กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เผย เงินเฟ้อสหรัฐฯ เร่งตัวต่อเนื่องในเดือน พ.ย. โดยดัชนี PCE พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมสินค้าหมวดอาหารและพลังงาน ปรับเพิ่มขึ้น 0.5% จากเดือนที่แล้ว หลังปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือน ต.ค.
ส่งผลให้ดัชนี PCE พื้นฐานเดือน พ.ย. พุ่งขึ้น 4.7% จากปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี นับตั้งแต่เดือน ก.พ. ปี 1989 หลังทำสถิติล่าสุดด้วยการเพิ่มขึ้น 4.2% ในเดือน ต.ค.
ขณะที่ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานทรงตัวตามคาดการณ์อยู่ที่ 205,000 ราย ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการครั้งแรกอยู่ในระดับต่ำกว่าก่อนเกิดการแพร่ระบาด
โดยปกติแล้วจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการครั้งแรกจะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาว แต่ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในตลาดจำนวนมากส่งผลให้ตัวเลขดังกล่าวลดลง ขณะที่อัตราว่างงานสหรัฐฯ อยู่ที่ 4.2% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 21 เดือน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานการใช้จ่ายผู้บริโภคในเดือน พ.ย. ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนที่แล้ว หลังปรับตัวขึ้น 1.4% ในเดือน ต.ค.
โดยเมื่อปรับค่าเงินเฟ้อแล้ว การใช้จ่ายของผู้บริโภคทรงตัวในเดือน พ.ย. หลังเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือน ต.ค. โดยแม้ว่าตัวเลขการใช้จ่ายที่แท้จริงจะไม่เปลี่ยนแปลงแต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะเร่งตัวขึ้นในไตรมาสที่ 4
ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์โดย Reuters ระบุว่า ตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของ GDP ไตรมาส 4 สูงถึง 7.4% จากการขยายตัว 2.3% ในไตรมาส 3 โดยคาดว่า GDP ทั้งปี 2021 จะเติบโตอยู่ที่ 5.6% ซึ่งจะเป็นการขยายตัวมากสุดนับตั้งแต่ปี 1984
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีหน้ายังคงเลือนลาง จากทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงร่างกฎหมาย Build Back Better ของปธน.โจ ไบเดนที่ได้รับแรงสั่นคลอนหลังส.ว.โจ แมนชินประกาศว่าไม่สนับสนุนแผนดังกล่าว ส่งผลให้นักเศรษฐศาสตร์เริ่มปรับลดประมาณการการเติบโตในปีหน้า
อ้างอิง: https://www.cnbc.com/2021/12/23/us-weekly-jobless-claims-unchanged-at-205000.html
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel