News Update: BlackRock มองวิกฤติยูเครน จุดเปลี่ยนโลกการเงิน ยกระดับ “คริปโตฯ” สู่เครื่องมือทำธุรกรรมระหว่างประเทศ ลดความเสี่ยงฟอกเงิน - ทุจริต

Larry Fink ซีอีโอ BlackRock มอง วิกฤติรัสเซีย-ยูเครนเป็นตัวเร่งให้สกุลเงินดิจิทัลกลายมาเป็นเครื่องมือทำธุรกรรมระหว่างประเทศ

BlackRock บริษัทจัดการการลงทุนที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมูลค่า 10 ล้านล้านดอลลาร์ กล่าวว่า สงครามในครั้งนี้จะไปผลักดันให้ประเทศต่างๆ พิจารณาการพึ่งพาสกุลเงินใหม่อีกครั้ง โดยบริษัทได้เริ่มศึกษาสกุลเงินดิจิทัลและ Stablecoin มาพักใหญ่ จากความสนใจที่เพิ่มขึ้นของลูกค้า

“ระบบการเงินดิจิทัลที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน จะสามารถยกระดับการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ รวมถึงลดความเสี่ยงจากการฟอกเงินและการทุจริต” Larry Fink กล่าว

มุมมองของ Larry Fink แตกต่างจากในช่วงกลางปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด ตอนนั้นเขายกประเด็นความผันผวน และกล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่าคริปโทฯ เป็นเพียงเครื่องมือเก็งกำไรหรือไม่

“สงครามกำลังทำให้โลกาภิวัตน์ที่ดำเนินมาตลอด 30 ปียุติลง” Larry Fink กล่าว

Larry Fink กล่าวว่า การเข้าถึงตลาดทุนทั่วโลกไม่ใช่สิทธิแต่เป็นสิทธิพิเศษ พร้อมเสริมว่า BlackRock ได้ระงับการซื้อสินทรัพย์ในรัสเซีย จนเหลือน้อยกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ จากก่อนหน้านี้ที่ 18,000 ล้านดอลลาร์

Larry Fink มองว่า งบดุลของทั้งบริษัทและผู้บริโภคที่แข็งแกร่งขึ้นในทุกวันนี้ทำให้พวกเขาสามารถรับมือกับปัญหาที่ยากลำบากได้มากขึ้นก็จริง แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในห่วงโซ่อุปทานนั้นทำให้เกิดเงินเฟ้อโดยธรรมชาติ

ตอนนี้หลายธนาคารกลางทั่วโลกกำลังเผชิญกับภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่ไม่ได้เกิดขึ้นมานานหลายทศววรษ ที่ต้องเลือกระหว่าง การอยู่กับเงินเฟ้อ หรือ การชะลอเศรษฐกิจลงเพื่อควบคุมราคา

อ้างอิง: https://www.reuters.com/technology/blackrocks-fink-says-russia-ukraine-crisis-could-accelerate-digital-currencies-2022-03-24/ 

——————-

👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน
TSF2024