News Update: ไบเดนเผนแผนยกหนี้กยศ.สหรัฐฯ ปลดหนี้คนละ 3.6 แสนบาท สูงสุดกว่า 7 แสนบาท หวังเรียกคะแนนนิยมก่อนเลือกตั้งกลางเทอมนี้

ปธน.โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ประกาศแผนยกหนี้ ‘เงินกู้เพื่อการศึกษา’ หวังช่วยประชาชน 20 ล้านคน ตามที่เคยสัญญาไว้ก่อนหน้านี้

ภายใต้แผนดังกล่าว จะมีการปลดหนี้มูลค่า $10,000 สำหรับผู้กู้ส่วนใหญ่ (ประมาณ 359,400 บาท*) และ $20,000 สำหรับผู้กู้จากกองทุน Pell Grants (ประมาณ 718,800 บาท*) ซึ่งเป็นผู้กู้ที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษเพื่อเรียนชั้นปริญญาตรี โดยผู้ที่จะได้รับสิทธิ์นี้ต้องมีรายได้ไม่เกิน 125,000 ดอลลาร์ต่อปี หรือมีรายได้ครัวเรือนต่ำกว่า 250,000 ดอลลาร์

นอกจากนี้จะมีการยืดเวลาชำระหนี้ต่อไปสำหรับผู้ที่กู้เงินจากรัฐบาลเพื่อการศึกษาจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2022 นี้ แต่ย้ำว่า แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย สำหรับยอดชำระคืน สามารถชำระคืนได้สูงสุด 5% ของรายได้ต่อเดือน

อย่างไรก็ตาม แผนดังกล่าวอาจต้องเผชิญเเรงต้านทางกฎหมาย แต่หากสามารถอนุมัติใช้ได้จริง จะมีคนจำนวนมากได้รับประโยชน์ ก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ที่ประชาชนจะเลือก ส.ว.และส.ว. ชุดใหม่เข้าสภา ซึ่งขณะนี้ ปธน. ไบเดน เสียความนิยมไปมาก

ข้อมูลระบุว่า มีประชาชนกว่า 43 ล้านคนที่กู้เงินเพื่อการศึกษาจากรัฐบาลกลาง โดยมีมูลค่าหนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 37,667 ซึ่งทำเนียบขาวประเมินว่าการปลดหนี้ครั้งนี้จะช่วยประชาชนอเมริกันได้ราว 20 ล้านคน

แน่นอนว่ามีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับแผนยกหนี้ดังกล่าว

ผู้ที่เห็นด้วยมองว่า นี่เป็นการช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคม สถิติจากสถาบันวิจัยด้านนโยบาย Brookings Institution พบว่า คนผิวดำในอเมริกาเป็นหนี้มากกว่าคนผิวขาวโดยเฉลี่ยเกือบ 25,000 ดอลลาร์

ขณะที่ ผู้ที่ไม่เห็นด้วยนั้นมีทั้งผู้ที่เรียกร้องให้ปธน.ไบเดน ออกมาตรการช่วยเหลือมากกว่านี้ รวมถึงผู้ที่ตั้งคำถามเรื่องความยุติธรรมต่อความพยายามช่วยปลดหนี้ครั้งนี้

นอกจากนี้ยังมีการตั้งคำถามว่า แผนยกหนี้ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเนื่องจากการใช้จ่ายส่วนบุคคลและการออมเปลี่ยนไปหรือไม่ ซึ่ง Beth Akers อดีตนักเศรษฐศาสตร์สมัยปธน. จอร์จ ดับเบิลยู. บุช มองว่า นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้เกิดเงินเฟ้อมหาศาล มันอาจจะเพิ่มแรงกดดัน แต่ไม่ใช่ตัวเปลี่ยนเกมในประเด็นเงินเฟ้อ

*อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 25 ส.ค. ที่ 1 ดอลลาร์ เท่ากับ 35.94 บาท

อ้างอิง:

——————-

👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน