จากความเสี่ยงของภาคธุรกิจเทคโนโลยีจีน ทำให้แม้ว่าจะมีแรงเทขายหุ้นจีนกว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ ก็ไม่อาจดึงดูดให้นักลงทุนกลับเข้ามาในตลาดหุ้นจีนได้

🇨🇳  ผลกระทบของบริษัทเทคโนโลยีจีน จากการปราบปรามที่เข้มงวดของภาครัฐ

การปรับตัวลงในหุ้นจีนจากการปราบปรามของภาครัฐ ส่งผลให้ P/BV Ratio ของบริษัท Tencent ต่ำกว่าในช่วงวิกฤตการณ์การเงินปี 2008 และทำให้ราคาหุ้น Alibaba ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง ร่วงลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ว่า Valuation ของบริษัทเทคโนโลยีจีนจะลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ได้มีคำแนะนำซื้อจากนักวิเคราะห์มากนัก

ข้อมูลจาก Bloomberg ชี้ว่า นักลงทุนในตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ซึ่งเป็นผู้ซื้อหลักของหุ้นเทคโนโลยีจีนได้เทขายหุ้น Tencent ตั้งแต่เดือน มิ.ย. หลังนักลงทุนต่างชาติได้เทขายก่อนหน้านี้ในเดือน ก.พ. และ มี.ค.

ตั้งแต่จุดสูงสุดในเดือน ก.พ. Tencent, Alibaba, Kuaishou Technology และ Meituan เป็น 4 บริษัทที่สูญเสียมูลค่าตลาดมากที่สุดในโลก รวมแล้วกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ด้านดัชนี Hang Seng Index ปรับตัวลงไปกว่า 40% คิดเป็นมูลค่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์

นโยบายที่เข้มงวดขึ้นได้บังคับให้บริษัทต่างๆ ชะลอแผนการขยายธุรกิจ ในขณะที่กฎหมายต่อต้านการผูกขาดทำให้บริษัทขนาดใหญ่ต้องแข่งขันมากขึ้น ส่งผลให้รายได้ของ Alibaba พลาดเป้าเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี หลังการเติบโตชะลอตัวลงในทุกธุรกิจย่อย

สัปดาห์ที่ผ่านมา Tencent รายงานรายได้รายไตรมาส 2 ชะลอตัวลงมากสุดนับตั้งแต่ปี 2019 โดยบริษัทได้เพิ่มเงินโครงการความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นจำนวน 2 เท่า สู่มูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในความพยายามด้านการกุศลที่ใหญ่ที่สุดของ Tencent

🇨🇳  นักวิเคราะห์มองว่าการปรับตัวลงในหุ้นจีนยังไม่สิ้นสุดในเร็วๆ นี้

Alex Au กรรมการผู้จัดการจาก Alphalex Capital Management HK แนะนำให้นักลงทุนประเมินเหตุผลและความเสี่ยงในการลงทุนหุ้นจีนอีกครั้ง โดยมองว่า การปรับตัวลงของตลาดหุ้นจีนจะยังไม่สิ้นสุดเร็วๆ นี้ ในเดือนที่แล้ว Alex Au เทขายหุ้นเทคโนโลยีจีนทั้งหมด และได้เปิดสถานะ Short ในหุ้นจีนที่เคยชื่นชอบ ในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

สัปดาห์ที่แล้ว Tencent เตือนนักลงทุนให้เตรียมพร้อมสำหรับการปราบปรามธุรกิจเทคโนโลยีจากภาครัฐเพิ่มเติม โดย Alex Au และนักวิเคราะห์หลายคน มองว่า หุ้นเทคโนโลยีเป็นกลุ่มที่เปราะบางที่สุดท่ามกลางการปราบปรามในหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่การศึกษา, e-commerce ไปจนถึง ธุรกิจรถเช่า

Sean Taylor หัวหน้าฝ่ายการลงทุนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จาก DWS กล่าวว่า การกำกับดูแลที่ไม่แน่นอน ทำให้ไม่อาจสรุปได้ว่าหุ้นเทคโนโลยีจีนในขณะนี้มีราคาถูก ต่อให้กำไรลดลงเรื่อยๆ หุ้นก็ยังมีราคาแพงในระดับปัจจุบัน เพราะไม่รู้ว่าจุดต่ำสุดคือตรงไหน

Li Weiqing ผู้จัดการกองทุนจาก JH Investment Management กล่าวว่า สัญญาณซื้อจะเกิดขึ้นเมื่อนโยบายจากภาครัฐมีความชัดเจน โดย Li Weiqing ได้เทขายหุ้นกลุ่มบริษัทอินเทอร์เน็ตออกไปตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว และขณะนี้กำลังวางแผนสังเกตการณ์จากระยะไกล

Tai Hui หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดเอเชีย จาก JPMorgan Asset Management กล่าวว่า นักลงทุนต้องการความชัดเจนจากทั้งหน่วยงานกำกับดูแล รวมถึงวิธีการที่บริษัทจะตอบสนอง ซึ่ง Valuation ในปัจจุบัน อาจไม่สะท้อนถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้อย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตาม Louis Lau ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุน จาก Brandes Investment Partners มองเห็นโอกาสจากการปรับตัวลงในครั้งนี้ โดยมองว่าหลายธุรกิจย่อยในบริษัทขนาดใหญ่มีราคาซื้อขายต่ำกว่าธุรกิจหลักอย่างมาก เช่น ธุรกิจชำระเงิน และ ธุรกิจคลาวด์ ซึ่งมี valuation ที่น่าสนใจมาก และเชื่อว่า 5 ปี หลังจากนี้ จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า เวลานี้อาจเป็นหนึ่งในโอกาสซื้อที่ดีที่สุด

ที่มา: Bloomberg

——————-