ข้อมูลที่รวบรวมโดย Goldman Sachs ระบุว่า เหล่าเฮดจ์ฟันด์ที่ทั้ง Bull และ Bear ในหุ้นได้ทำการ ‘ซื้อ’ หุ้นสหรัฐฯ ต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ติดต่อกัน และเป็นอัตราที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่ ต.ค. ปีที่แล้ว หลังจากกก่อนหน้านี้ ‘ขาย’ หุ้นสหรัฐฯ มา 5 สัปดาห์ติด
ส่วนที่ Morgan Stanley เหล่าลูกค้าได้เพิ่มเลเวอเรจทั้งในสถานะ Long และ Short ไปสู่ระดับสูงสุดในปี 2023
สอดคล้องกับข้อมูลของ JPMorgan ที่ระบุว่า บรรดากองทุนเฮดจ์ฟันด์ ทั่วโลก มีระดับเลเวอเรจสุทธิแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค.
ตอนนี้มุมมองตลาดขาลงเริ่มลดลงเรื่อยๆ หลังจากตลาดหุ้นพุ่งขึ้น 3 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ ถือเป็นการท้าทายหลายปัจจัยเสี่ยงทั้งความวุ่นวายในภาคธนาคาร ผลกำไรที่ลดลงของบริษัทจดทะเบียน และความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ
Quincy Krosby หัวหน้านักกลยุทธ์ทั่วโลกที่ LPL Financial มองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะ เหล่าผู้จัดการความเสี่ยงของสถาบันขนาดใหญ่รู้สึกว่าตลาดกำลังเป็นขาขึ้น ไม่สามารถนั่งเฉยๆ ได้ และต้องมีส่วนร่วม เพราะต้นทุนของการ ‘ตกรถ’ อาจสูงเกินไป ตอนนี้มีการคาดเดาว่า Fed สิ้นสุดการขึ้นดอกเบี้ยแล้ว ทำให้ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะถูกเลื่อนออกไป
นี่ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในอเมริกา เพราะที่ญี่ปุ่น ดัชนี Topix ทำจุดสูงสุดตั้งแต่ปี 1990 ส่วนในยุโรป ดัชนี Stoxx Europe 600 อยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือน
ดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากดันดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 140 จุด ในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถผ่านระดับ 4,200 จุดได้
——————-
👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel