คาดการณ์จาก Refinitiv
- รายได้: 11,960 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ 11,300 ล้านดอลลาร์ คาดการณ์จาก Refinitiv
ในภาพรวมรายได้หลักมาจากการขายรถยนต์อยู่ที่ 10,210 ล้านดอลลาร์ และบริษัทสามารถทำกำไรต่อหน่วย (Gross Margin) ได้ถึง 28.4% สูงสุดที่เคยทำได้ในรอบ 1 ปี
นั่นแปลว่ากำไรที่มาจากกการขาย Regulatory Credits อยู่ที่เพียง 354 ล้านดอลลาร์ (3.5% จากรายได้ทั้งหมด) ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำสุดในรอบ 1 ปี
Tesla ประกาศ จำนวนการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ที่ 201,250 คัน และจำนวนการผลิตรถยนต์ทั้งหมดที่ 206,421 ในสิ้นไตรมาสที่ 2 ของปีนี้
บริษัทรายงานรายได้จากธุรกิจพลังงาน ทั้งการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ และระบบกักเก็บพลังงาน อยู่ที่ 801 ล้านดอลลาร์ เติบโตจากไตรมาสก่อนถึง 60%
แม้ว่า Tesla จะไม่ได้รายงานว่าขายหน่วยเก็บพลังงานไปเท่าไร แต่เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน Elon Musk กล่าวว่าบริษัทสามารถผลิตหน่วยเก็บพลังงานได้เพียง 30,000 – 35,000 ในไตรมาสนี้ โดยกล่าวโทษการขาดแคลนชิปทั่วโลก
Tesla ประกาศ การด้อยค่าจากการถือ Bitcoin ที่ 23 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 จากการปรับตัวลงอย่างรุนแรงของราคา Bitcoin โดยการด้อยค่าดังกล่าวถูกรายงานเป็นค่าใช้จ่ายการดำเนินงานในหัวข้อการปรับโครงสร้างและอื่น ๆ
ในไตรมาสแรกของปีนี้ Tesla รายงานกำไรสุทธิที่ 101 ล้านดอลลาร์ โดยกำไรดังกล่าวมาจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง และจากการขาย Bitcoin เพื่อทำกำไรบางส่วน
ในเดือนกุมภาพันธ์ Tesla ได้ซื้อ Bitcoin มูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่างบ R&D ทั้งหมดของบริษัท ต่อมาในสิ้นเดือนมีนาคม จากราคาของ Bitcoin ที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้ Bitcoin ที่ Tesla ถือครองมีมูลค่า 2,480 ดอลลาร์
เนื่องจาก Tesla ไม่ได้ปรับมูลค่าของ Bitcoin ตามราคาตลาดล่าสุด (mark-to-market) หมายความว่าจะรับรู้แค่เพียงผลประโยชน์ที่ได้รับจากการขายทำกำไร ดังนั้น แม้มูลค่า Bitcoin ลดลง ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ หาก Tesla ไม่ได้ขายการถือครองออกไป
อีกความท้าทายที่ Tesla ต้องเจอในช่วงไตรมาสก่อนคือ การตอบรับเชิงลบของผู้บริโภคในจีน จากการเรียกคืนสินค้าในจีนและสหรัฐฯ รวมถึงการส่งมอบรถยนต์ซีดานรุ่น Model S Plaid ล่าช้า
ปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องกับทั้ง Tesla และผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น โดยในรายงานผู้ถือหุ้น Tesla ประกาศเลื่อนการเปิดตัวโครงการรถบรรทุกออกไปในปี 2565
การประชุมผู้ถือหุ้นล่าสุด Elon Musk กล่าวว่า อุปสรรคใหญ่ในไตรมาสนี้คือการจัดหาชิ้นส่วนสำหรับถุงลมนิรภัยและเข็มขัดนิรภัยให้เพียงพอในการผลิต เนื่องจากปัญหาชิ้นส่วนขาดแคลนในโรงงานที่ฟรีมอนต์ แคลิฟอร์เนีย และเซี่ยงไฮ้
Elon Musk ยังตอบคำถามว่า ทำไม Tesla ไม่ผลิตชิปเองเพื่อเลี่ยงการขาดแคลน Musk กล่าวว่า ปัญหาด้าน supply chain เป็นสิ่งที่เทสลาจะแก้ไขร่วมกับผู้ผลิต และการผลิตชิปเจ๋งๆ ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
ที่มา: CNBC
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel