ยูเครนประกาศภาวะฉุกเฉินและขอให้พลเมืองเดินทางออกจากรัสเซีย ด้านสหรัฐฯ เตือน รัสเซียพร้อมเกือบ 100% ในการบุกยูเครนอย่างเต็มรูปแบบ
ยังมีการโจมตีด้วยปืนใหญ่อย่างต่อเนื่องในบริเวณพรมแดนทางด้านตะวันออกของยูเครน ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่ปธน.ปูตินของรัสเซีย ประกาศรับรองให้ 2 พื้นที่อิทธิพลของกบฏแบ่งแยกดินแดนเป็นรัฐอิสระ รวมถึงสั่งการให้กองทัพรัสเซียเริ่มปฏิบัติการรักษาสันติภาพในพื้นที่ดังกล่าว
ปธน.โวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ประกาศภาวะฉุกเฉินในประเทศยกเว้น 2 พื้นที่ที่ฝ่ายกบฏคุมอยู่เป็นเวลา 30 วัน และสั่งให้ผู้ชายทุกคนซึ่งอยู่ในวัยที่กำหนดเข้ารับการฝึกทหาร รวมถึงขอให้พลเมืองประมาณ 3 ล้านคน ที่อาศัยอยู่ในรัสเซียเดินทางออกทันที
รัฐบาลยูเครนยังระบุว่า ถูกโจมตีทางไซเบอร์ด้วยวิธี DDoS หรือการปล่อยข้อมูลปลอมเพื่อไม่ให้ระบบสามารถทำงานได้ตามปกติ จนทำให้กระทรวงและสถาบันการเงินหลายแห่งต้องปิดระบบคอมพิวเตอร์เมื่อวานนี้ (23 ก.พ.) ซึ่งยูเครนยังไม่ได้ระบุว่าใครอยู่เบื้องหลังการโจมตีดังกล่าว แต่ประเทศเดียวที่ถูกกล่าวหามาตลอดคือ รัสเซีย
ด้านรัสเซียยังคงออกมาปฏิเสธแผนรุกรานยูเครน แต่ก็ไม่ได้ถอนทหารตามที่เคยกล่าวไว้แต่อย่างใด และยังได้ทำการอพยพเจ้าหน้าที่ทูตออกจากสถานทูตรัสเซียในกรุงเคียฟของยูเครนอีกด้วย
สหรัฐฯ กล่าวว่า รัสเซียพร้อมเกือบ 100% ในการบุกยูเครนอย่างเต็มรูปแบบ โดย 80% ของทหารรัสเซียกว่า 150,000 นาย ที่ประจำการอยู่ตามแนวชายแดนมีสถานะพร้อมแล้วและสามารถเคลื่อนพลได้ทุกเวลา
ตอนนี้หลายชาติได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่ต่อรัสเซีย หลังรัสเซียประกาศรับรองเอกราชแก่ดินแดนที่อยู่ภายใต้การปกครองของกลุ่มกบฏในยูเครน และกล่าวว่าพร้อมใช้มาตรการที่รุนแรงขึ้นหากรัสเซียบุกยูเครนอย่างเต็มรูปแบบ
ด้านยูเครนกล่าวว่า มาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่ที่ออกมาเป็นเรื่องน่ายินดี แต่ตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องเพิ่มแรงกดดันไปที่ปธน.ปูตินเพื่อยับยั้งการรุกรานอย่างก้าวร้าวของรัสเซีย โดยควรมุ่งเป้าไปที่เครือข่ายและคนใกล้ชิดปูตินโดยตรงด้วยมาตรการที่รวดเร็วและรุนแรงมากขึ้น
อ้างอิง:
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel