Jamie Dimon ซีอีโอของ JPMorgan ออกมาขอโทษหลังกล่าวว่า บริษัทของเขาจะอยู่นานกว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งนั่นทำให้จีนรู้สึกไม่พอใจ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญออกโรงเตือนว่า คำพูดดังกล่าวอาจเป็นภัยต่อการดำเนินธุรกิจของ JPMorgan ในจีน
Jamie Dimon แถลงการณ์เมื่อวานนี้ (24 พ.ย.) ว่า เขารู้สึกเสียใจต่อสิ่งที่พูด และไม่ควรแสดงความเห็นเช่นนั้นออกมา โดยเจตนาของเขาต้องการเน้นย้ำถึงความแข็งแกร่งของ JPMorgan เท่านั้น โดยก่อนหน้านี้ในเดือน ส.ค. JPMorgan ได้รับอนุญาตให้เป็นบริษัทโบรกเกอร์ต่างชาติรายแรกที่สามารถดำเนินกิจการเต็มรูปแบบได้ในประเทศจีน
ในงานสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยบอสตันเมื่อวันอังคาร (23 พ.ย.) Jamie Dimon ได้กล่าวคำพูดล้อเลียนว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนกำลังฉลองครบ 100 ปี เช่นเดียวกับ JPMorgan แต่พนันได้เลยว่าบริษัทของเราจะอยู่นานกว่า และต่อท้ายว่า ผมพูดภาษาจีนไม่ได้ แต่พวกเขาคงฟังกันอยู่แล้ว
คำพูดของดังกล่าว ทำให้ Hu Xijin บรรณาธิการ Global Times สื่อข่าวที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน กล่าวเตือนผ่านทางทวิตเตอร์ให้ Jamie Dimon คิดถึงผลกระทบระยะยาวก่อนพูดออกมา เพราะเขามั่นใจว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะอยู่ได้นานกว่าสหรัฐอเมริกาด้วยซ้ำ
ขณะที่ Zhao Lijian โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (24 พ.ย.) ว่า ทำไมการประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลจีนต้องถูกหยุดชะงักด้วยคำพูดล้อเลียนบางอย่าง
ปฏิกิริยาจากทางฝั่งจีนทำให้ Jamie Dimon ออกมาขอโทษว่า รู้สึกเสียใจกับคำพูดล่าสุด เพราะมันไม่ใช่เรื่องถูกต้องที่จะล้อเลียน หรือดูหมิ่นใครก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นประเทศ ผู้นำ หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม และคำพูดในลักษณะแบบนั้นจะไปทำลายบทสนทนาที่สร้างสรรค์และรอบคอบ ซึ่งจำเป็นอย่างมากในปัจจุบัน
ผู้บริหารทั่วโลกมักเลือกคำพูดที่ระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อพูดคุย หรือกล่าวถึงประเทศจีน โดยก่อนหน้านี้ในปี 2019 UBS ตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก หลังการวิจารณ์ของนักเศรษฐศาสตร์คนหนึ่งของบริษัท ถูกตีความว่าเป็นการเหยียดเชื้อชาติ จนทำให้บริษัทสูญกำไรจากสัญญาที่ทำกับลูกค้าที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน
Eswar Prasad ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยคอร์เนลกล่าวว่า Jamie Dimon ออกมาขอโทษอย่างรวดเร็ว เพื่อลดความเสียหายอาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งนี่แสดงให้เห็นว่าธุรกิจต่างชาติต้องแสดงความเคารพต่อรัฐบาลจีน เพื่อเข้าถึงตลาดจีน
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel