วันเดียวกับที่ IMF ประกาศเตือนถึงเศรษฐกิจที่ปกคลุมไปด้วยเมฆ กลุ่ม LVMH กลับรายงานยอดขายที่แข็งแกร่งอย่างน่าประหลาดใจ บ่งชี้ว่าการช้อปสินค้าไฮเอนด์ของเหล่าเศรษฐียังห่างไกลจากจุดอิ่มตัว
เมื่อถูกถามถึงความสวนทางระหว่างเศรษฐกิจทั่วโลกและสินค้าไฮเอนด์ Jean-Jacques Guiony ที่เป็น CFO ของกลุ่ม LVMH ระบุว่า สินค้าแบรนด์เนมไม่ใช่ตัวแทนของเศรษฐกิจทั่วไป บริษัทขายสินค้าให้กับคนรวย พวกเขามีพฤติกรรมเป็นของตัวเองซึ่งไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับเศรษฐกิจ
หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ในช่วงเงินเฟ้อ ขณะที่คนขายของชำมองว่าลูกค้าของพวกเขาใช้เงินอย่างระมัดระวังมากแม้ใช้จ่ายเงินเพียงเล็กน้อย แต่ Louis Vuitton สามารถขึ้นราคาได้โดยไม่กระทบต่ออุปสงค์ในทันที
💵ความมั่งคั่งทั่วโลกเพิ่มขึ้น
การเติบโตอย่างมหาศาลในความมั่งคั่งทั่วโลกคือหนึ่งประเด็นที่อธิบายถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับสินค้าฟุ่มเฟือย ข้อมูลจาก Boston Consulting Group ระบุว่า ความมั่งคั่งทางการเงินทั่วโลกเติบโตขึ้น 10.6% ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นอัตราที่เร็วที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ นั่นหมายถึงความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้น 26 ล้านล้านดอลลาร์
💵คนอัดอั้นจากโควิด
การผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มโควิดก็มีบทบาทสำคัญด้วย หลังจากที่ทุกคนต้องทนอยู่กับโควิดมานานกว่า 2 ปี Gachoucha Kretz รองศาสตราจารย์ด้านการตลาดที่ HEC Paris กล่าวว่า ยุคหลังโควิดมีการซื้อของจากความอัดอั้นมานาน เพราะผู้บริโภคมองว่าชีวิตมันสั้น เดี๋ยวก็ตายอยู่ดี
💵อัตราแลกเปลี่ยน
ค่าเงินยังเป็นอีกเหตุผลนึง เห็นได้จากการช้อปปิ้งของเศรษฐีอเมริกันที่ไปยุโรปแล้วเงินยูโรอ่อนค่าหนักในรอบ 20 ปี จนพวกเขาไม่ลังเลที่จะต่อคิวซื้อ Chanel มูลค่า 9,000 ยูโร (8,850 ดอลลาร์) ที่ Rue Cambon ในปารีส ขณะที่นักช้อปหลายคนเลือกพักในโรงแรม Cheval Blanc Paris ของ LVMH ซึ่งตกคืนละ 55,000 ยูโร
Lucile Andreani หัวหน้าแผนกของ Christie’s ระบุว่า ความคลั่งไคล้ได้ขยายไปสู่ตลาดมือสองสำหรับกระเป๋าแบรนด์เนมที่ถูกมองว่าเป็นการลงทุนระยะยาวและดึงดูดผู้ซื้อรายใหม่มากขึ้น โดย ประมาณการว่าประมาณ 2 ใน 3 ของผู้ซื้อกระเป๋าถือในการประมูลตอนนี้เป็นผู้หญิง และอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 43 ปี เทียบกับ 54 ปีสำหรับสินค้าอื่นๆ
นับตั้งแต่ปี 2007 รายได้ของกลุ่ม LVMH โตแทบทุกปี ยกเว้นปี 2009 หลังวิกฤติการเงิน และปี 2020 ช่วงที่โควิดระบาด
——————-
👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel