จีนประณามการกระทำของสหรัฐฯ ที่ขึ้นบัญชีดำบริษัทเทคโนโลยีจีนหลายแห่ง พร้อมระบุว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวละเมิดฉันทมติของปธน.สี จิ้นผิง และปธน.โจ ไบเดน

Shu Jueteng โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน กล่าวเมื่อวานนี้ (25 พ.ย.) ว่า การที่สหรัฐฯ เพิ่มบริษัทจีนลงในบัญชีดำนั้นไม่เป็นไปตามฉันทมติที่ตกลงกันระหว่าง 2 ผู้นำ โดยการกระทำดังกล่าวจะเป็นอันตรายต่อทั้งสองประเทศ และจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

ก่อนหน้านี้ (24 พ.ย.) กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้เพิ่มบริษัทจีน 8 แห่ง ลงในบัญชีดำที่เรียกว่า Entity List โดยอ้างเหตุผลว่าบริษัทเหล่านี้มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ ซึ่งบัญชีดังกล่าวจะทำให้ซัพพลายเออร์ต่างๆ ไม่สามารถทำธุรกิจร่วมกับบริษัทในรายชื่อนั้นได้ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตพิเศษ

สัปดาห์ที่แล้ว ปธน.สี จิ้นผิง และปธน.โจ ไบเดน เข้าร่วมการประชุมแบบพบกันครั้งแรก โดยทั้งสองฝ่ายเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการพูดคุยเพิ่มเติมระหว่างรัฐบาลของทั้ง 2 ประเทศ โดยแม้จะไม่มีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ แต่ในการประชุมดังกล่าว ทั้งสองฝ่ายต้องการรักษาความสัมพันธ์ที่เกิดจากความตึงเครียดในประเด็นไต้หวัน ซินเจียง รวมถึงการขึ้นบัญชีดำบริษัทจีนของสหรัฐฯ

บริษัทในเครือสามแห่งของ Corad Technology ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีของจีน ถูกเพิ่มรายชื่อลงในบัญชีดำ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ให้เหตุผลว่า บริษัทมีส่วนเกี่ยวข้องในการขายเทคโนโลยีตะวันตกให้กับบริษัทแนวหน้าของเกาหลีเหนือ รวมถึงผู้ใต้บังคับบัญชาของรัฐบาลจีน

การมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือกองทัพจีนพัฒนาควอนตัมคอมพิวเตอร์เป็นอีกเหตุผลที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ อ้างถึง นอกจากนี้ ยังมีบริษัทจีน และบริษัทปากีสถานอีกหลายแห่งที่ถูกขึ้นบัญชีดำเนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องในการเคลื่อนไหวด้านนิวเคลียร์ของโครงการขีปนาวุธของปากีสถาน

สหรัฐฯ ได้ขึ้นบัญชีดำทั้งหมด 27 รายชื่อจากบริษัทในจีน, ญี่ปุ่น, ปากีสถาน และสิงคโปร์ โดย Gina Raimondo รมว.พาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวว่า บัญชีดังกล่าวจะช่วยป้องกันไม่ให้เทคโนโลยีสหรัฐฯ ไปอยู่กับความก้าวหน้าทางทหารของจีนและรัสเซีบ รวมถึงโครงการขีปนาวุธของปากีสถาน

Shu Jueteng โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน กล่าวประณามว่า สหรัฐฯ สรุปแนวคิดเรื่องความมั่นคงของชาติ และทำการคว่ำบาตรบริษัทจีนโดยพลการทั้งที่ไม่มีหลักฐาน ดังนั้นจีนจะประท้วงอย่างแข็งขันต่อการกระทำดังกล่าวของสหรัฐฯ

ขณะที่ Zhao Lijian โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวว่า จีนสามารถดำเนินมาตรการตอบโต้กับสหรัฐฯ ได้หากจำเป็น และเรียกร้องให้ฝ่ายบริหารของปธน.ไบเดน เร่งแก้ไขสิ่งผิดพลาด จากการที่สหรัฐฯ ยังคงตอกย้ำแนวคิดเรื่องความมั่นคงของชาติ และใช้อำนาจรัฐกดขี่บริษัทจีน

อ้างอิง: https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-11-25/china-says-u-s-tech-blacklist-moves-violate-xi-biden-consensus?srnd=premium-asia&sref=e4t2werz 

——————-