เศรษฐีจีนลดสัดส่วนการลงทุนหลักทรัพย์ในจีน มองหาสินทรัพย์ที่น่าลงทุนในสหรัฐฯ และต่างประเทศแทนเพื่อกระจายความเสี่ยง โดยจะเป็นกระแสที่เกิดขึ้นในปี 2023 ที่กำลังจะมาถึงนี้
VOA Thai รายงานว่า ชาวจีนผู้มั่งคั่งมกังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจอันไม่แน่นอนภายในประเทศ จากผลกระทบของโควิด และความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์หลังรัสเซียรุกรานยูเครน ซึ่งส่งผลกระทบต่อจีนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ข้อมูลจากบริษัทด้านการลงทุน Eurekahedge ระบุว่า กองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ลงทุนในจีนขาดทุนราว 12.9% ในปีนี้ ซึ่งถือเป็นผลประกอบการที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 11 ปี
ผู้จัดการกองทุนกล่าวว่า เศรษฐีจีนยังรู้สึกไม่สบายใจกับการผลักดันนโยบสย ‘ความมั่งคั่งร่วมกัน’ ของปธน. สี จิ้นผิง ที่หวังลดความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ของประชาชน และผลักดันให้พวกเขามองหาลู่ทางลงทุนในหลักทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ในต่างแดนแทน
แม้การลงทุนนอกจีนแผ่นดินใหญ่จะไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเศรษฐีชาวจีน แต่สัดส่วนการลงทุนที่เคยอยู่ในสินทรัพย์สัญชาติจีน เช่น หุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้คนจีนเริ่มศึกษานโยบายและกฎหมายด้านเศรษฐกิจและการลงทุนสหรัฐฯ เพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
ขณะที่ หนึ่งในผู้จัดการกองทุนในฮ่องกงที่ดูแลสินทรัพย์มากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ได้ปรับพอร์ตลงทุนในสินทรัพย์จีนลงจากระดับ 80% เมื่อปีที่แล้ว ให้เหลือเพียง 1 ใน 3 ของพอร์ต และเตรียมจะปรับลดสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์จีนเพิ่มเติม พร้อมกับมองหาโอกาสลงทุนในภาคพลังงานและอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะในญี่ปุ่นและสหรัฐฯ รวมทั้งในรูปแบบธุรกิจเงินร่วมลงทุน
——————-
👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel