เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (19 พ.ย.) ส.ส. สหรัฐฯ มีมติอนุมัติร่างกฎหมาย ‘Build Back Better’ เพื่อลงทุนสนับสนุนด้านสังคมมูลค่า 1.75 ล้านดอลลาร์ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งต่อไปยังวุฒิสภาที่คาดว่าจะทัดทาน และแก้ไขร่างกฎหมายดังกล่าว

ร่างกฎหมาย Build Back Better ผ่านมติด้วยคะแนนเสียง 220 ต่อ 213 เสียง โดยการลงมติเป็นไปอย่างล่าช้า เนื่องจาก เควิน เเม็คคาธี ผู้นำ ส.ส.รีพับลิกัน อภิปรายคัดค้านร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นเวลากว่า 8 ชั่วโมง

ขณะที่ ปธน.โจ ไบเดน ผู้เริ่มร่างกฎหมาย Build Back Better กล่าวในแถลงการณ์ว่า เขาตั้งตารอลงนามเพื่อให้ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นกฎหมายได้โดยเร็วที่สุด

สำหรับการผ่านร่างกฎหมายในวุฒิสภา พรรคเดโมแครตต้องการเสียงสนับสนุนทั้งหมดจากวุฒิสภาเดโมแครต เนื่องจากวุฒิสภารีพับลิกันเตรียมคัดค้านร่างกฎหมายดังกล่าวอย่างพร้อมเพียง

พรรคเดโมแครตสามารถผ่านร่างกฎหมายโดยไม่ต้องพึ่งเสียงโหวตจากพรรครีพับลิกันได้ หากวุฒิสภาเดโมแครตทั้งหมด 50 เสียง มีมติสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าว เพื่อนำไปรวมกับเสียงชี้ขาดจากรองปธน.คามาลา เเฮร์ริส

คาดว่ารายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการภาษี และสิทธิประโยชน์ต่างๆ จะถูกพิจารณาในขั้นตอนของวุฒิสภา และอาจนำไปสู่การปรับเนื้อหาในร่างกฎหมาย โดยหากมีการแก้ไขเกิดขึ้น ร่างดังกล่าวจะถูกส่งกลับไปยังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ก่อนส่งไปให้ปธน.โจ ไบเดน ลงนามอนุมัติ

สำนักวิเคราะห์งบประมาณสหรัฐฯ ประเมินว่า ร่างกฎหมาย Build Back Better จะส่งผลให้การขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางเพิ่มขึ้น 367,000 ล้านดอลลาร์ ในอีก 10 ปีข้างหน้า แต่ในขณะเดียวกันจะมีรายได้จากการเก็บภาษีเพิ่มขึ้น และทำให้รายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 127,000 ล้านดอลลาร์

รายละเอียดในร่างกฎหมายฉบับล่าสุด ประกอบด้วย

• โครงการเรียนฟรีสำหรับเด็กวัยก่อนเรียนอายุ 3-4 ปี ที่นอกจากจะช่วยให้เด็กจำนวนหลายล้านคนเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าเรียน ยังช่วยให้ผู้ปกครองสามารถกลับไปทำงานได้เร็วขึ้น
• มอบเงินสำหรับเลี้ยงดูบุตรสูงสุด 7% ของรายได้ผู้ปกครอง สำหรับครอบครัวที่มีรายได้ไม่เกิน 2.5 เท่าของรายได้มัธยฐานของรัฐ
• ผู้ปกครองสามารถลางานโดยได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาลเป็นเวลา 4 สัปดาห์ กรณีลาป่วย หรือผู้ดูแลเด็กลางาน
• ขยายเครดิตภาษีเด็กออกไป 1 ปี ซึ่งช่วงปีที่ผ่านมา เครดิตภาษีนี้ได้ช่วยเหลือเด็กกว่า 3 ล้านคน และลดความยากจนโดยรวมของเด็กอเมริกันได้ถึง 25%
• ขยายเวลาเงินสนับสนุนประกันสุขภาพในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19
• สนับสนุนวงเงิน 500,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นการลงทุนในพลังงานสะอาดที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ​เคยทำมา
• เพิ่มวงเงินการลดหย่อนภาษีของรัฐบาลกลาง และรัฐบาลท้องถิ่น จาก 10,000 ดอลลาร์เป็น 80,000 ดอลลาร์

——————-