จับตาเศรษฐกิจจีนครึ่งปีหลัง คาดแนวโน้มครึ่งปีหลังถูกกำหนดโดยการควบคุมโควิดและวิกฤติภาคอสังหาฯ นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs หั่นเป้า GDP จีนปีนี้ เหลือ 3.3% ต่ำกว่าเป้าหมายของรัฐบาลที่ 5.5%
และนี่คือ 5 ประเด็นที่ต้องจับตาในช่วง 6 เดือนหลังของเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก
⚠️ การล็อกดาวน์
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ GDP ไตรมาสที่ผ่านมาโตเพียง 0.4% คือการล็อกดาวน์ในหลายเมืองเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโอมิครอน
นักเศรษฐศาสตร์จาก Nomura ระบุว่า จีนอยู่ภายใต้ “วัฏจักรธุรกิจโควิด (Covid Business Cycle)” โดยเมื่อตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น รัฐบาลจะสั่งล็อกดาวน์ และเมื่อเคสผู้ติดเชื้อลดลง รัฐบาลก็จะออกมาตรการกระตุ้นเพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัว นำไปสู่การติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นเป็นวัฏจักร ทำให้ความเร็วและระยะเวลาของการล็อกดาวน์เป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ท่าทีของปธน. สี จิ้นผิงมีความประนีประนอมมากขึ้น จากที่ยึดติดกับนโยบายโควิดเป็นศูนย์อย่างมาก สู่การบอกให้เจ้าหน้าที่รัฐลดความไม่สะดวกในชีวิตประจำวันของผู้คนขณะที่บังคับใช้นโยบาย
🏘️ ตลาดอสังหาฯ
ตลาดอสังหาฯ จีนที่คิดเป็นประมาณ 20% ของ GDP ตกต่ำลงเรื่อยๆ ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการล็อกดาวน์ที่ส่งผลต่อรายได้ของครัวเรือน ทำให้ความต้องการซื้อบ้านลดลงตามไปด้วย
ต่อให้การล็อกดาวน์จะผ่อนคลายลง แต่ความเสี่ยงในภาคอสังหาฯ อาจยังดำเนินไปต่อเนื่อง สัญญาณเตือนล่าสุดคือคว่ำบาตรการจำนองในหลายเมือง รวมถึงฝั่งธนาคารที่ออกมาบอกผู้ซื้อบ้านในอนาคตว่าอาจไม่ได้รับการส่งมอบบ้านตรงเวลา
นักเศรษฐศาสตร์คาดว่ารัฐบาลอาจออกมาตรการเพื่อสนับสนุนตลาดอสังหาฯ ซึ่งอาจรวมถึงการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ หรือการส่งสัญญาณว่าปริมาณเงินกู้แก่ผู้พัฒนาอสังหาฯ กำลังเพิ่มขึ้น ขณะที่ TS Lombard คาดการณ์ว่า แบงก์ชาติจีนจะปรับลดดอกเบี้ยลง 10 bps และลดข้อกำหนดการสำรองของธนาคารลง 50 bps
🏛️ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
แหล่งข่าวรายงานว่า รัฐบาลจีนอาจอนุมัติการขายพันธบัตรรัฐบาลท้องถิ่นจำนวน 7.2 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ สำหรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในปีนี้ ซึ่งจะสามารถเพิ่มการจ้างงานและการใช้จ่ายในครัวเรือนได้
รายได้ของรัฐบาลท้องถิ่นหายไป 2.7 ล้านล้านหยวนในช่วงครึ่งแรกของปี จากการล็อกดาวน์และวิกฤติในภาคอสังหาฯ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์จาก Absolute Strategy Research มองว่า แม้นโยบายการคลังจะผ่อนคลายมากอยู่แล้ว แต่คาดว่ารัฐบาลจีนจะกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่านี้อีก โดยทางที่เป็นไปได้คือ แบงก์ชาติจีนปล่อยสินเชื่อแก่ธนาคารพาณิชย์ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ หรือแม้แต่การซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยตรงโดยแบงก์ชาติ
🏢 การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน
ภาคการบริโภคคือส่วนประกอบหลักในการเติบโตของจีนตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ดังนั้น การใช้จ่ายอีกครั้งของครัวเรือนเป็นเรื่องสำคัญ ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนมีขนาดใหญ่กว่าการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ดังนั้นความเชื่อมั่นทางธุรกิจก็มีความสำคัญเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นใกล้ถึงจุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์แล้ว โดยผลสำรวจของแบงก์ชาติจีนเผยว่า ความคาดหวังในการจ้างงานของครัวเรือนต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2009 ขณะที่ชาวจีนตั้งใจออมเงินเพิ่มขึ้นเป็น 58% เทียบกับก่อนเกิดโควิดที่ 46%
📊 แนวโน้มเศรษฐกิจไม่สดใส
นักเศรษฐศาสตร์จาก Standard Chartered ระบุในรายงานว่า แม้จะมีคาดการณ์ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคจะเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงครึ่งหลังจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ แต่เศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวอย่างเฉื่อยชา
ความเชื่อมั่นของภาคเอกชนจีนที่รายงานโดยโรงเรียนธุรกิจ Cheung Kong อยู่ใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในประเทศเศรษฐกิจหลักจะทำให้การส่งออกของจีนชะลอตัว
ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์จาก NatWest Group กำลังจับตาดูสถานการณ์การจ้างงานอย่างใกล้ชิดในช่วงครึ่งหลัง เนื่องจากคาดว่าผู้กำหนดนโยบายจะเปลี่ยนลำดับความสำคัญจากเป้าหมาย GDP เป็นเป้าหมายการจ้างงานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel