ในวันอังคาร (17 ส.ค.) ปธน. สี จิ้นผิง ออกมาเน้นย้ำความจำเป็นในการกระจายความมั่งคั่งให้แก่ทุกคน ตามแนวคิด ‘Common Prosperity’ หรือ ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวคิดที่อยู่เบื้องหลังการปราบปรามเหล่าบริษัทเทคโนโลยีจีนก่อนหน้านี้

สื่อทางการจีน รายงานว่า ในการประชุมทางการเงินและเศรษฐกิจครั้งล่าสุด มีการเรียกร้องให้ปรับลดรายได้ส่วนเกินในกลุ่มคนและธุรกิจที่มีรายได้สูง และผลักดันให้นำรายได้ส่วนนี้คืนสู่สังคมมากขึ้น

ปธน. สี จิ้นผิง ระบุว่า ความเจริญรุ่งเรืองในกลุ่มคนบางกลุ่ม ไม่ใช่รูปแบบที่ถูกต้องของการกระจายความมั่งคั่งอย่างเท่าเทียม โดยสื่อทางการจีนมองเรื่องนี้จะเป็นเป้าหมายที่ถูกผลักดันให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น

ก่อนหน้านี้ แนวคิดความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันถูกพูดถึงหลายครั้ง และกลายเป็นประเด็นสำคัญของการอภิปรายทางการเมือง แต่รายละเอียดยังคงคลุมเครือ

Yue Su นักเศรษฐศาสตร์จาก The Economist Intelligence Unit คาดว่าจะได้เห็นทางการจีนนำแนวคิดนี้ไปปฏิบัติอย่างจริงจัง

โอกาสที่เป็นไปได้คือ การพิจารณาเพิ่มอัตราภาษีในรายได้จากการลงทุน รวมถึงกลุ่มที่มีรายได้สูง ซึ่งนโยบายเหล่านี้อาจขัดขวางการลงทุนในประเทศ และอาจทำให้เงินทุนไหลออกจากประเทศมากขึ้น โดย Yue Su เชื่อว่ารัฐบาลจีนคงไม่เดินหน้านโยบายขจัดความเหลื่อมล้ำโดยไม่สนใจผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีน

งานวิจัยปี 2019 โดย Thomas Piketty แสดงให้เห็นความเหลื่อมล้ำทางรายได้ของประเทศจีนที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วง 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมา

ในปี 1978 สัดส่วนคนรวยที่สุด 1 ใน 10 ของประเทศ มีรายได้คิดเป็น 27% ของทั้งหมด แต่ในปี 2015 กลุ่มคนเหล่านี้ กลับมารายได้เพิ่มขึ้นเป็น 41% ของรายได้ทั้งหมด

สวนทางกับผู้มีรายได้น้อย ที่มีสัดส่วนเป็นครึ่งหนึ่งของประเทศ โดยในปี 1978 ผู้มีรายได้น้อย มีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 27% ของรายได้ทั้งหมด แต่ในปี 2015 สัดส่วนรายได้ของคนกลุ่มนี้กลับลดลง เหลือเพียง 15% ของรายได้ทั้งหมดเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีความเหลื่อมล้ำทางรายได้ระหว่างคนที่อยู่ในเมืองและชนบทด้วย โดยในปี 2021 รายได้เฉลี่ยของคนในเมืองเซี่ยงไฮ้อยู่ที่ 7,058 หยวน/เดือน สูงกว่าเมืองอื่นๆ ทั่วประเทศ เฉลี่ยที่ 4,021 หยวน/เดือน แต่รายได้เฉลี่ยของคนในชนบทอยู่ที่เพียง 1,541 หยวน/เดือน

เมื่อปลายปีที่แล้ว รัฐบาลจีนแสดงความมั่นใจว่าจะสามารถขจัดความยากจนขั้นรุนแรงในประเทศ ซึ่งเป็นก้าวแรกในการบรรลุคำมั่นสัญญาระยะยาวของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

นักกลยุทธ์จาก Morgan Stanley กล่าวว่า จีนได้ตอกย้ำความพยายามในการเพิ่มส่วนแบ่งของเศรษฐกิจไปสู่คนชนชั้นกลางมากขึ้น

โดยมีการปรับสมดุลเศรษฐกิจไปสู่ชนชั้นแรงงาน, แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำโดยการจัดสรรปันส่วนใหม่(Redistribution), การส่งเสริมสวัสดิการสังคม, การปรับปรุงระบบภาษี และ การพัฒนาการศึกษาแบบเรียนรวม

นักวิเคราะห์คาดว่า รัฐบาลจีนอาจมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ เช่น การลดอัตราส่วนเงินสำรองในอนาคต จากการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในเดือน ก.ค. ที่ชะลอตัวกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ แต่สำหรับรัฐบาลจีนแล้ว เศรษฐกิจจีนไม่ได้สำคัญเท่ากับการแก้ปัญหาระยะยาว 

สี จิ้นผิง ย้ำว่า แกนหลักของเศรษฐกิจสมัยใหม่คือระบบการเงิน ที่ผูกไว้กับการพัฒนาและความมั่นคง รวมถึงเป็นไปตามหลักการของระบบตลาด (Marketization) และหลักนิติธรรม รวมถึงการร่วมมือกันเพื่อป้องกันความเสี่ยงทางด้านการเงิน

อ้างอิง: https://www.cnbc.com/2021/08/18/chinas-xi-emphasizes-common-prosperity-at-finance-economy-meeting.html

——————-